Skip to content

พลิกปฐพี 154-2

ตอนที่ 154-2

ถูกพ่นออกมาแล้ว!

มู่ชิงเกอขมวดคิ้วเบา ๆ ในใจรู้สึกชื่นชมเสือดำเขาเดียวเป็นอย่างมาก นางเพียงแค่เปิดเผยลมหายใจอ่อนๆ เพียงเศษเสี้ยวเดียว แต่มันก็สัมผัสได้แล้ว

มู่ชิงเกอที่คลุมเสื้อกันฝนของหอหลอมศาสตราปรากฏตัวยืนอยู่ในมุมมืด

เมื่อมองเห็นชัดเจนถึงเสื้อผ้าที่นางสวม ไท่สื่อเกาก็เอ่ย “คนของหอหลอมศาสตรา? เจ้าเป็นคนที่เข้ามาก่อนคนนั้น!”

คำพูดกะทันหันของเขาทำให้เสือดำเขาเดียวที่อยู่ข้างกายแสดงท่าทางจะต่อสู้ขึ้นในทันใด

ใบหน้าของมู่ชิงเกอ ถูกเสื้อคลุมฝนคลุมมิดจนไม่อาจมองเห็นได้ทั้งหมด มองเห็นแค่เพียงริมฝีปากแดงสดของนางที่ดูเหมือนจะโค้งขึ้นรางๆ

ความเงียบของนาง ทำให้ไท่สื่อเกาขมวดคิ้วขึ้น “เอาของออกมา แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า” อย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงเลยว่าคนที่เข้ามาก่อน เมื่อหาของพบแล้วกลับไม่ได้จากไปในทันที แต่กลับยังรออยู่ที่นี่ดูเรื่องสนุก

ฉากที่เขาให้เสือดำเขาเดียวทำร้ายติงเหม่าอย่างทรมานนั้น ถูกคนผู้นี้มองเห็นทั้งหมด

หากปล่อยให้เขารอดออกจากตรงนี้ไปได้ เกรงว่าคงจะทำให้สำนักหมื่นอสูรเกิดความวุ่นวายเป็นแน่

แววตาของไท่สื่อเกาวาววาบ ในใจได้ตัดสินเรื่องความเป็นความตายของมู่ชิงเกอแล้ว

“ของ? ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังพูดถึงอะไร ข้ามองเห็นแค่เพียงศิษย์พี่ติงถูกเจ้าทำร้ายจนพิการ” มู่ชิงเกอกล่าวอย่างจงใจ

นั้นไง!

ไท่สื่อเกามองดูนางอย่างเยือบเย็น ในใจเอ่ย ‘เป็นอย่างที่ตัวเองคาดไว้นั้นไม่ผิด’

“ไม่ให้? ฆ่าเจ้าแล้วข้าก็สามารถค้นหาจากร่างศพของเจ้าได้เช่นกัน!” ไท่สื่อเกาตะคอกออกมา “ฆ่าเขา!”

เสือดำเขาเดียวได้รับคำสั่ง แต่กลับไม่ได้เคลื่อนไหวตัวในทันที ยังคงท่าทางพร้อมต่อสู้ด้วยร่างกายที่สั่นๆ อยู่เหมือนเดิม เสียงครืดคราดขู่ในลำคออย่างแผ่วเบา

เมื่อไม่เห็นเสือดำเขาเดียวเคลื่อนไหวตามคำสั่ง สีหน้าของไท่สื่อเกาก็เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน ถีบเสือดำเขาเดียวอย่างรุนแรงไปครั้งหนึ่ง

“ฆ่าเขา! ข้าสั่งให้ฆ่าเขา!” เขาเอ่ยอย่างโมโห

มู่ชิงเกอยังยืนอยู่ที่เดิม มุมปากโค้งขึ้นยิ้มเยาะเสือดำเขาเดียว

พลังอำนาจของสายม่วง ต่อกรกับอสูรวิญญาณชั้นสูงตัวหนึ่ง ทั้งยังเป็นอสูรวิญญาณที่ถูกทำให้เชื่องและความแข็งแกร่งถูกลดลง และอีกอย่าง นางยังให้หยิน เฉินลอบเพิ่มกลิ่นอายของนางอีก

