ตอนที่ 194-3
จนมุมในเพลิงผลาญ!
เขตหวงห้ามของพระราชวังอาณาจักรเชิงหยวน
นับตั้งแต่ที่หานฉายไฉ่ปรากฏตัว ก็เอาแต่จ้องมองกุญแจที่ไม่สามารถเชื่อมเข้าหากันได้
บนท้องฟ้าเขตหวงห้ามเริ่มเกิดรอยแตกของช่องว่าง นี่แสดงให้เห็นว่า การต่อสู้ด้านในได้เริ่มทำให้ช่องว่างพร้อมที่จะแตกสลายได้ทุกเมื่อแล้ว
เมื่อถึงตอนนั้น—–
‘มู่ชิงเกอ เจ้าไม่อาจตายได้! ข้ายังหาคำตอบไม่เจอ เจ้ายังไม่อาจตายได้!’ หานฉายไฉ่เอ่ยในใจวนไปมาไม่หยุด ดูเหมือนจะคิดว่าคำพูดของเขาสามารถมอบความกล้าให้มู่ชิงเกอที่อยู่ระหว่างสู้รบได้
ปัง—–!
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นในท้องฟ้าเขตหวงห้าม คนทุกคนล้วนแต่พากันถอยไปก้าวหนึ่ง
“กุญแจสลายไปแล้ว!” จักรพรรดิหยวนเอ่ยอย่างตกตะลึง
กุญแจเปิดช่องว่างทั้งห้ากลายเป็นฝุ่นผงไป ค่อยๆ ลอยตกลงมาจากท้องฟ้า
“สมควรตาย! ทำไมถึงต้องรอเวลาหลังการเปิดใช้ด้วย?” หานฉายไฉ่เอ่ยอย่างแค้นเคือง
เขาหมุนร่างกลับ จับคอเสื้อของหวงฝู่ฮ่วน ยกเขามาที่ตรงหน้าของตนเองเอ่ยด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ยังมีวิธีอะไรอีก? ยังมีวิธีใดที่จะสามารถเปิดช่องว่างได้อีกไหม?”
สีหน้าของหวงฝู่ฮ่วนซีดขาว มองไปที่ผงเหล่านั้น พึมพำว่า “นอกจากมหาปราชญ์จะปรากฏตัวก็ไม่มีวิธีใดอีก”
เขาพยายามแล้ว พยายามแล้วจริงๆ แต่ก็ยังคงไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้?
หากว่ามู่ชิงเกอตายแล้วจะพูดกับมหาปราชญ์เช่นไร?
ยังมีเจียงหลี คนแรกที่ทำให้จิตใจเขาหวั่นไหวอย่างฮ่องเต้หญิง เมื่อคิดถึงนาง หวงฝู่ฮ่วนก็รู้สึกเจ็บปวดในใจ
“จะต้องยังมีวิธี เจ้าตามข้าไปตำหนักหลีกง” หานฉายไฉ่เอ่ยอย่างไม่ยินยอม
หวงฝู่ฮ่วนกลับยิ้มอย่างขมขื่น “มหาปราชญไม่อยู่ แม้แต่ตำหนักหลีกงพวกเราก็ไม่สามารถขึ้นไปได้ถึง แม้ว่าตอนนี้จะไปอีกครั้งก็ไม่มีประโยชน์? หากว่ามหาปราชญ์กลับมาแล้ว ก็ต้องรู้สึกได้ว่าที่นี่เกิดเรื่องขึ้นแล้วก็ต้องมาที่นี่”
สองครั้งก่อนหน้านี้ เขาคุกเข่าอยู่ตีนเขาตั้งนาน พอไม่เห็นแม้แต่เงาของกู่เย่และกู่หยาก็รู้แล้วว่าตำหนักหลีกงนั้นไม่มีคนอยู่
หานฉายไฉ่กัดฟัน ดวงตายาวเผยแววตาที่ดูเยียบเย็นน่ากลัว
สุดท้ายแล้วเขาก็ทิ้งหวงฝู่ฮ่วนลง สะบัดแขนเสื้อจากไป เขากลับไปที่หอสรรพสิ่ง เขาจะไปหาวิธีที่จะเปิดช่องว่างแห่งการทดสอบในหอสรรพสิ่ง แม้ว่าจะมีแค่หนึ่งความหวังเขาก็จะไม่ยอมปล่อยไป
ในสุสานเทวะ มู่ชิงเกอฆ่าฟันอย่างสนุกสนาน
ด้านหลังเกิดเสียงตะคอกดังเข้ามา “เจ้ากล้าดียังไง!”
