Skip to content

พลิกปฐพี 385

ตอนที่ 385

เข้าใกล้เข้าไปใกล้อีก

“เป็นคนจากโลกอื่นงั้นหรือ?” จีเหยาฮั่วพยายามมองดู แต่เงาร่างที่ดูสั่นไหวนั้นทำให้มองเห็นได้ไม่ชัดเจน

สายตาของทั้งสามคนไม่ได้ชัดเจนเหมือนมู่ชิงเกอเพราะไม่ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงทางพันธุ์กรรมให้แข็งแกร่งขึ้น ดังนั้นจึงเห็นได้ไม่ชัดเจน เห็นเพียงแต่ว่ามีใครอยู่ตรงนั้น

“ดีจริง! ในที่สุดก็ได้เจอคนเป็นๆ เสียที สามารถไปเรียนรู้จากพวกเขาสักรอบ” จีเหยาฮั่วกำหมัดอย่างตื่นเต้น

มู่ชิงเกอหันมองเขาอย่างเย็นชา “ถ้าหากเจ้าอยากจะเป็นอย่างเว่ยมั่วลี่ก็ไปเถอะ”

เมื่อประโยคนี้หลุดออกไป รอยยิ้มบนใบหน้าของจีเหยาฮั่วก็แข็งค้างไปในทันที

นัยน์ตาของอิ๋งเจ๋อฉายแววดุดัน สีหน้าของซีเซียนเสวี่ยก็ซีดขาวขึ้นมา

ท่าทางของเว่ยมั่วลี่ ทำให้พวกเขารู้สึกกลัวและไม่อยากจะเจริญรอยตามเขา

“ชิงเกอ…” จีเหยาฮั่วอดไม่ได้ที่จะกดเสียงของตนเองให้เบาลง เก็บท่าทีที่ดูผ่อนคลายกลับไป เอ่ยถามอย่างระมัดระวังว่า “เจ้าจะบอกว่าคนทางนั้นเป็นพวกตัว ประหลาดที่ทำร้ายเว่ยมั่วลี่อย่างนั้นหรือ?”

อิ๋งเจ๋อและซีเซียนเสวี่ยล้วนแต่จ้องมองมาที่มู่ชิงเกอ และก็รอคอยคำตอบจากเขาเพราะตอนนี้พวกเขาทั้งสามล้วนแต่มองเห็นภาพคนเหล่านั้นไม่ชัด

มู่ชิงเกอมองไปยังเงาร่างของคนเหล่านั้นอีกครั้ง แล้วก็พูดออกมาเรียบๆ ว่า “ผิวหนังสีเขียว ร่างกายผอมแห้ง บ้างสูงบ้างก็เตี้ย…นี่เป็นสิ่งที่ข้ามองเห็น ส่วนรายละเอียดอื่นๆ นั้นข้าก็ไม่แน่ใจ แต่รายละเอียดเหล่านี้ คล้ายกับคำอธิบายของเว่ยมั่วลี่ ส่วนที่ว่าจะใช่หรือไม่ใช่ ถ้าพวกเราต้องการที่จะรู้ก็ต้องเข้าไปใกล้ๆ” เข้าใกล้?

ในใจของทั้งสามคนรู้สึกหนักอึ้ง มองตากัน

ครู่หนึ่งจีเหยาฮั่วถึงกัดฟันเอ่ยว่า “ก็ดี! เข้าไปดูใกล้ๆ ว่าพวกเหล่านี้นั้นเป็นตัวประหลาดอะไร ถ้าหากว่าเป็นพวกเดียวกันกับที่ทำร้ายเว่ยมั่วลี่ ก็พอดีจะได้จับพวกมันไป ถอนพิษให้แก่เว่ยมั่วลี่”

อึ้งเจ๋อพยักหน้า “ไม่ผิด ในเมื่อพบเจอแล้ว พวกเราก็ต้องศึกษา”

“หากว่าเป็นตัวประหลาดเหล่านั้นจริงๆ พวกเจ้าว่าจะใช่พวกที่โจมตีเว่ยมั่วลี่ไหม?” ทันใดนั้นซีเซียนเสวี่ยก็ถามขึ้นมา

“มีความเป็นไปได้น้อยมาก” จีเหยาฮั่วพูด “เวลาที่เว่ยมั่วลี่ถูกโจมตีนั้น อย่างน้อยก็เป็นเรื่องที่ผ่านมาหลายปีแล้ว หลายปีมานี้เขาก็อยู่ในสนามรบโบราณมาตลอด แสดงว่าต้องใช้ยันต์เคลื่อนย้ายระยะยาว ตัวประหลาดเหล่านั้นไม่มีทางที่จะอยู่ที่นี่หลายปีได้ไม่รู้ว่าเปลี่ยนกันเข้ามากี่กลุ่มแล้ว”

