Skip to content

พลิกปฐพี 346

ตอนที่ 346

วางยาในสุรา

หานหัวหั่วซ่อนตัวอยู่ในมุมลับ มองเห็นหานฉายไฉ่พามู่ชิงเกอไป ในใจก็เกิดความโมโหขึ้น ‘หานฉายไฉ่ เจ้าคิดอยากจะแย่งกับข้าไปเสียทุกเรื่องจริงๆ! ตำแหน่งประมุขน้อยนั้นก็แล้วไป ถึงอย่างไรข้าก็ไม่เสียดาย แต่ตอนนี้กลับมาแย่งคนงามกับข้า?’

จนกระทั่งเงาร่างของทั้งสองคนจากไปแล้ว หานหัวหั่วถึงได้ลงมาจากเนินเขาอย่างไม่ยินยอม แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยเพลิงโทสะที่ไม่สามารถกดข่มลงไปได้

หานฉายไฉ่พามู่ชิงเกอเดินอยู่ภายในเรือนครู่หนึ่ง จนมาถึงข้างภูเขาหินอันหนึ่ง ภายในภูเขาหินซ่อนประตูหน้าเอาไว้บานหนึ่ง

ตอนนี้ประตูได้ถูกเปิดออกแล้ว พอดีมีสาวใช้สองนางถือถาดเปล่าเดินออกมาจากข้างใน

เมื่อเห็นหานฉายไฉ่แล้วก็งอเข่ากล่าวด้วยความเคารพว่า “ประมุขน้อย”

หานฉายไฉ่เอ่ยกับทั้งสองคนว่า “จัดการเป็นอย่างไร?”

“ได้จัดการตามที่ประมุขน้อยสั่งเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ” สาวใช้คนหนึ่งตอบออกมา

หานฉายไฉ่ถึงพยักหน้า ดูเหมือนให้พวกนางจากไปได้ จากนั้นก็หันไปเอ่ยกับมู่ชิงเกอว่า “เชิญ”

มู่ชิงเกอเดินตามเขาเข้าไปในประตู ผ่านทางเดินแคบๆ ลงไปหลายชั้นถึงได้เข้าไปในคลังเก็บสุรา หากเทียบคลังเก็บสุรานี้กับคลังเก็บสุราในหอสรรพสิ่งเมืองหลานอูเฉิง แล้วก็เล็กกว่ามาก

แต่ว่า บนชั้นวางรอบด้านก็ยังมีไหสุราตั้งอยู่เต็มไปหมด ตรงกลางมีแท่นโผล่ขึ้นมา ถูกปูด้วยผ้าแพรต่วนที่สะอาดสะอ้านมีลายปักดอกไม้งดงาม เข้ากับรสนิยมของหานฉายไฉ่

บนผ้าแพรต่วนวางโต๊ะเตี้ยเอาไว้อันหนึ่ง บนโต๊ะเตี้ยวางอาหารคาวหวานส่งกลิ่นหอมอบอวล ดูดึงดูดใจคน

รอบด้านของคลังเก็บสุรา แขวนไข่มุกราตรีขนาดน้อยใหญ่ เกิดแสงสว่างเย็นขึ้นในคลังเก็บสุรา ดูสว่างสดใสขึ้นหลายส่วน

มู่ชิงเกอกวาดตามองรอบๆ ดูออกว่าหานฉายไฉ่ตั้งใจจัดแต่งที่นี่เป็นอย่างดี

“คลังเก็บสุรานี้เป็นของสะสมส่วนตัวของข้า ในนั้นไม่เพียงแต่มีสุราของภาคต่างๆ ในโลกแห่งยุคกลาง แต่ยังมีที่ข้านำมาจากหลินชวนด้วย” หานฉายไฉ่พูดกับมู่ชิงเกอ

“สุราของหลินชวน” ในใจของมู่ชิงเกอเกิดความหวั่นไหว เผยรอยยิ้มออกมา “ดูแล้ว วันนี้ข้ามาไม่เสียเที่ยว”