มู่ชิงเกอรีบหันกลับไปอย่างรวดเร็ว แสงหลายสายลอยเข้ามาใกล้
นัยน์ตาของนางวาววาบ ในใจเอ่ยว่า ‘ดูท่าคนเหล่านั้น จะรู้ตัวและย้อนกลับมาแล้ว!’
มู่ชิงเกอรีบกวาดตามองสนามรบแวบหนึ่ง ในใจเข้าใจ นี่ถึงจะเป็นจุดเริ่มต้นที่แท้จริงของการต่อสู้ที่ดุเดือด
ริม้ฝืปากเม้มเข้าด้วยกัน มูชิงเกอจับทวนหลิงหลงพุ่งสู่กลางอากาศ
เกล็ดงูก็ตามนางไป คุ้มครองนางอย่างหนาแน่น
ตอนนั้นเอง บนกลางอากาศไกลออกไปก็เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง นั้นมาจากจุดปะทะของคนอื่น
หยวนหยวน หยินเฉินแล้วก็ยังมีเฉินปี้เฉิงและเจียงหลี
พวกเขาล้วนกำลังใช้ทุกอย่างเพื่อหยุดยั้งผู้เยี่ยมยุทธ์ขั้นกักเก็บ ให้โอกาสมู่ชิงเกอได้พักหายใจ
เมื่อคนไม่กี่คนที่ย้อนกลับคืนมามองเห็นร่างศพของคนฝั่งตนเองบนพื้นหลายศพก็ล้วนแต่อยากจะกินหัวใจของมู่ชิงเกอทั้งเป็น
ต้องรู้ว่าคนเหล่านี้ล้วนแต่มีระดับพลังชั้นสีม่วง!
สำหรับตระกูลทุกตระกูลแล้วผู้เยี่ยมยุทธ์ระดับพลังชั้นสีม่วงนั้นหมายถึงความมั่งคั่ง!
“ข้าจะฆ่าเจ้า—–!” ปีศาจเฒ่าชั้นกักเก็บของตระกูลหลานยื่นกรงเล็บออกไปจับมู่ชิงเกอ
มู่ชิงเกอก็ยกทวนหลิงหลงขึ้นรับศัตรู
แต่ว่า ในตอนที่สองคนปะทะกันนั้น อยู่ดีๆ มู่ชิงเกอก็หมุนปลายทวน เล็งไปที่หลานเฟยเยว่ที่อยู่ด้านข้าง ในขณะเดียวกันมือซ้ายก็หยิบปืนพกออกมา เล็งยิงไปที่ไท่สือเกา
ปัง!
“อ๊า—–!”
“อ๊าก—–!”
สองเสียงร้องอันโหยหวนดังขึ้นมาพร้อมกันปกคลุมเสียงสบถของมู่ชิงเกอ
นางเผชิญหน้ากับการโจมตีของผู้เยี่ยมยุทธ์ขั้นกักเก็บแต่กลับสำเร็จในการทำให้หลานเฟยเยว่และไท่สื่อเกาได้รับบาดเจ็บ
เดิมทีนางคิดจะเอาชีวิตของพวกเขาแต่สุดท้ายแล้วก็ยังถูกปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บยื่นมือเข้าขัดขวางจึงทำได้แค่เพียงทำให้พวกเขาบาดเจ็บ
แก้มและไหล่ของหลานเฟยเยว่ถูกทวนหลิงหลงทำให้บาดเจ็บ เลือดเนื้อปริออกจนถึงกระดูก บาดแผลที่เกิดจากยุทธภัณฑ์ขั้นเทวะ ยาธรรมดาทั่วไปไม่อาจจะทำให้หายได้
ไท่สื่อเกาถูกยิงเข้าที่ส่วนท้องเกิดเป็นรูเลือด
ลงมือแค่ครั้งเดียวมู่ชิงเกอก็รีบถอยหลังกลับ แต่ว่าปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บสามคนนั้นก็รีบไล่ตามมา
เกล็ดงูที่อยู่รายล้อมมู่ชิงเกอรีบรวมตัวกันกลายเป็นงูยักษ์ ตั้งอยู่ด้านหลังของมู่ชิงเกอ คุ้มครองนางจากการโจมตีของปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บ