“ยันต์เคลื่อนย้ายระยะยาว?” มู่ชิงเกอมองไปยังเขาอย่างแปลกใจ

จีเหยาฮั่วอธิบายให้มู่ชิงเกอฟังว่า “ยันต์เคลื่อนย้ายเข้ามาสู่สนามรบโบราณนั้นแบ่งออกเป็นสามชนิด ชนิดแรก ก็คือที่พวกเราใช้อยู่มีผลเพียงแค่สามเดือน ยังมีอีกชนิด ที่มีผลหนึ่งปี ส่วนอีกชนิดนั้นลํ้าค่าที่สุด พูดกันว่ามีผลระยะยาว จะออกมาตอนไหนก็แล้วแต่ใจคนที่ใช้ ยันต์เคลื่อนย้ายชนิดนั้นไม่เหมือนกันกับของพวกเรา พวกเราคือต้องขยี้ทำลายแล้วก็เข้ามา เมื่อเวลามาถึงก็จะถูกส่ง ออกไปเอง ส่วนยันต์เคลื่อนย้ายระยะยาวนั้นติดเข้ามากับร่างกาย เมื่อคิดที่จะออกถึงจะขยี้ทำลาย”

“จีเหยาฮั่วพูดไม่ผิด! ยันต์เคลื่อนย้ายระยะยาวอันนั้นของเว่ยมั่วลี่ได้มาจากตำหนักเทพ” คำพูดของซีเซียนเสวี่ยยืนยันการคาดเดาของจีเหยาฮั่ว

แต่คำพูดของนางก็ดึงดูดให้อีกสามคนที่เหลือเกิดความสงสัย

ซีเซียนเสวี่ยอธิบายว่า “เมื่อหกปีก่อนเว่ยมั่วลี่ได้ช่วยตำหนักเทพจัดการเรื่องๆ หนึ่ง รายละเอียดเป็นอย่างไรนั้นข้าเองก็ไม่ชัดเจน เพียงแต่รู้ว่ารางวัลที่จะมอบให้เขา นันถูกเขาปฏิเสธ เปลี่ยนเป็นยันต์เคลื่อนย้ายระยะยาวแผ่นนั้นแทน ในตอนแรกที่เว่ยมั่วลี่หายสาบสูญ ข้าก็เคยเดาว่าเขาน่าจะเข้ามาในสนามรบโบราณ แต่เขาไม่ปรากฎตัวนานหลายปีจึงทำให้ข้าไม่แน่ใจว่าเขานั้นออกจากสนามรบโบราณหรือยัง หรือว่าได้ทะลุผ่านรอยแยกในสนามรบโบราณไปยังโลกอื่นไปแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าหลายปีมานี้เขาจะใช้ชีวิตอย่างบ้าๆ บอๆ อยู่ในสนามรบ โบราณมาโดยตลอด”

พูดถึงสุดท้าย เสียงของซีเซียนเสวี่ยก็เจือแววเสียใจ

“ไม่ต้องสนใจว่าพวกเหล่านั้นจะใช่ตัวประหลาดที่โจมตีเว่ยมั่วลี่หรือไม่ พวกเราต้องการแน่ใจเพียงว่าพวกมันใช่ตัวประหลาดที่เว่ยมั่วลี่พูดถึงหรือไม่ก็พอ คิดหาวิธีจับมันมาหนึ่งตัวก็มีโอกาสจะหาวิธีช่วยเว่ยมั่วลี่ได้แล้ว” มู่ชิงเกอพูดกับทั้งสามคน

“อืม!”

“อืม!”

“อืม!”

ทั้งสามคนพยักหน้าพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย นัยน์ตาของพวกเขาฉายแววชัดเจนและแน่วแน่

จะต้องช่วยเว่ยมั่วลี่ให้ได้!

