Skip to content

พลิกปฐพี 165-1

ตอนที่ 165-1

คํ่าคืนอันครื้นเครง ข้าให้หนึ่งพันตำลึง!

ยามอาทิตย์อัสดง เถาวัลย์พันเกาะต้นไม้ เหล่านกกาโบยบินกลับรัง

เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน บนถนนร้างไร้ผู้คน

มีเสียงฝีเท้าม้าเดินเหยาะๆ ช้าๆ แว่วมา สุดถนนค่อยๆ ปรากฏผู้คนและม้าเดินมา ด้านท้ายขบวนยังมีรถม้าที่บรรทุกข้าวของกองโตอีกคันหนึ่ง

มู่ชิงเกอขี่ม้าอยู่ด้านหน้าสุด แหงนหน้ามองกำแพงเมืองสูงตระหง่านงดงามท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่สาดส่องอยู่ไกลๆ อดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นว่า “ลั่วตู ข้ากลับมาแล้ว”

การออกจากบ้านไปในครั้งนี้ไปถึงอาณาจักรเซิ่งหยวน แคว้นหรง ไปแคว้นกู่วู่ ย้อนมาแคว้นลี่ สุดท้ายกลับมาที่แคว้นฉิน การเดินทางที่วกไปวนมา ไม่นึกเลยว่าจะเลยผ่านปลายฤดูใบไม้ร่วงจวบจนฤดูหนาว เข้าสู่ต้นฤดูใบไม้ผลิของลั่วตู

“สี่เดือนกว่าเข้าไปแล้ว ไม่รู้ว่าท่านปู่ของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ดูแลตัวเองดีหรือไม่” มู่เหลียนหรงควบม้ามาข้างๆ มู่ชิงเกอ เอ่ยรำพึงขึ้นมาเช่นเดียวกัน

มู่ชิงเกอละสายตาหันกลับมามองนาง ฉีกยิ้มหัวเราะขึ้นมา “ถ้าท่านปู่รู้ว่าท่านพาสามีกลับบ้าน ต้องดีใจแน่ๆ”

“เจ้าตัวดี ยังจะมาล้ออาอีก” มู่เหลียนหรงเอ่ยดุขำๆ ตอนนี้ไม่เขินอายง่ายๆ เท่าตอนแรกแล้ว

หนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ พวกเขาเดินทางออกจากแคว้นกู่วู่กลับมายังแคว้นฉิน

พอมาถึงแคว้นลี่ก็แบ่งทหารออกเป็นสองทาง มั่วหยางและองครักษ์เขี้ยวมังกรที่เขาเรียกมาเดินทางคุ้มกันซางจื่อซูกลับโรงโอสถสาขาย่อยแคว้นอวี๋ คำนวนดูจากเวลาเหมยจื่อจ้งและจ้าวหนานซิงก็น่าจะกลับจากโรงโอสถกลางถึงโรงโอสถสาขาย่อยแล้ว

เดิมทีวางแผนไว้ว่าจะพาซางจื่อซูกลับแคว้นฉิน เพราะว่าโหลวชวนป่ายก็อยู่ที่แคว้นฉิน แต่ไม่คิดว่าตอนที่พวกเขาออกจากแคว้นกู่วู่นั้นจะได้รับสารที่มาจากแคว้นฉิน แจ้งว่าโหลวชวนป่ายพอทราบว่าพวกเหมยจื่อจ้งเดินทางกลับแคว้นก็ขอตัวลาจากจวนตระกูลมู่กลับไปยังโรงโอสถสาขาย่อย

เช่นนี้แล้วซางจื่อซูก็ไม่จำเป็นที่จะอ้อมมาแคว้นฉิน เดินทางจากแคว้นลี่กลับแคว้นอวี๋ได้เลย ส่วนพวกเขาก็เดินทางมุ่งหน้าไปแคว้นฉิน

เดินทางเรื่อยๆ ไม่รีบไม่ช้าแต่สงบ เดินทางมาเกือบจะเดือนหนึ่งในที่สุดก็เดินทางมาถึงเมืองลั่วตู

ใกล้ถึงเวลาปิดประตูเมืองเข้าไปทุกขณะ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่นอกเมืองต่างพากันเร่งฝีเท้า เดินออกจากเมืองไปอย่างว่องไว เสียงกลองตีบอกเวลาคํ่าดังขึ้นในที่สุด

เสียงกลองดังขึ้นส่งถึงขอบฟ้า ประตูเมืองบานใหญ่แสนหนักอึ้งค่อยๆ ปิดลง ด้านหลังประตูเหล่าทหารรักษาประตูเมืองค่อยๆ ผลักบานประตูเมืองให้ปิดสนิทอย่างเงียบๆ