หลานเฟยเยว่และไท่สื่อเกาที่ได้รับบาดเจ็บหนักก็ถูกเฮยมู่และโหลวเสวียนเถี่ยนำหลบไปจากที่พื้นสนามรบ หลีกเลี่ยงการปะทะ
“ฆ่าเขา! ข้าจะฆ่าเขา!” ถูกมู่ชิงเกอทำลายโฉมหน้าเป็นครั้งที่สอง หลานเฟยเยว่ตกเข้าไปอยู่ในความบ้าคลั่ง ไท่สื่อเกาก็เป็นเช่นเดียวกัน หลายครั้งหลายคราที่เกือบจะถูกมู่ชิงเกอเอาชีวิต ในใจของเขาแค้นเขามาตั้งนานแล้ว มู่ชิงเกออยู่ระดับพลังชั้นสีม่วงซึ่งอยู่ในช่วงชีวิตที่ไร้คู่ต่อกร แต่ว่า ในตอนที่เผชิญหน้ากับความโกรธของปีศาจเฒ่าชั้นกักเก็บนั้น นางถึงได้รับรู้รสชาติของความห่างชั้น นางถูกคนทั้งสามกดดันจนขยับไม่ได้ พายุอันรุนแรงพัดเข้าทำลายเสื้อผ้าของนาง หนังมังกรวารีที่เป็นเกราะก็ได้รับความเสียหายจากการรบแล้ว
ทันใดนั้นพลังที่สามารถทลายฟ้าดินก็พุ่งตรงเข้ามาโจมตีหัวใจของมู่ชิงเกอ
มู่ชิงเกอขยับไม่ได้ไร้หนทางที่จะหลบหลีก
พลังของการโจมตีนี้น่ากลัวเป็นอย่างมาก นางสามารถรู้สึกได้ว่าหากโดนโจมตีแล้วนางคงจะกลายเป็นฝุ่นผงสลายไป แต่ว่า ในตอนนั้น มุมปากของนางก็เผยรอยยิ้มที่แปลกประหลาดออกมา
ปัง!
ลำแสงพุ่งเข้าที่ร่างของมู่ชิงเกอ
“โจมตีโดนแล้ว!” บนพื้น หลานเฟยเยว่มองเห็นฉากนี้ก็รู้สึกดีใจขึ้นมา ไท่สื่อเกาก็เอ่ยอย่างแค้นเคืองว่า “ตายเช่นนี้งั้นหรือ ง่ายกับเขาเกินไปแล้ว!”
แต่ว่า รอยยิ้มของพวกเขายังไม่ทันได้ปีนขึ้นถึงแก้ม ก็มองไปเห็นลำแสงที่โจมตีมู่ชิงเกอทำลายเกราะป้องกันด้านหน้าของมู่ชิงเกอ ก่อนจะสะท้อนพุ่งกลับมาทางเดิม ลำแสงแห่งความสยดสยอง พลังที่ยิ่งน่าสะพรึงกลัวพุ่งตรงเข้าหาปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บตระกูลหลานที่โจมตีมันออกไป
นัยน์ตาของปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บตระกูลหลานหดตัวลง ในทันทีรีบถอยหลัง แต่ก็ยังถูกโจมตีด้วยพลังของตนเอง ตกลงพื้นดุจดั่งลูกกระสุน กระอักเลือดออกมา
ส่วนมู่ชิงเกอกลับยิ้มอย่างเยียบเย็น ยืนตรง เผยให้เห็นกระจกทองแดงที่ตรงหน้าอก
กระจกทองแดงอันนั้นนางเคยใช้แล้ว ไม่เพียงแค่หนึ่งครั้ง ประโยชน์ของมันก็คือสามารถสะท้อนกลับการโจมตี
และสามารถเพิ่มพลังเป็นสองเท่าส่งกลับไปได้
เพียงแต่ว่า…
มู่ชิงเกอก้มลงมองกระจกตรงหน้าอกแวบหนึ่ง ค่อยๆ ขมวดคิ้วขึ้น
มีรอยบุบบนกระจกทั้งยังมีรอยสีดำ เกรงว่าหากมีการโจมตีเช่นนี้อีกครั้ง กระจกคงจะแตกสลายแล้ว
“เป็นไปได้อย่างไร!”
