Skip to content

พลิกปฐพี 130-2

ตอนที่ 130-2

ของพวกนี้คือสมบัติอันล้ำค่าในการหลอมอาวุธ

แต่อาวุธโหดเหี้ยมที่ใช้ในการฆาตกรรม กลับอยู่ในมือของเตียวหยวน

คราบโลหิตแปดเปื้อนไปทั่วร่างกายของเตียวหยวน แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรทั้งสิ้น สายตาอันโหดเหี้ยมมีความตื่นเต้นมากขึ้นกว่าเดิม เขาแลบลิ้นออกมาเลีย รอยเลือดตรงมุมปาก และพูดด้วยนํ้าเสียงอันเย็นเยียบว่า “ใครกล้าหักหลัง ก็จะมีจุดจบเช่นนี้”

วิธีการอำมหิตนี้ได้ทำให้เสียงแห่งความลังเลในขบวนหายเงียบไป

ทางฝั่งของเหมยจื่อจ้ง จ้าวหนานซิงเองก็เงียบลง

เขาไม่คิดว่าเตียวหยวนจะใช้วิธีการอันโหดเหี้ยมเช่นนี้ ซึ่งมันเกินจากความคาดหมายของตนเอง เหมยจื่อจ้งส่ายหน้าช้าๆ และพูดกับเตียวหยวนว่า “ฆ่าคนอย่างเลือดเย็นเช่นนี้ เจ้าไม่เหมาะจะเป็นลูกศิษย์โรงโอสถอีกต่อไป”

เตียวหยวนหัวเราะเยาะ “ข้าจะเหมาะหรือไม่ เจ้าไม่ใช่คนตัดสิน!”

“เตียวหยวน เจ้าไปเอาความมั่นใจมาจากไหน ว่าจะสามารถฆ่าเราในวันนี้ได้” อยู่ ๆ มู่ชิงเกอก็เยาะเย้ย ด้วยนํ้าเสียงอันเย็นเยียบ

ทันใดนั้น เตียวหยวนก็หันมองนาง สายตาที่แฝงความโหดเหี้ยมชัดเจนเป็นอย่างมาก “เจ้าวางใจเถิด ข้าไม่ทำให้พวกเจ้าผิดหวังแน่นอน”

พูดจบ ทันใดนั้นเตียวหยวนก็ใช้อาวุธปักลงบนร่างที่นอนอยู่บนพื้น แล้วออกแรงสะบัด จนร่างนั้นตกลงในทะเลสาบเยวี่ย

เสียงกระทบลงน้ำดังก้องจนเกิดเป็นคลื่นน้ำ และทำลายความสงบบนทะเลสาบเยวี่ย ทะเลสาบเยวี่ยที่ใสดั่งกระจก ในขณะนี้ดูเหมือนว่าจะมีเลือดแปดเปื้อน นํ้าสีใสกลับขุ่นขึ้นมาในทันที

ทุกคนล้วนแปลกใจในการกระทำของเตียวหยวนเป็นอย่างมาก

แต่เสียงหัวเราะของเตียวหยวนกลับมีความโหดเหี้ยมซ่อนอยู่ “รอก่อนเถิด ฉากอันน่าประทับใจ กำลังจะเถิดขึ้นแล้ว!” พูดจบ เขาก็สั่งคนที่อยู่ข้างหลังว่า “ปิดทางหนีของพวกเขา!”

ซ่งอวี้และคนอื่นๆ สะดุ้ง แต่เพราะความโหดเหี้ยมลือดเย็นของเตียวหยวน จึงจำเป็นต้องทำ

ทันใดนั้น แสงสีเหลืองและเขียวสิบกว่าสายพุ่งเข้าหาทั้งห้าคน

สายตาของเหมยจื่อจ้งเย็นเยียบลง ในมือมีแสงสีครามเกิดขึ้นและลงมือจู่โจมในทันที

จ้าวหนาชิงและซางจื่อซูเองก็ปล่อยพลังสีเขียวมาสู้กับทั้งสิบคนนั้น จูหลิงเองก็ไม่ยอมแพ้ ต่อสู้กับซ่งอวี้ที่มีพลังเวทพอๆ กับนางในทันที

“ศิษย์พี่จู………………. ” ซ่งอวี้มองหญิงสาวผู้งดงามที่อยู่ตรงหน้า รอยยิ้มของเขามีความเศร้าแฝงอยู่ จูหลิงเองก็ฝืนยิ้ม “ซ่งอวี้ วันนี้เจ้าและข้ายืนอยู่คนละฝั่งกัน ข้าจะไม่ปรานีและเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องออมมือ”

ซ่งอวี้พยักหน้าอย่างลำบากใจและเริ่มต่อสู้กับจูหลิง ทั้งห้า ราวกับมีเพียงมู่ชิงเกอที่ไม่มีคู่ต่อสู้

นางยืนอยู่กับที่ เพียงแค่มองเตียวหยวนที่ยืนอยู่ไม่ขยับเหมือนเดิม พร้อมกระตุกรอยยิ้ม ซึ่งในรอยยิ้มนั้นเต็มไป ด้วยความเย็นเยียบ

