Skip to content

พลิกปฐพี 161-1

ตอนที่ 161-1

ฮ่องเต้หญิงเลือกสามีได้เอาแต่ใจนัก!

ระหว่างที่มู่ชิงเกอกำลังตกตะลึง ข้างหูก็มีเสียงตกตะลึงของมั่วหยางตะโกนขึ้นมา “คุณหนูใหญ่!”

‘เป็นอาหญิงจริงๆ ด้วย!’

มู่ชิงเกอร้องขึ้นในใจอย่างตกตะลึง คำกล่าวของมั่วหยางก็เป็นตัวยืนยันว่านางไม่ได้ตาฝาดไป

อาหญิงมู่เหลียนหรงท่องเที่ยวอยู่ที่แคว้นกู่วู่เรื่องนั้นนางรู้ดี แต่คิดไม่ถึงว่าวิธีการที่ได้มาพบเจอกันอีกครั้งจะทำให้ผู้คนรู้สึกคาดไม่ถึงเช่นนี้ และนางก็ยิ่งคาดไม่ถึงว่าตนเองที่ถ่อมาดูเรื่องสนุกจะได้มาค้นพบว่าตัวเอกหญิงของเหตุการณ์จะเป็นอาหญิงของตนเอง!

และที่ทำให้นางคาดไม่ถึงที่สุดก็คือ อาหญิงของนางกลับไปแย่งผู้ชายกับฮ่องเต้หญิงของแคว้นกู่วู่!

แย่ง! ผู้! ชาย!

“คุณชาย พวกเราควรจะทำอย่างไรดี? จะไปออกหน้าช่วยเหลือดีหรือไม่?” มั่วหยางกล่าวขอความเห็นขึ้นเสียงแผ่วเบาที่ข้างหูของมู่ชิงเกอ

มู่ชิงเกอค่อยๆ ดึงความตกตะลึงในแววตากลับ ส่ายหน้าขึ้นช้าๆ “ยังไม่ต้องรีบร้อน ข้าอยากจะลองดูเสียหน่อยว่าผู้ชายที่อาหญิงต้องตาสุดท้ายแล้วจะเลือก อย่างไร”

“จะเข้าวังไปกับข้า หรือว่าจะเลือกตาย” บนหอคอย ฮ่องเต้หญิงของแคว้นกู่วู่กล่าวทางเลือกสองทางออกมาอย่างดุดัน

มู่เหลียนหรงสีหน้าเปลี่ยนสี ความรู้สึกนึกคิดกลายเป็นเคร่งเครียดขึ้นมา

นางมองไปทางชายที่อยู่ตรงหน้า ริมฝีปากเม้มสนิทเข้าหากัน ราวกับว่าการตัดสินใจเช่นนี้ก็ไม่ได้อยู่ในจุดที่นางจะเข้าไปช่วยเขาตัดสินใจได้

ช่วงขณะนั้นในจัตุรัสทั้งสี่ทิศก็พากันนิ่งสงบลง ฝูงชนที่มุงดูไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านของแคว้นกู่วู่หรือว่าผู้มาท่องเที่ยวจากแคว้นอื่นๆ ก็ต่างพากันรอคอยคำตอบของชายผู้นั้น

แล้วก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่มองไปยังฮ่องเต้หญิงบนหอคอยสูง ถึงแม้ว่าจะมองไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริงของนาง แต่หากวิเคราะห์จากรูปร่างและนํ้าเสียงของนาง แล้ว ก็สามารถมั่นใจได้ว่าจะต้องเป็นหญิงงามนางหนึ่ง อีกอย่างหากอิงตามสายเลือดของแคว้นกู่วู่แล้วก็เหมือนกับว่าจะไม่มีหญิงที่หน้าตาอัปลักษณ์ นางที่เป็นถึงฮ่องเต้หญิงก็น่าจะต้องงดงามมากถึงจะถูก เหล่าบุรุษในฝูงชนจำนวนไม่น้อยก็พากันครุ่นคิดถึงการตัดสินใจของตนเอง ถ้าหากเป็นตัวพวกเขาเอง ก็คง เกรงว่าจะตัดสินใจเลือกตัวเลือกแรกไปแล้ว ซึ่งมันก็ไม่ได้ดูเสียเปรียบแต่อย่างใด!

ภายใต้การรอคอยอย่างเงียบเชียบของผู้คน ชายผู้นั้นในที่สุดก็ประกาศการตัดสินใจของตนออกมา

เขามองไปทางฮ่องเต้หญิงก่อนจะหัวเราะขันขึ้นเสียงหนึ่ง เชิดหน้าเหยียดอกพลางกล่าวว่า “ข้าไม่มีทางเข้าวังไปกับท่าน และก็ไม่มีทางยอมทิ้งชีวิตของตนเองไปง่ายๆ ข้าจะเป็นหรือจะตายก็ไม่ใช่ท่านที่เป็นคนตัดสิน!