นางเดินไปตามชั้นวางสุรา ค่อยเดินผ่านสุดท้ายก็หยุดลงที่หนึ่ง

“นํ้าค้างพระจันทร์” มู่ชิงเกอถือไหนั้นขึ้นมา สายตามองไปบนอักษรบนไห นัยน์ตาสดใสฉายแววคิดถึง

หานฉายไฉ่เดินเข้าไป ยืนอยู่ด้านหลังของนางเอ่ยว่า “ไม่ผิด นี่เป็นนํ้าค้างพระจันทร์ของแคว้นฉิน”

มุมปากของมู่ชิงเกอคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย พยักหน้าเอ่ยว่า “ไม่ได้ลิ้มรสมาสองปีกว่าแล้ว”

ได้เห็นคลังเก็บสุราส่วนตัวของหานฉายไฉ่ นางก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นในใจ ว่าเหตุใดนางไปมาหลากหลายที่แต่กลับไม่เคยคิดที่จะสะสมสุราไว้ในช่องว่างของตนเองเลย?

มู่ชิงเกอยิ้มบางๆ เอ่ยในใจว่า ‘พูดไปพูดมา ตนเองก็ไม่ใช่คนที่รักในสุรา ที่ชอบดื่มสุราก็เป็นเพียงแค่การดื่มเพื่อแสดงความรู้สึกบางอย่างที่ไม่สามารถพูดออกมาได้เท่านั้น’

ชั่งนํ้าหนักไหเหล้าในมือเล็กน้อย แล้วมู่ชิงเกอมองหานฉายไฉ่ ยิ้มเอ่ยว่า “เริ่มจากมันเป็นไง?”

รอยยิ้มเช่นนี้ หานฉายไฉ่ไม่ได้เห็นบนใบหน้าของมู่ชิงเกอนานแล้ว อดไม่ได้ที่จะตะลึงไป แต่ไม่นานเขาก็รีบกลับคืนสติยิ้มและพยักหน้า

ทำเป็นมองไม่เห็นท่าทีของหานฉายไฉ่ มู่ชิงเกอถือน้ำค้างพระจันทร์เดินไปยังโต๊ะเตี้ย

มีบางเรื่องที่หากถูกเปิดโปงแล้ว สุราในคืนนี้คงดื่มลงไปไม่ได้อีก

ทั้งสองนั่งตรงกันข้ามกัน แทนที่จะเป็นเก้าอี้เปลี่ยนมาเป็นผ้าปูทำให้ดูผ่อนคลายสบายอารมณ์ขึ้นไม่น้อย

มู่ชิงเกอนั่งลง มือหนึ่งฉีกจุกดินของไหสุรา ดึงผ้าแดงที่ปิดปากไหออก ชั่วขณะนั้น กลิ่นหอมสายหนึ่งก็กระจายขึ้นมา พริบตาเดียวก็กระจายเต็มไปทั้งคลังเก็บสุรา

“หอมจริงๆ! สุราดี!” มู่ชิงเกอสูดลงไปลึกๆ แล้วก็ชมออกมา

จากนั้นนางก็เทนํ้าสุราสีสดใสลงไปในถ้วยสองถ้วยที่อยู่ตรงหน้า จากนั้นก็ส่งถ้วยหนึ่งให้หานฉายไฉ่ หานฉายไฉ่รับมา กำลังคิดจะชนถ้วยกับนาง แต่

นางกลับยกถ้วยของนางขึ้นดื่มลงไปก่อน

หมดทางเลือก หานฉายไฉ่ทำได้เพียงเอามือกลับมา “เจ้าช่างไม่ไว้หน้าเลยสักนิดจริงๆ”

หลังจากดื่มสุราในถ้วยแล้ว มู่ชิงเกอก็เอ่ยอย่างดื่มดํ่าไปกับรสชาติว่า “ทำไมต้องแกล้งทำตัวเป็นสุภาพด้วย? สบายๆ หน่อย เจ้ากับข้าล้วนแต่ปล่อยไปตามธรรมชาติเถิด”

ประโยคเดียวนั้นพูดจนหานฉายไฉ่ไร้คำจะเอ่ย

เขาก็ดื่มสุราในถ้วยของตนเองลงไป

เห็นมู่ชิงเกอเติมอีกถ้วย เขาก็ยิ้มเอ่ยว่า “ข้าไปลั่วซิงเฉิง ของเจ้า เจ้ากลับไม่เคยต้อนรับข้าเช่นนี้ วันนี้เสียเปรียบเจ้าแล้ว”