พลังอำนาจของคน สำหรับอสูรวิญญาณแล้วคงเป็นได้ แค่พลังกดดันชนิดหนึ่ง

แต่ว่า ในโลกของอสูรวิญญาณ พลังอำนาจต่างระดับชั้นนั้น เป็นเหมือนอุปสรรคตั้งแต่กำเนิดที่ไม่อาจข้ามผ่านได้

หยินเฉินนั้นเป็นเสมือนสัตว์เทพ ทั้งในร่างกายยังมีสายเลือดของเทพอสูรโบราณอยู่ ต่อกรกับเสือดำเขาเดียวตัวหนึ่งนั้น เป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก

ถ้าหากเป็นหยินเฉินตัวเป็นๆ ยืนอยู่ที่นี่ เกรงว่าเสือดำเขาเดียวตัวนี้คงไม่กล้าแม้แต่จะยืนอยู่แล้ว

พลังอำนาจชนิดนี้ ไท่สื่อเกาไม่รู้สึกถึง ดังนั้นสำหรับ อาการผิดปกติของเสือดำเขาเดียว เขาจึงรู้สึกเพียงแค่โมโห รู้สึกอับอายจากการถูกทรยศ

เขาสะบัดพัดในมือ คมมีดโผล่ออกมาจากด้านหลัง

เขาชี้ตรงไปที่คอของเสือดำเขาเดียว เอ่ยอย่างเยียบเย็นว่า “ไม่ฟังคำสั่ง เก็บเจ้าไว้จะเกิดประโยชน์อะไร?” พูดจบ มีดในมือของเขาก็แทงเข้าไปในคอของเสือดำเขาเดียว

เสือดำเขาเดียวเกรงว่าแม้แต่ตอนตายไปก็คิดไม่ถึงว่าเจ้านายจะฆ่าตัวเอง

มันมองไท่สื่อเกาด้วยแววตาที่สิ้นหวัง เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลบนคอของมัน ทำให้เสือดำเขาเดียวล้มลงกับพื้นอย่างเงียบ เชียบ

หลังจากฆ่าเสือดำแล้ว ไท่สื่อเกาก็เรียกของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าที่เอวของตนเอง แสงสีฟ้าลอยออกมา กลายเป็นหมาป่าวายุระดับสูงตัวหนึ่ง

มู่ชิงเกอขมวดคิ้ว มองกระเป๋าที่เอวของไท่สื่อเกาอย่างสนใจ

นางสงสัยมากว่าภายในกระเป๋าใบนั้นมีอสูรวิญญาณอยู่กี่ตัว?

“ฆ่าเขา!” หมาป่าวายุปรากฏตัวออกมา ไท่สื่อเกาก็ออกคำสั่งทันที

ตอนนี้ มู่ชิงเกอได้เก็บพลังอำนาจกลับเรียบร้อยแล้ว หมาป่าวายุได้รับคำสั่ง ก็อ้าปากกว้าง เผยให้เห็นเขี้ยวฟันอันแหลมคม พุ่งเข้ามาหามู่ชิงเกอ พร้อมกันนั้นมัน ยังคายดาบแสงสีฟ้าออกมากลางอากาศ พุ่งยิงเข้าใส่มู่ชิงเกอ

ไอสังหารที่พุ่งเข้ามา ไม่ได้ทำให้มู่ชิงเกอแสดงอารมณ์ใด ๆ นางเพียงแค่สบถอย่างเยียบเย็นคำหนึ่ง ดาบแสงที่เข้ามาใกล้เพียงแค่นิ้วเดียวเหล่านั้นก็พลันแตกกระจายแล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ตามมาด้วยหมาป่าวายุที่พุ่งมาถึงด้านหน้าของนาง นางไม่ได้ไช้พลัง แต่เป็นยกมือขึ้น ใช้กำลังของร่างเนื้อ ชกไปที่หัวของหมาป่าวายุ

หมาป่าวายุยังไม่ทันได้ร้องออกมาสักคำ หัวของมันก็ระเบิดออก ตกลงบนพื้น กลายเป็นหมาป่าไร้หัว

ฉากๆ นี้ ในที่สุดก็ทำให้ไท่สื่อเกาหวาดกลัวจนได้ เขาหลุดเสียงออกมา “เจ้าเป็นใครกันแน่? ศิษย์ของหอหลอมศาสตราไม่ควรจะแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้!”