จังหวะที่บานประตูปิดเข้าหากันเกือบสนิทนั้น ก็มีเสียงร้องคนตะโกนขึ้นว่า “ช้าก่อน พวกเราจะเข้าเมือง” คนข้างในได้ยินดังนั้นก็หยุดมือ แต่ก็ไม่ได้เปิดประตูออก กลับร้องตะโกนตอบกลับมาว่า “เลยเวลาเข้าเมืองแล้ว พวกเจ้าค่อยมาใหม่วันพรุ่งนี้!”

พูดแล้วก็ปิดประตูเมือง ผู้ที่ส่งเสียงร้องบอกให้อย่าเพิ่งปิดประตูเมืองขมวดคิ้ว เล็กน้อย ส่งเสียงร้องตะโกนขึ้นอีกครั้งว่า “คุณชายตระกูลมู่กลับจวนรีบเปิดประตูเดี๋ยวนี้!”

“คุณชาย?”

“คุณชายกลับมาแล้ว?” ด้านหลังบานประตู แว่วเสียงปรึกษากันอย่างตื่นเต้นลอยมา

ในที่สุดบานประตูที่ปิดสนิทก็แง้มออกมานิดหนึ่ง มีหัวหน้านายทหารผู้หนึ่งเดินออกมาจากรอยแยกนั้นมองผู้ที่ส่งเสียงร้องตะโกน

ผู้ที่มาขี่อาชาตัวสูงใหญ่ เมื่อหัวหน้านายทหารพิจารณาดูอย่างถี่ถ้วน นัยน์ตาทั้ง สองก็เบิกกว้าง!

ไม่ใช่ม้าธรรมดา แต่เป็นสัตว์อสูรอาชาเพลิง พาหนะขององครักษ์เขี้ยวมังกรกององครักษ์ประจำกาย!

การค้นพบนี้ทำให้หัวหน้านายทหารรีบส่งเสียงร้องตะโกนไปข้างหลัง “รีบเปิดประตูเมืองเร็วเข้า ต้อนรับคุณชายกลับเมือง—–!”

พูดจบ ประตูเมืองด้านหลังของเขาก็ค่อยๆ เปิดออก ส่วนตัวเขานั้นก็เร่งเท้าก้าวเข้ามาหยุดลงตรงหน้าผู้มาเยือน เอ่ยขึ้นอย่างนอบน้อม “ขอเรียนถามท่านใต้เท้า คุณชายอยู่ไหนหรือขอรับ?”

องครักษ์เขี้ยวมังกรเอ่ยขึ้นอย่างดุดัน “คุณชายอยู่ด้านหลัง อีกไม่นานก็ถึง”

“ขอรับ ขอรับ ” หัวหน้าทหารผู้น้อยไม่กล้าถามมากความ

ตอนนี้เองประตูด้านหลังเขาเปิดอ้าจนสุด ทหารรักษาประตูเมืองด้านในต่างพากันออกมายืนเรียงแถว หัวหน้านายทหารเรียกนายทหารผู้หนึ่งมาสั่งความ ผู้มาทีหลัง รีบวิ่งไปที่กำแพงเมือง

ไม่นาน แม่ทัพรักษาประตูเมืองก็พาคนที่เหลือรีบวิ่งจากบนกำแพงเมืองลงมาอย่างรวดเร็ว

เมื่อมู่ชิงเกอมาถึงด้านล่างกำแพงเมือง ก็มองเห็นนายทหารสี่ห้าร้อยนายนั่งคุกเข่าข้างหนึ่งเรียงแถวอยู่ด้านนอกกำแพงเมืองสองข้าง มีชายผู้หนึ่งสวมชุดแม่ทัพยืน อยู่ตรงกลาง

เมื่อนางปรากฏตัวแม่ทัพพิทักษ์ประตูเมืองก็จำได้ในแวบแรกที่เห็นรีบกำหมัดประสานมือแสดงความเคารพ “ข้าน้อยหลี่กุยและลูกน้องขอต้อนรับคุณชายกลับเมืองขอรับ…!”

พูดจบ นายทหารที่อยู่ด้านซ้ายและขวาต่างพากันประสานเสียงตะโกนเสียงดังว่า “ยินดีต้อนรับคุณชายกลับเมือง—–!”

“ยินดีต้อนรับคุณชายกลับเมือง—–!”

“ยินดีต้อนรับคุณชายกลับเมือง—–!”