มู่ชิงเกอยิ้มเอ่ยว่า “ข้าไม่ได้มีของสะสมส่วนตัวเช่นประมุขน้อยหานนี่”

สุราเป็นบางอย่างที่น่าประหลาด

นํ้าค้างพระจันทร์ครึ่งไหตกลงไปในท้อง ช่องว่างระหว่างทั้งสองคนในก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าจะจางหายไป และกลับสู่ความสัมพันธ์เดิมแต่ก่อน

“ไม่มีโอกาสได้ถามเจ้าเลย สองปีก่อนเจ้าหลอมทวนหลิงหลงขึ้นมาใหม่เป็นเพราะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกัน?” ปัญหานี้ซ่อนอยู่ในใจของหานฉายไฉ่มาตลอด จนมาถึงวันนี้ถึงได้มีโอกาสถามไป

มู่ชิงเกอวางถ้วยสุราในมือลง รอยยิ้มบนมุมปากค่อยๆ จางไป “ไม่มีอะไร เพียงแต่ได้ผ่านศึกใหญ่มาศึกหนึ่งก็เท่านั้น”

หานฉายไฉ่ขมวดคิ้วขึ้น “สามารถทำให้เจ้าอธิบายเช่นนี้ได้ คิดว่าคงจะเสี่ยงและอันตรายมาก”

มู่ชิงเกอไม่ได้พูดต่อ เพียงแต่ยกถ้วยสุราขึ้นมาใหม่ ดื่มสุราในถ้วยลงไป

“เขา…เขาอยู่ข้างกายเจ้าหรือไม่?” เข้าใจดีว่าคำถามนี้ไม่สมควรถามออกไป แต่หานฉายไฉ่ก็ยังอดใจไม่ได้ ถามออกไป

มู่ชิงเกอเงยหน้าขึ้น มองไปยังหานฉายไฉ่

ส่วนลึกของนัยน์ตาอันสดใสคู่นั้นของนาง ดูเหมือนว่าจะ มีพลังในการล้วงลึก สามารถมองจนทะลุปรุโปร่งว่าในใจของหานฉายไฉ่กำลังคิดอะไรอยู่ ภายใต้การจ้องมองของนาง ส่วนลึกในใจของหานฉายไฉ่ก็เกิดความคิดที่ อยากจะหลบเลี่ยงขึ้นมา

“เขาอยู่” ในตอนที่หานฉายไฉ่กำลังรู้สึกเสียใจที่ตนเองถามคำถามนี้ออกไปนั้น มู่ชิงเกอก็ให้คำตอบออกไปในทันใด

คำตอบนี้ทำให้หานฉายไฉ่ผ่อนคลายขึ้น บางสิ่งที่พัวพันอยู่ในใจมาโดยตลอด ดูเหมือนว่าจะมีความคิดจะปล่อยวางลงไป

เขาถือไหสุราขึ้นมาเติมให้ตนเองเต็มถ้วย ยกถ้วยขึ้นมาดื่มสุราลงไป บางทีอาจเป็นเพราะคำพูดของมู่ชิงเกอที่พูดตอนเข้าเมืองมาทำให้เขาสะเทือนอารมณ์หรือบางทีอาจเป็นเพราะเขาค่อยๆ ปล่อยวาง สรุปแล้วตอนนี้เมื่อได้ยินข่าว เรื่องมู่ชิงเกอกับซือมั่วอีกครั้ง อารมณ์ของเขาก็ไม่เหมือนกับตอนแรกอีกแล้ว

“ตอนนี้เจ้าถึงระดับไหนแล้ว? ข้ามองเจ้าไม่ออกแล้ว”