“เยี่ยม!”

“พูดได้ดี!”

“มีความยึดมั่น!”

“นี่แหละชายชาตรี!”

พอคำกล่าวของชายผู้นั้นหลุดออกไปก็ตามมาด้วยเสียงโห่ร้องชื่นชมของผู้คนจำนวนไม่น้อย

ถึงแม้ว่าในใจของพวกเขาจะเลือกตัวเลือกแรก แต่พอเห็นความห้าวหาญที่ตัวเอกของเรื่องกล้าที่จะทำการต่อต้าน พวกเขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะยกนิ้วโป้งให้แก่เขา ส่วนในภายหลังจะก่นด่าเขาว่าโง่งมอยู่ในใจอีกหรือไม่นั้น นั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

“เจ้าไม่กลัวตาย?” นํ้าเสียงอันสูงศักดิ์ของฮ่องเต้หญิง กังวานลงมาจากบนยอดหอคอย

ในนํ้าเสียงของนางก็ยากที่จะแยกแยะว่ากำลังโกรธหรือว่ายินดี ไม่สามารถคาดเดาได้ว่านางจริงๆแล้วโกรธกริ้ว หรือไม่พอใจที่ชายผู้นั้นเลือกตัวเลือกนี้

“กลัว!” ชายหนุ่มกล่าวว่าตามสัตย์จริง “แต่ว่าข้าก็ไม่อาจตัดสินใจทำสิ่งที่ทรยศต่อจิตใจตนเองเพราะกลัวตายได้ และต่อให้ท่านอยากจะสังหารข้า แต่นั่นก็ไม่ได้ หมายความว่าท่านจะทำมันสำเร็จ!”

คำกล่าวอันมั่นใจของชายผู้นั้นก็ทำให้บนตัวของเขาดูเปล่งประกายสะดุดตาขึ้นมาหลายส่วน

มู่ชิงเกอสังเกตเห็นว่า ประโยคนี้ของเขาหลังจากกล่าวจบแล้ว ในสายตาของมู่เหลียนหรงที่มองไปยังแผ่นหลังของเขาก็เพิ่มความประกายสดใสขึ้นมาหลายส่วน

แววตาเช่นนั้นนางก็ยังไม่เคยเห็นมันบนตัวของอาหญิงมาก่อน

การตอบกลับของชายหนุ่มก็ทำเอาบนยอดหอคอยเงียบลงไปชั่วขณะ

ในขณะที่ทุกคนกำลังสงสัยว่าฮ่องเต้หญิงจะตัดสินใจเช่นไร ในตอนที่กำลังคาดเดากันไปต่างๆ นานา ว่าภายใต้ความเกรี้ยวกราดนางจะออกคำสั่งให้จับกุมตัวชายหญิงคู่นี้ หรือไปจนถึงขั้นสั่งให้สังหารเดี๋ยวนั้นเลยหรือไม่ นางก็พลันเปิดปากขึ้นอีกครั้ง

“ที่เจ้าตัดสินใจเช่นนี้ก็เพราะหญิงแก่ด้านหลังเจ้ารึ?”

ไอ้หยา ปากร้ายเกินไปแล้ว!

คิ้วของมู่ชิงเกอค่อยๆ เลิกสูงขึ้น

หญิงนางนี้กลับกล้าว่าท่านอาของนางว่าเป็น ‘หญิงแก่!’

มู่เหลียนหรงถึงแม้จะย่างเข้าอายุสามสิบ แต่ก็ไม่ได้ดูแก่แม้แต่น้อย ยังคงมีใบหน้าเยาว์วัยดึงดูดผู้คน งดงามจนจิตใจของผู้คนต้องสั่นไหว กิริยามารยาทงดงาม เปรียบกับสตรีทั่วไป หรือว่าหญิงสาวอายุสิบกว่าปีพวกนั้นแล้ว ก็ยังเปล่งปลั่งดูมีเสน่ห์มากกว่านัก สายตาของมู่ชิงเกออดไม่ได้ที่จะตกลงไปบนตัวของบุรุษผู้นั้น ฉายแววเรียบเฉยขึ้นสายหนึ่ง นางก็ยังรู้สึกว่าชายผู้นี้อายุน้อยเกินไป รูปลักษณ์ถึงแม้จะดูไม่เลว แต่ก็ยังดูค่อนข้างเด็ก ลักษณะไม่เหมาะกับอาหญิงของตนเลย แต่แน่นอนขอเพียงชายผู้นี้มีนิสัยไม่เลว นางก็จะไม่เข้าไปแทรกแซงการตัดสินใจของอาหญิง