เมื่อเตียวหยวนเห็นนาง เขาก็เผยรอยยิ้มอันโหดเหี้ยมและเข้าโจมตีก่อน

เขาสะบัดมีดไปทางมู่ชิงเกอ มู่ชิงเกอเพียงแค่พลิกตัวเล็กน้อยก็สามารถหลบไปอย่างง่ายดาย

เตียวหยวนยืนอยู่ด้านข้างมู่ชิงเกอ และพูดอย่างเย็นเยียบว่า “รู้ว่าเจ้าชำนาญเรื่องการใช้ยาพิษ เพราะฉะนั้นวันนี้ข้าจึงไม่ได้ใช้ยาพิษ ไม่รู้ว่าพลังเวทของเจ้าเป็นอย่างไร”

มู่ชิงเกอกระตุกมุมปาก เผยรอยยิ้มอันร้ายกาจ “พลังเวทของข้าเป็นอย่างไร เจ้ายังไม่รู้หรือ” คำพูดที่มีความนัยแอบแฝง ทำให้เตียวหยวนหรี่ตาลงในทันที นํ้าเสียงพลันสูงขึ้นหลายเท่า “เจ้าจริงๆด้วย!”

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะนึกออกแล้ว” รอยยิ้มของมู่ชิงเกอชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม

เตียวหยวนมองมู่ชิงเกอด้วยสายตาอันโหดเหี้ยม แต่กลับไม่ลงมืออีกหน เขากำลังใช้การคิดคำนวณอย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านี้เขาได้ข่าวว่าผู้ที่ถูกสั่งให้ไปลอบทำร้ายมู่ชิงเกอถูกกวาดล้างทั้งกลุ่ม เขาคิดว่า เกิดเหตุสุดวิสัยอันใดขึ้นหรือว่ามู่ชิงเกออาจจะใช้ยาพิษ หรือไม่ก็บางทีอาจมีคนผ่านมาจึงช่วยเขาเอาไว้ แต่ว่า

กลับไม่เคยคิดเลยว่า คนกลุ่มนั้นจะถูกมู่ชิงเกอฆ่าด้วยตนเอง

คนเหล่านั้น มีหัวหน้าเป็นสายครามและสายเขียวอีกหลายคน และทุกๆ คนก็ล้วนโหดเหี้ยม สังหารคนมาแล้วไม่น้อย แต่กลับถูกมู่ชิงเกอฆ่าทั้งหมดอย่างนั้นหรือ

จากการวิเคราะห์แบบนี้ เขาอยู่ในสายใดกันแน่

ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกถึงความโชคดีและคิดว่าท่านอาจารย์ของตนช่างมองอะไรได้ปรุโปร่งนัก มิเช่นนั้น ฉากจบของวันนี้จะเป็นอย่างไรก็ยากที่จะคาดเดา

ทันทีที่นึกถึงไพ่ใบสุดท้ายของตนเอง ในใจของเตียนหยวนก็มีกำลังใจขึ้นมาหลายเท่า เขายิ้มอย่างเย็นเยียบ “มู่เกอ เจ้าคิดว่าตนเองเก่งกาจมากหรืออย่างไร วันนี้ นอกเสียจากเจ้าจะเป็นยอดฝีมือสายม่วงในตำนานแล้ว มิเช่นนี้ก็ยากที่จะรอดได้”

ราวกับเพียงยืนยันว่าคำพูดของเขาเป็นความจริง ทันทีที่เขาพูดจบ ทะเลสาบที่ขุ่นข้นก็ได้หมุนเป็นวงกว้าง

บนท้องฟ้า ปรากฏเสียงฟ้าผ่าดังสนั่น

มู่ชิงเกอเงยสายตาขึ้น คำพูดของเตียวหยวน นางยังไม่ทันได้คิดอะไรมาก เพียงแค่มองการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พลันรู้สึกไม่สบายใจ

ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้การต่อสู้อันดุเดือดหยุดลง

กำลังคนทั้งสองฝ่ายต่างถอยกลับไป จบการต่อสู้ไปยกหนึ่ง ฝ่ายของเหมยจื่อจ้งไม่มีใครบาดเจ็ยเลยแม้แต่คนเดียว ส่วนฝ่ายของเตียวหยวน กลับตกอยู่ในสภาพ ย่ำแย่มาก

เป็นเพราะเหมยจื่อจ้งออมมือ เพราะอย่างไรก็ตาม คนร้ายตัวจริงดือเตียวหยวน

“เกิดอะไรขึ้น” จ้าวหนานซิงถอยมาอยู่ข้างมู่ชิงเกอ มองทะเลสาบที่มีการเปลี่ยนแปลงแล้วเอ่ยถาม

มู่ชิงเกอเม้มปากและส่ายหน้า หว่างคิ้วมีความหนักใจซ่อนอยู่

เตียวหยวนยิ้มอย่างเย็นเยียบทีหนึ่ง ก่อนจะกลับไปอยู่ฝั่งของตนเอง และยัดยาเข้าไปในปากอีกเม็ด เห็นเขาทำเซ่นนี้ บรรดาลูกศิษย์ที่บาดเจ็บก็ต่างทำตาม หยิบยา ของตนเองออกมากิน

สำหรับลูกศิษย์โรงโอสถแล้ว สิ่งที่ต้องมีติดตัวคือยา!