“ดูท่า เจ้ายังถือว่าไม่ค่อยโง่สักเท่าไหร่” มู่ชิงเกอเอ่ยออกมาอย่างเรียบเฉย ค่อยๆ เดินไปที่เขา

ไท่สื่อเกาเริ่มรู้สึกว่าบรรยากาศรอบกายเริ่มหนาแน่นขึ้น ดุจดั่งกำลังจำกัดการเคลื่อนไหวของเขา ยับยั้งการต่อต้านของเขา

เขารู้สึกเหมือนแขนและขาของเขาจมลงไปในโคลนหนัก ไม่สามารถควบคุมได้อย่างอิสระ อากาศรอบตัวล้วนกลายเป็นแม่นํ้าสีดำของแม่นํ้าไร้พรมแดน ล้อมเขาเอาไว้แน่น

ส่วนคนที่น่าหวาดกลัวนั้น กำลังค่อยๆ ใกล้เขาเข้ามาเรื่อย ๆ

ไท่สื่อเกาไม่เคยรู้สึกดุจดังว่าตัวเองห่างจากความตายไม่ไกลเช่นนี้มาก่อน

“ข้าเป็นนายน้อยของสำนักหมื่นอสูร เจ้าไม่อาจฆ่าข้า! ฆ่าข้าแล้วก็หมายถึงเจ้าล่วงเกินสำนักหมื่นอสูรทั้งสำนัก ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร ก็ไม่อาจจะอยู่ในแคว้นหรงต่อไปได้!” ไท่สื่อเการีบเอ่ย

เหมือนกับว่าเขาจะรีบร้อนเกินไป นํ้าเสียงที่ติงเหม่าใช้พูดกับเขาเมื่อก่อน กับท่าทางที่ไม่สนใจและดูแคลนที่เขามีต่อติงเหม่า ก็เหมือนกับที่มู่ชิงเกอมีให้กับเขาในตอนนี้

ไม่สามารถอยู่ในแคว้นหรงต่อไป? นางไม่ใช่คนของแคว้นหรงเสียหน่อย มีอะไรเกี่ยวข้องกันอย่างนั้นหรือ?

มู่ชิงเกอไม่ได้สนใจต่อการคุกคามของไท่สื่อเกาเลยสักนิด ค่อยๆ เดินเข้าใกล้เขาต่อไปเรื่อย ๆ

ความกดดันไร้เสียงเช่นนี้ น่ากลัวเสียยิ่งกว่าปืนที่มีลูกกระสุนจริงอีก ไท่สื่อเกามองมู่ชิงเกออย่างระวัง กลัวว่านางจะทำร้ายตัวเอง

ก็เหมือนกับที่เขาพูด เขาเป็นนายน้อยของสำนักหมื่นอสูร อยู่ในสำนักเป็นผู้ที่อยู่ใต้หนึ่งคนอยู่เหนือคนนับหมื่น ยังมีอนาคตที่ดีรอเขาอยู่ ยังมีสาวงามและสุราเลิศ รสที่ยังไม่ได้ลิ้มลองอีกมากมาย จะมาตายอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?

“เจ้าว่าข้าฆ่าเจ้าแล้ว รอจนคนของสำนักหมื่นอสูรและหอหลอมศาสตรามาถึง พวกเขาจะคิดว่าเจ้ากับติงเหม่าฆ่ากันเองจนตายหรือไม่?” มุมปากของมู่ชิงเกอโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม ดุจดังเด็กที่ชอบแกล้งคนอื่นอย่างไรอย่างนั้น

นางไม่ใช่คนที่ชอบเสียเวลา แต่ว่าขณะนี้การต่อสู้ด้านบนยังไม่หยุด เพียงนางขึ้นไป ก็จะกลายเป็นเป้าหมายของทุกคนมิใช่หรือ?

ไม่สิ รอจนพวกเขาต่อสู้กันไปอีกสักพัก ค่อยหาโอกาสลอบออกไป

ดังนั้น ในขณะที่กำลังรอ ไท่สื่อเกาแล้วก็ยังมีติงเหม่าที่สลบไปก็กลายเป็นงานอดิเรกของเล่นในยามว่างของนาง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version