“ท่านอย่าได้หลู่เกียรติพี่หรง!” เสียงเกรี้ยวกราดของชายหนุ่มดังขึ้นมา คำกล่าวของฮ่องเต้หญิงแคว้นกู่วู่ก็ไม่ได้ทำให้มู่เหลียนหรงโกรธ กลับกันกลับกลายเป็นเขาที่ไม่พอใจขึ้นมาแทน “เซวียเฉียว!” มู่เหลียนหรงเรียกชื่อของชายหนุ่มขึ้น

เสียงเบา ในนํ้าเสียงแฝงไว้ด้วยความตื้นตันใจอยู่รางๆ “อ้อ? โกรธรึ? เช่นนั้นก็เอาเถอะ ข้าพูดใหม่ก็ได้ เจ้าที่ปฏิเสธข้าเพราะว่าอาซ้อผู้งามลํ้าด้านหลังเจ้ารึ?” เสียงของฮ่องเต้หญิงตังขึ้นอีกครั้ง

ฮ่า ฮ่า—–!

ฮ่า ฮ่า—–!

ในฝูงชนมีคนไม่น้อยเพราะว่าคำกล่าวของฮ่องเต้หญิง หลุดขำออกมา

นางครั้งนี้ชัดเจนว่าไม่ได้เรียกมู่เหลียนหรงว่า ‘หญิงแก่’ อีก แต่คำว่า ‘อาซ้อ’ ของประโยคหลังกลับมีพลังทำลายล้างรุนแรงกว่ามาก!

ในแววตากระจ่างใสของมู่ชิงเกอพลันปรากฏแววดำมืด ดูอันตรายขึ้นสายหนึ่ง มุมปากยกขึ้นด้วยรอยยิ้มเหี้ยมเกรียม

มั่วหยางกล่าวเสียงขรึม “คุณชาย พวกเขากลับกล้าหัวเราะเยาะคุณหนูใหญ่ จะให้ข้าน้อยไปสั่งสอนพวกเขาดีหรือไม่!”

“ไม่ต้อง ตัวต้นเหตุก็อยู่ด้านบน” สายตาของมู่ชิงเกอเคลื่อนขยับก่อนจะร่วงตกไปที่เงาร่างเว้านูนบนยอดหอคอย “หากจะสั่งสอนก็ต้องสั่งสอนตัวการถึงจะสนุก”

“เจ้า! เจ้าช่างเป็นหญิงที่ปากร้ายนัก!” เซวียเฉียวท่าทางเกรี้ยวกราด สีหน้าแดงกํ่า

ราวกับว่าคนที่ถูกคนพวกนั้นหัวเราะขันใส่ก็คือเขา แต่ไม่ใช่มู่เหลียนหรง

กลับกันทางมู่เหลียนหรงก็ราวกับว่าจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรแต่อย่างใด กลับยืนนิ่งสงบ “เซวียเฉียวที่นางพูดก็ถือว่าเป็นความจริง เจ้าทำไมจะต้องโมโห ด้วย?”

เซวียเฉียวหันมองไปทางนาง กล่าวท่าทางมุ่งมั่นว่า “ที่ตอนนั้นนางมากล่าววาจาเช่นนี้ ก็คงเพราะต้องการหยามเกียรติท่าน ท่านเพื่อข้าแล้วสามารถโต้แย้งฮ่องเต้หญิงได้ แต่ทำไมเพื่อตัวเองท่านกลับไม่สนใจสักนิดกันเล่า? ท่านไม่ยินยอมให้คนอื่นบีบคั้นข้า ข้าเองก็ไม่มีทางให้ใครมาหลู่เกียรติท่าน!”

พอกล่าวจบเขาก็พลันคว้าจับไปที่มือของมุ่เหลียนหรง ภายใต้สายตาอันตกตะลึงของนาง หันกายมองไปทางยอดหอคอย กล่าวว่ากับฮ่องเต้หญิงแคว้นกู่วู่ “ไม่ผิด! ข้ากับนางก็ได้ให้คำมั่นต่อกันแล้วว่าจะรักกันไปจนแก่เฒ่า นางก็เป็นภรรยาของข้า ดังนั้นข้าจะไม่มีทางทอดทิ้งนาง! ข้าชั่วชีวิตนี้จะแต่งแค่นางเป็นภรรยาเท่านั้น!”

“เซวียเฉียว! เจ้า…” มู่เหลียนหรงมองไปทางชายหนุ่มตรงหน้าที่มีอายุน้อยกว่าตนห้าปีด้วยแววตาอันตกตะลึง คำพูดของเขาก็ก้องไปในหัวเสียจนหูของนางร้อนผ่าวขึ้นมา ทั่วร่างแข็งทื่อไปหมด

เสียงร้องเรียกปนตกตะลึงด้านหลัง ทำให้เซวียเฉียวต้องหันกลับไปมอง มองไปทางนางอย่างลํ้าลึก ใช้นํ้าเสียงที่หนักแน่นและเคร่งขรึมกล่าวคำวาจาขึ้น “พี่หรง ท่านเต็มใจที่จะแต่งให้ข้าหรือไม่?”