“สถานการณไม่ดี ไพ่ใบสุดท้ายของเตียวหยวนไม่ธรรมดา ฉะนั้นเราคอยรับมือตามสถานการณ์” มู่ชิงเกอสั่งทั้งสี่เบาๆ

ทั้งสี่พยักหน้าอย่างเงียบๆ ระวังเตียวหยวน ขณะเดียวกันก็สังเกตความเคลื่อนไหวของทะเลสาบ

“ศิษย์พี่เตียว…” ซ่งอวี้ปาดเลือดตรงมุมปากออก แล้วเดินไปอยู่ข้างเตียวหยวนและมองผิวทะเลสาบอย่างตื่นตระหนก

เตียวหยวนกลับไม่ได้สนใจเขา เพียงมองทะเลสาบเยวี่ย ด้วยสายตาอันบ้าคลั่ง

ทันใดนั้น ใต้ทะเลสาบเยวี่ยก็เกิดเสียงดังขึ้น แสบหูราวกับมีเสียงสัตว์กำลังคำราม

ทันใดนั้นก็เกิดการสั่นสะเทือนของพื้นดิน หลังจากนั้น พื้นดินบริเวณที่เชื่อมกับทะเลสาบก็มีรอยแตกขนาดเล็กจำนวนมากปรากฏขึ้น มันกระจายไปทั่วและมีขนาดใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ

“ถอย!” สายตาของมู่ชิงเกอฉายความเคร่งขรึม ยื่นแขนทั้งสองข้างออก แล้วถอยไปข้างหลัง

ผู้ที่อยู่ข้างหลังนางก็ถอยหลังตามเช่นกัน

ทางฝั่งของเตียวหยวนเองก็ถอยหลัง

ต่างจากความตื่นตระหนกของคนอื่นๆ บนใบหน้าของเตียวหยวนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“กรร—!”

เสียงหนึ่งที่คล้ายกับเป็นเสียงคำรามของมังกรดังขึ้นในทะเลสาบ นํ้าวนอันบ้าคลั่งแตกกระจายในทันที นํ้าจำนวนมากพุ่งสู่ฟ้า สายนํ้าแตกกระจายกลางอากาศ อีกครั้ง หยดนํ้านับไม่ล้วนสาดกระจายไปทั่วสารทิศราวกับเกิดพายุฝน

ในขณะที่ทุกคนกำลังหลบนํ้าจากทะเลสาบ เห็นเพียงแค่สิ่งหนึ่งหมุนออกจากใต้นํ้า

รูปร่างของมันคล้ายกับงู แต่กลับตัวหนาดั่งพวกงูเหลือม

ร่างของมันเงาดำไปทั่ว เกล็ดอันแข็งแรงและแหลมคมส่องแสงประกาย

ความยาวของสิ่งนี้ ประมาณสิบจ้าง มันพุ่งขึ้นกลางอากาศ และยังสามารถลอยตัวอยู่กลางอากาศได้ เมื่อตัวประหลาดปรากฏ ทะเลสาบก็คืนสู่ความสงบ หมอกบนท้องฟ้าก็กระจายตัว พื้นดินก็ไม่สั่นสะเทือนอีกต่อไป ในขณะนี้เอง ทุกคนที่อยู่บนฝั่งก็เห็นรูปลักษณ์ของมันชัดเจนขึ้น

“มังกรวารี!” จ้าวหนานซิงพูดอย่างตื่นตระหนกเป็นที่สุด

ตัวประหลาดที่มีรูปลักษณ์ราวกับงูเหลือม แต่บนหัวกลับมีบางสิ่งยื่นนูนขึ้นมา บนหลังมีปีกบางๆ ปรากฎขึ้น มันก็คือมังกรวารีซึ่งกลายพันธุ์มาจากเผ่ามังกร

ผืนป่าหมีเมิ่ง มีมังกรวารีหรือ! ข่าวนี้น่าตกใจเกินไปแล้ว!

ว่ากันว่า มังกรวารีมีสายพันธุ์ใกล้เคียงกับมังกร เผ่ามังกรเป็นอสูรเทวะ ได้สูญพันธุ์จากหลินชวนมานานแล้วและมังกรวารี แม้จะเป็นสัตว์วิญญาณ แต่เพราะในร่างกายมีสายเลือดของมังกร เพราะฉะนั้นจึงเก่งกาจมากกว่า สัตว์วิญญาณธรรมดา

ในหลินชวน บันทึกของมังกรวารีมีน้อยมาก เพราะจำนวนของมันน้อยจนเกินไป และแทบจะอยู่ในสภาพสูญพันธุ์

แต่ทว่า ในผืนป่าหมีเมิ่งแห่งโรงโอสถ ใต้ทะเลสาบเยวี่ย กลับมีมังกรวารีอยู่ตัวหนึ่ง!

ในตอนนี้ มังกรวารีลอยอยู่กลางอากาศ ในดวงตาดวงโตเท่าโคมไฟ เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version