หานฉายไฉ่วางไหสุราลง เอ่ยถามมู่ชิงเกอ

“ระดับสีเงินชั้นหก” มู่ชิงเกอไม่ได้ปิดบังตอบออกไปตามจริง

“ระดับสีเงินชั้นหก!” นัยน์ตาเรียวยาวของหานฉายไฉ่ ฉายแววตกตะลึง หัวเราะออกมา “มู่ชิงเกอสมกับเป็นมู่ชิงเกอ เกิดมาก็เพื่อโจมตีคนอื่นโดยแท้ ตอนที่เจ้าเพิ่งมาถึงโลกแห่งยุคกลางนั้น ข้ายังเหนือกว่าเจ้าไกลนัก มาตอนนี้ข้ากลับได้แต่แหงนหน้ามองเจ้า”

แม้ว่าเขาจะพยายามไม่หยุดแต่ตอนนี้ก็ยังอยู่ที่ระดับสีเงินชั้นสี่เช่นเดิม

“มู่ชิงเกอ พวกเรายังถือว่าเป็นเพื่อนกันหรือไม่?” อยู่ดีๆ หานฉายไฉ่ก็ถามขึ้น

มู่ชิงเกอชะงัก ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเขาถึงถามเช่นนี้ แต่ก็ยังค่อยๆ พยักหน้า ความช่วยเหลือที่หานฉายไฉ่มีให้แก่นาง นางไม่เคยลืม

หากว่าไม่มีเรื่องความรักมาเกี่ยวข้อง พวกเขาในวันนี้ก็ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน

“สามารถเป็นเพื่อนเจ้ามู่ชิงเกอได้ถือเป็นบุญวาสนาสามชาติของข้าแล้ว” อยู่ดีๆ หานฉายไฉ่ก็เอ่ยออกมา

นัยน์ตาสดใสของมู่ชิงเกอไม่ได้มีร่องรอยของความมึนเมา นางมองหานฉายไฉ่แล้วเอ่ยว่า “หานฉายไฉ่ นี่ไม่เหมือนเป็นเจ้าเลย”

หานฉายไฉ่ที่นางรู้จักนั้นมีความมั่นอกมั่นใจอยู่ตลอด ไม่เคยเสียเปรียบมีแต่ความเจ้าเล่ห์เจ้าแผนการ

ตอนนี้หานฉายไฉ่ที่อยู่ตรงหน้าของนางกลับดูรู้สึกด้อยกว่า สงสัยในตัวเอง ดูอ่อนแอ

“มู่ชิงเกอ บางทีการรู้จักเจ้าอาจจะเป็นเคราะห์ของข้า เจ้าพูดถูก ตอนที่เผชิญหน้ากับเจ้านั้น ข้าเปลี่ยนไปจนไม่เหมือนตนเองเลย” ทันใดนั้นหานฉายไฉ่ก็พูดออกมา เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ ดูเหมือนว่าได้ตัดสินใจอะไรสักอย่างลงไปแล้ว คิดอยากจะพูดอะไรบางอย่างกับมู่ชิงเกอ

ในตอนนี้เอง กลับมีคนเข้ามาขัดจังหวะอย่างกะทันหัน “ประมุขน้อย ภายในจวนมีเรื่องด่วนต้องการให้ท่านไปจัดการ”

ลมหายใจของหานฉายไฉ่เย็นยะเยือกขึ้น นัยน์ตาเรียว ยาวฉายแววอำมหิต

มู่ชิงเกอยกถ้วยสุราของตนเองขึ้นมา เอ่ยกับเขาว่า “คํ่าคืนยังอีกยาวนาน เจ้าไปจัดการธุระก่อนเถอะ ข้าจะรอเจ้าที่นี่”

หานฉายไฉ่ยืนขึ้นมา มองนางแล้วเอ่ยว่า “ข้าจะรีบกลับมา”

พูดแล้วเขาก็เดินออกไปนอกคลังเก็บสุรา

ภายในคลังเก็บสุราเหลือเพียงแค่มู่ชิงเกอคนเดียว แน่นอนว่านางไม่ได้รู้สึกโดดเดี่ยว เพราะที่นี่มีสุราดีมากมายอยู่เป็นเพื่อนนาง

หานฉายไฉ่เดินออกไปนอกคลังเก็บสุรา ยืนอยู่ตรงหน้าผนังภูเขา เอ่ยด้วยอารมณ์ไม่ดีว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