“นี่เป็นไปไม่ได้!”
มู่ชิงเกอไม่เป็นอะไร แต่ปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บตระกูลหลานกลับได้รับบาดเจ็บหนักตกลงกองกับพื้น บทสรุปเช่นนี้ทำให้หลานเฟยเยว่และไท่สื่อเกาล้วนแต่ไม่อยากที่จะเชื่อ
เฮยมู่สบถเสียงเยียบเย็นว่า “ข้าเคยพูดแล้วว่าเด็กนี่มีเล่ห์กลแพรวพราว เล่ห์เหลี่ยมมากมาย!”
“กระจกอันนั้นจะต้องเป็นของวิเศษอย่างแน่นอน ไม่รู้จริงๆ ว่าเด็กที่มาจากแคว้นระดับสามคนหนึ่งไปเอามันมาจากไหน” โหลวเสวิยนเถี่ยเอ่ยออกมาอย่างหวาดหวั่น การประสบของปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บตระกูลหลาน ทำให้ปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บของหอหลอมศาสตราและสำนักหมื่นอสูรระมัดระวังตัวขึ้นมา
พวกเขาล้อมรอบมู่ชิงเกอไม่กล้าลงมืออย่างหุนหัน
มู่ชิงเกอเพิ่มทำทีที่ดูกล้าหาญขึ้นร้องคำว่า “แผนการทำให้เมืองว่างเปล่า” ในขณะเดียวกัน ในใจของนางก็เอ่ย กับเหมิงเหมิงว่า ‘เหมิงเหมิง เจ้ายังมีของวิเศษอะไรอีก รีบเอาออกมาไม่เช่นนั้นเจ้านายของเจ้าจะตายแล้วจริงๆ!’
เหมิงเหมิงร้องออกมาว่า ‘ของดีๆ มีมากมายปัญหาก็คือข้าไม่สามารถเอามันออกมาได้! ของวิเศษที่จะสามารถต่อกรกับปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บได้ล้วนต้องรอให้เจ้านายพัฒนาถึงขั้นกักเก็บก่อนถึงจะสามารถปลดผนึกได้!’
คำตอบนี้ทำให้มู่ชิงเกออยากจะร้องไห้
ปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บตระกูลหลานปีนขึ้นมาจากพื้น ใบหน้าดุร้ายมองมู่ชิงเกออย่างอำมหิตแล้วหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ดี ดี ดี! บนร่างของเจ้ามีของวิเศษแปลกประหลาด ในช่วงสั้นๆ พวกเราไม่อาจจะทำให้เจ้าลำบากได้ แต่ว่าของวิเศษที่เจ้ามี เพื่อนและลูกน้องเหล่านั้นของเจ้าคงจะไม่มีกระมัง? ข้าจะทำให้เจ้าได้มองเห็นพวกเขาตายอย่างทรมานต่อหน้าเจ้าไปทีละคนๆ โดยที่เจ้าทำอะไรไม่ได้ รอให้พวกเขาตายหมดแล้วก็ค่อยจัดการเจ้า!”
“เจ้ากล้า!” คำพูดนี้ทำให้มู่ชิงเกอตกตะลึง ดวงตาแทบจะพ่นไฟออกมา
“ท่านปู่ วิธีนี้ดี! ปล่อยให้เขาเจ็บปวดกรีดร้อง มองดูเหล่าคนที่ถูกฆ่าตายเพราะเขา จากนั้นค่อยฆ่าเขา!” หลานเพ่ยเยว่กัดฟันเอ่ยออกมา
“หากเจ้ากล้าทำเช่นนั้น ข้าจะต้องทำให้เจ้าเสียใจ!” นัยน์ตาของมู่ชิงเกอฉายแววแข็งกร้าว เงาร่างขยับจะพุ่งไปทางปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บตระกูลหลาน แต่ว่าปีศาจเฒ่าข้นกักเก็บของหอหลอมศาสตราและสำนักหมื่นอสูรกลับผนึกนางเอาไว้ทำให้นางไร้หนทางที่จะจากไป ใบหน้าของคนทั้งสองเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ดู อำมหิต ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเห็นด้วยกับข้อเสนอของปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บตระกูลหลาน