“ข้า…ข้า…” มู่เหลียนหรงมองไปทางเขาอย่างตกตะลึง ในแววตาสะท้อนขึ้นด้วยภาพของชายหนุ่มท่าทางซื่อตรงที่อยู่ตรงหน้า แต่ว่าในหัวของนางตอนนี้ก็

กำลังยุ่งเหยิงวุ่นวายไปหมด จนไม่สามารถมอบคำตอบออกไปได้

การพูดความในใจและการให้สัตย์สาบานที่มาอย่างกะทันหันเช่นนี้ ก็ทำเอาฝูงชนที่มุงดูรู้สึกตื่นตาตื่นใจขึ้นอีกหลายส่วน

มู่ชิงเกอกวาดตามองไปยังทั้งสองคนพร้อมกับลอบกล่าวในใจว่า ‘ดูจากท่าทางอาหญิงจะตกตะลึงมาก!’

“เป็นเพราะหญิงนางนี้จริงๆ ด้วย” บนยอดหอคอย ฮ่องเต้หญิงก็ค่อยๆ กล่าวออกมาน้ำเลียงของนางก็ยังคงเงียบสงบ ไม่ทุกขไม่ร้อน ไม่มีนํ้าเสียงของความเกรี้ยวกราด ราวกับว่านางที่เป็นถึงฮ่องเต้หญิงผู้สูงศักดิ์ก็ไม่อยากจะลดเกียรติลงไปแสดงอารมณ์กับปุถุชนคนทั่วไป “เช่นนั้นข้าก็จะเปลี่ยนตัวเลือกให้เจ้าใหม่อีกครั้ง ”

นางนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง แต่พอตอนที่เซวียเฉียวกับมู่เหลียนหรงเงยหน้าขึ้นมองไปที่นาง นางก็พลันกล่าวว่า “จะเลือกเข้าวังไปกับข้าหรือจะเลือกให้นางตาย เจ้า เลือกมาก็แล้วกัน”

ฝูงชนพากันอื้ออึง!

มู่ชิงเกอก็ขมวดคิ้วแน่นเข้าหากัน

นางก็ฟังออกถึงความคิดประสงค์รายที่แอบซ่อนอยู่ในนํ้าเสียงของฮ่องเต้หญิง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า นางจะยอมให้อาหญิงของตัวกลายไปเป็นตัวเลือก

เซวียเฉียวก็กล่าวว่าอย่างเกรี้ยวกราด “เจ้ามันคนป่าเถื่อนไร้เหตุผล! ข้าไม่มีทางเข้าวังไปกับเจ้า เจ้าอยากจะฆ่า อยากจะระบายความโกรธก็ให้มาลงที่ข้า!”

“เซวียเฉียว!” มู่เหลียนหรงรั้งแขนของเซวียเฉียวเอาไว้

รอจนตอนที่เขาหันหน้ากลับมา มู่เหลียนหรงก็มอบรอยยิ้มน้อยๆ ให้เขา “ดูท่านางคงไม่ยอมปล่อยเจ้าให้จากไปได้ง่ายๆ ในเมื่อเหตุผลใช้ไม่ได้ เช่นนั้นก็สู้เถอะ!”

เซวียเฉียวมองไปทางนางอย่างอ่อนใจ ความรู้สึกว้าวุ่นยุ่งเหยิงไปหมด คว้ากุมไปที่มือที่มู่เหลียนหรงรั้งตนเอาไว้เมื่อครู่ กล่าวว่าด้วยความรู้สึกผิดอย่างลํ้าลึก “พี่หรง ทำให้ท่านต้องลำบากไปด้วยแล้ว”

“นี่พวกเจ้า พวกเจ้าสองคนก็คิดว่าข้าฮ่องเต้หญิงตายไปแล้วรึไง? ยังจะพลอดรักกันอยู่ตรงนั้นอีก? ทหารจับตัวพวกเขาซะ!” ใครก็คาดไม่ถึงว่าฮ่องเต้หญิงของ แคว้นกู่วู่อยู่ๆ จะเกิดโมโหขึ้นมา

“เจ้าก็คิดว่าข้าตายไปแล้วรึไง? ถึงกับกล้ามาสั่งจับตัวอาหญิงกับอาเขยต่อหน้าข้า?” เสียงถากถางของมู่ชิงเกออยู่ๆ ก็ดังขึ้นมา

พอได้ยินเสียงนั้น มู่เหลียนหรงก็พลันชะงักอยู่กับที่ หันมองตามเสียงไป “ชิงเกอ!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version