“บ่าวไม่ทราบ เพียงรู้ว่าด้านหน้าส่งข่าวเข้ามา” สาวใช้ที่เข้ามาเรียกเขาหลุบตาเอ่ยขึ้น

หานฉายไฉ่ขมวดคิ้วแน่น แล้วถึงได้ก้าวเท้าจากไปจากคลังเก็บสุรา

เขาจากไปไม่นาน ก็มีคนคนหนึ่งเดินออกมาในทันใด ก้าวออกมากับยามคํ่าคืน ปรากฎตัวอยู่นอกคลังเก็บสุรา พูดกับสาวใช้ที่เฝ้าอยู่นอกคลังเก็บสุราว่า “ประมุขน้อยมีเรื่องด่วนต้องจัดการ เกรงว่าคงไม่ได้กลับมาโดยเร็ว คิดถึงว่าในห้องยังมีสุราดีไหหนึ่งที่นำมาจากภาคกลาง จึงใช้ให้ข้านำมาส่ง ขอให้เจ้าช่วยส่งเข้าไป บอกข่าวขอให้คุณชายด้านในรอสักหน่อย”

สาวใช้นางนั้นลังเลเล็กน้อย พิจารณาลักษณะคนที่มาท่ามกลางความมืด แต่สุดท้ายก็มองเห็นไม่ชัด ทำได้เพียงแต่เห็นชุดแต่งกายของนางที่ดูคล้ายกับของตนเอง จึงคิดว่าคงเป็นคนในจวนเช่นเดียวกัน

เพียงแค่สุราไหหนึ่งเท่านั้น สุราในคลังเก็บสุรายิ่งเยอะกว่านี้อีก

สาวใช้ไม่ได้คิดมาก ยื่นมือออกไปรับไหสุรามาถือไว้

ด้านในดูหนัก บรรจุนํ้าสุราไว้เต็มจริงๆ

“เช่นนั้นข้าก็ขอลาก่อน” คนที่มาส่งสุราถอยออกไปเข้าสู่ความมืด

สาวใช้ที่เฝ้าคลังเก็บสุราถือไหสุรา เดินเข้าไปในคลังเก็บสุรา ไม่นานนางก็ไปปรากฎตัวอยู่ตรงหน้าของมู่ชิงเกอ นางวางไหสุราในมือลงบนโต๊ะเตี้ยอย่างระมัดระวัง อธิบายเสียงเบาว่า “คุณชายมู่ ประมุขน้อยของข้าเกรงว่าจะต้องล่าช้าสักเล็กน้อย ด้วยกลัวว่าท่านจะเบื่อจึงคิดไปถึงว่าในห้องเขายังมีสุราดีที่นำมาจากภาคกลางไหหนึ่ง จึงสั่งให้คนนำมาส่ง”

อธิบายจบแล้ว นางก็ย่อเข่าถอยออกไป

สายตาของมู่ชิงเกอตกไปอยู่บนไหสุรานั่น นัยน์ตาดูมืดทึบยากเข้าใจ ครู่หนึ่งนางก็ยกไหสุราขึ้นมา เทนํ้าสุราลงไปในถ้วยตรงหน้าของตนเอง

สาวใช้คนนั้น เดินออกมาจากคลังเก็บสุราแล้วก็มาเฝ้าที่นอกประตูคลังเก็บสุราใหม่

ทันใดนั้น ลมสายหนึ่งก็พัดเข้ามา ร่างกายของนางแข็งทื่อ คล้ายกลายเป็นท่อนไม้ไป สองตาสูญเสียประกาย ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับ

เงาร่างสีดำสายหนึ่ง เดินออกมาจากมุมลับ เมื่อมาถึงตรงหน้าสาวใช้คนนั้นก็ยกมือขึ้นโบกๆ ตรงหน้าของนาง เมื่อเห็นนางไม่มีปฏิกิริยา ก็สบถออกมาหนึ่งคำแล้วเดิน เข้าไปในคลังเก็บสุรา

แสงภายในคลังเก็บสุรา สาดกระจายความมืดบนตัวของเขาไป เผยให้เห็นใบหน้าของเขา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version