เสียงตะโกนเรียกพร้อมกัน ความรู้สึกอันน่าประทับใจที่ไม่ใช่การสร้างภาพนี้ทำเอาเซวียเฉียวตาค้าง เขาเขยิบเข้าไปใกล้ๆ มู่ชิงเกอเอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า “ชิงเกอ ความยิ่งใหญ่ของเจ้าเทียบเคียงฮ่องเต้เลยนะ!”

มู่ชิงเกอหัวเราะ ไม่ได้เอ่ยอะไรให้มากความ นางเอ่ยกับหลี่กุยแม่ทัพพิทักษ์ประตูเมืองว่า “แม่ทัพหลี่เกรงใจไปแล้ว”

ประโยคทักทายง่ายๆ หนึ่งประโยคนี้ทำให้ใบหน้าของหลี่กุยเบิกบานเกือบเป็นดอกไม้ พูดจบประโยคก็ขี่สัตว์อสูรอาชาเพลิงเข้าไปในเมือง

จวบจนกระทั่งเงาร่างของนางเกือบจะผ่านพ้นประตูเมือง ก็เอ่ยขึ้นเสียงเนิบๆ ว่า “เหล่าทหารนายกองพิทักษ์ประตูเมืองลำบากแล้ว มอบสองร้อยอีแปะทุกคน” รางวัลประทานมาจากฟากฟ้านี้ทำให้ผู้คนหลายร้อยที่อยู่หลังประตูเมืองพากันดีใจเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาพร้อมใจกันคุกเข่าไปใหม่ เอ่ยตามหลังมู่ชิงเกอไปว่า “ขอบพระคุณคุณชายที่เมตตา!”

เซวียเฉียวสัมผัสได้ว่าทหารแคว้นฉินเลื่อมใสศรัทธาในตัวมู่ชิงเกอ อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าพูดกับภรรยาข้างๆ ว่า “อำนาจตระกูลมู่ของพวกเจ้า เกรงว่าจะมีมากกว่า เชื้อพระวงศ์!”

คำพูดประโยคนี้ไม่ได้มีความหมายวิพาษ์วิจารณ์แต่อย่างใด แต่เป็นการกล่าวตามข้อเท็จจริง มู่เหลียนหรงเองก็เอ่ยด้วยความภาคภูมิใจว่า “เพราะว่าครอบครัวเราให้กำเนิดคุณชายออกมาอย่างไรล่ะ!”

เข้ามาในลั่วตู ร้านค้าแผงขายของส่วนมากเก็บร้านหมดแล้ว ชาวบ้านก็แยกย้ายกันกลับบ้านไปหุงหาอาหารและพักผ่อน บนถนนโล่งมากแทบจะไม่มีคนเดิน ขบวนนี้มุ่งหน้าไปทางจวนตระกูลมู่

การกลับมาของพวกเขาในครั้งนี้ไม่ได้แจ้งเวลาที่แน่นอนให้มู่ซงทราบล่วงหน้า เพราะอยากทำให้เขาประหลาดใจ บนรถลากคันนั้นเต็มไปด้วยของขวัญมากมายก่ายกองที่เซวียเฉียวซื้อระหว่างทางจากแคว้นกู่วู่มาจนถึงแคว้นฉิน เพื่อเอาใจพ่อตาให้อารมณ์ดี ในเมื่อขอลูกสาวเขาแต่งงานโดยที่ยังไม่ได้รับการอนุญาตจากท่านผู้เฒ่า หากไม่ก้มหน้ายอมรับผิดแต่โดยดี เกรงว่าวันคืนจากนี้ไปจะไม่เป็นสุข!

หลังจากที่ขบวนของมู่ชิงเกอผ่านพ้นประตูเมืองไปแล้ว หลี่กุยที่เพิ่งได้สติละลํ่าละลักเอ่ยสั่งความ “เร็วเข้า ส่งคน ไปวังหลวงกราบทูลฝ่าบาทว่า วันนี้คุณชายกลับมาแล้ว!”

พูดจบ หลี่กุยก็เกิดความรู้สึกยุ่งยาก

ตั้งแต่วันที่คุณชายจากไป ฝ่าบาทก็มีรับสั่งกับแม่ทัพพิทักษ์ประตูเมืองทั้งสี่ว่าเมื่อใดที่เห็นคุณชายกลับมา ให้รีบส่งสารรายงานให้พระองค์ทรงทราบ

ความสัมพันธ์ระหว่างขุนนางกษัตริย์นี้ดูท่าว่าจะไม่ธรรมดา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version