ตัวประหลาดเหล่านี้ถึงแม้ว่าจะอันตราย แต่พวกเขาก็ต้องเข้าไปใกล้! นี่ไม่เพียงแต่เพื่อช่วยเว่ยมั่วลี่ แต่ยังเพื่อตัวพวกเขาเองที่จะต้องเอาชนะความกลัวไปให้ได้มิเช่นนั้นทุกครั้งที่พบเจอเรื่องเช่นนั้น พวกเขาก็อาจจะต้องหลีกเลี่ยงไปเพราะความกลัว

“ไปเถอะ” มู่ชิงเกอนำหน้าไป

ทั้งสามคนรีบติดตามมู่ชิงเกอไป และก็กลั้นลมหายใจ จับตาดูความเคลื่อนไหวรอบกาย

พวกเขาอยู่มุมหนึ่งของสนามรบ ส่วนตัวประหลาดเหล่า นั้นอยู่อีกด้านหนึ่ง มองไปก็ไม่ไกลสักเท่าไหร่ แต่ในความเป็นจริง…

ทั้งสี่คนก้มหมอบไปอย่างระมัดระวัง แอบเข้าไปในจุดที่เป็นหลุมๆ หนึ่ง ตัวประหลาดตัวสูงหันหน้ามาอย่างฉับพลัน มู่ชิงเกอหมอบลงอย่างรวดเร็ว คนอื่นๆ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็หมอบตาม อาศัยหลุมซ่อนร่างกายของตนเองไว้

“เป็นอะไรไป?” จีเหยาฮั่วอ้าปากถามอย่างไร้เสียงออกไป นัยน์ตาของเขาฉายแววตึงเครียด

มู่ชิงเกอค่อยๆ ส่ายหน้า ทันใดนั้น นัยน์ตาของนางก็เปล่งแสงสว่างออกมา ถ่ายทอดเสียงไปให้ทั้งสามคนว่า “ข้ามีข้อสงสัยอยู่อย่างหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าจะถูกต้องไหม”

นางใช้การถ่ายทอดเสียง นี่ทำให้ทั้งสามคนเข้าใจและก็ใช้การถ่ายทอดเสียงสื่อสารตาม

“สงสัยอะไร?” อิ๋งเจ๋อมองนางแล้วเอ่ยถาม

จีเหยาฮั่วและซีเซียนเสวี่ยก็มองนางอย่างจริงจัง

มู่ชิงเกอเอ่ยขึ้นอีกว่า “เว่ยมั่วลี่เคยพูดแล้วว่า เขาเคยแอบตามพวกมันไปนานมาก แม้แต่ตนเองก็ยังลืมไปแล้วว่าเป็นครึ่งปีหรือว่าหนึ่งปี”

ทั้งสามคนคิดแล้วก็พยักหน้าพร้อมกัน

มู่ชิงเกอพูดต่อว่า “พวกเจ้าเคยคิดหรือไม่ว่า ติดตามไปนานถึงขนาดนั้นก็ยังไม่ถูกพบเห็นแล้วเพราะเหตุใดสุดท้ายถึงได้ถูกพบเห็นอย่างกะทันหัน?”

ปัญหานี้ทำให้ใบหน้าของทั้งสามคนแข็งค้างไป รายละเอียดนี้พวกเขาไม่เคยคิดถึงมาก่อน อย่าพูดว่าคิดเลย หากมู่ชิงเกอไม่พูดออกมา พวกเขาก็คงลืมไปนานแล้ว

ทั้งสามคนนิ่งเงียบลงมา ครู่หนึ่งอิ๋งเจ๋อถึงได้เอ่ยกับมู่ชิงเกอว่า “พูดการคาดเดาของเจ้าออกมาเถอะ”

มู่ชิงเกอค่อยๆ พยักหน้า เอ่ยกับทั้งสามคนว่า “ข้าสงสัยว่า ตัวประหลาดเหล่านี้สายตาไม่ดี หรือไม่ก็มองเห็นได้แต่ของที่อยู่ใกล้ๆ พวกเขาเท่านั้น ที่ไกลออกไปจะมองไม่เห็น”

การคาดเดานี้ทำให้ทั้งสามคนเบิกตากว้างขึ้น รู้สึกสนใจในทันที

ถ้าหากสามารถจับจุดอ่อนของอีกฝ่ายได้ สำหรับพวกเขาแล้วก็ล้วนแต่เป็นเรื่องดี!

“แต่ว่า…” มู่ชิงเกอค่อยๆ ขมวดคิ้วขึ้น เอ่ยอีกว่า “ข้าไม่รู้ว่าเว่ยมั่วลี่ถูกพบเห็นได้อย่างไร บางทีก่อนที่เขาจะถูกค้นพบอาจจะทำอะไรบางอย่าง ดังนั้นจึงไม่อาจตัดสินใจได้ ทำได้เพียงแต่คาดเดาว่าเสียงของตัวประหลาดพวกนี้สามารถทำร้าย คนได้ บางทีหูของพวกมันอาจจะดีมาก! พวกมันไม่เหมือนพวกเรา ทำได้เพียงแต่อาศัยหูในการสำรวจรอบด้าน ไม่อาจอาศัยสองตาได้”

คำพูดของมู่ชิงเกอทำให้ทั้งสามคนเข้าใจขึ้นมา

ไม่อาจไม่พูดได้ว่าหากคิดตามความคิดของนางแล้วก็จะ พบว่าการคาดเดานี้มีโอกาสเป็นไปได้

จีเหยาฮั่วกลอกตาไปมา เอ่ยขึ้นว่า “ให้ข้าไปทดสอบดูดีหรือไม่?”

มู่ชิงเกอหันมองเขา เลิกคิ้วขึ้น เดิมทีนางคิดจะพูดประโยคนี้ แต่คิดไม่ถึงว่าจีเหยาฮั่วกลับแย่งพูดออกมาก่อน

“เจ้า?” อิ๋งเจ๋อขมวดคิ้ว ดูเหมือนไม่เห็นด้วยที่จีเหยาฮั่วจะไปเสี่ยง

ในความเป็นจริงแล้วเขายอมใช้ตัวเองไปทดสอบให้อีกสามคนอยู่ที่นี่จะดีกว่า

เวลานี้เองซีเซียนเสวี่ยก็พูดอาสาขึ้นมา “ให้ข้าไปเถอะ”

จีเหยาฮั่วตัดบทนางเอ่ยกับทั้งสามคนว่า “ข้าสามารถควบคุมลมได้ และก็เคลื่อนไหวได้รวดเร็ว หากว่าถูกเจอตัวแล้วต้องหนี พวกเจ้าหนีเร็วสู้ข้าได้หรือ? ดังนั้นให้ข้าไปปลอดภัยที่สุดพวกเจ้าไม่ต้องแย่งกับข้าแล้ว”

คำพูดนี้ดูมีเหตุผล แต่มู่ชิงเกอกลับเอ่ยเตือนว่า “เสียงนั้นเร็วกว่าการเคลื่อนไหวของเจ้ามาก หากว่าเจ้าถูกค้นพบแล้วพวกมันโจมตีเจ้า เจ้าอาจจะหนีได้ไม่ทัน”

“เช่นนั้นข้าจะปิดกั้นการได้ยินเอาไว้” จีเหยาฮั่วเอ่ยในทันที

มู่ชิงเกอครุ่นคิดเล็กน้อย แล้วก็เอ่ยกับเขาว่า “ใช้พลังจิตคุ้มครองสมองเอาไว้ด้วย” นางคิดว่าในเมื่อพิษนั้นมีฤทธิ์ทำร้ายสมอง เช่นนั้นก็ต้องเกี่ยวพันถึงสมอง ถึงอย่างไรแล้วการปกป้องสมองเอาไว้ก่อนก็ไม่มีอะไรเสียหาย

จีเหยาฮั่วจดจำคำพูดของมู่ชิงเกอแล้วก็พยักหน้าอย่างจริงจัง

มู่ชิงเกอมองเขาแล้วก็พูดสิ่งที่คิดไว้ในใจออกมา “จุดมุ่งหมายในการสืบของเจ้าก็คือพิสูจน์การคาดเดาก่อนหน้านี้ของข้า ดังนั้นเจ้าต้องทำสองอย่าง อย่างแรกคือเข้าไปใกล้อย่างไร้เสียง วางท่ายิ่งใหญ่เดินเข้าไปใกล้ มองดูปฏิกิริยาของพวกมัน ถ้าหากว่าไม่มีปฏิกิริยาอะไร เช่นนั้นเจ้าก็ใช้จุดเด่นของเจ้า ควบคุมแรงลมทำให้ด้านตรงข้ามเกิดความเคลื่อนไหวขึ้นมา เพื่อทดสอบพวกมัน หลังจากเสร็จแล้วเจ้าก็รีบถอย ไม่ต้องอยู่ต่อ แต่หากว่าในระหว่างที่ดำเนินการถูกพวกมันพบเห็นเข้า เจ้าก็ต้องรีบถอยหนีในทันที พวกเราจะคอยรับเจ้า”

“เข้าใจแล้ว” จีเหยาฮั่วพยักหน้า มองทั้งสามคนแวบหนึ่งแล้วก็คลานออกจากหลุม

เขายืนอยู่บนสนามรบอีกครั้ง จัดระเบียบเสื้อผ้าของตนเอง ทำตามที่มู่ชิงเกอบอก วางมาดเดินเข้าไปใกล้ไม่ต้องระมัดระวัง แต่ห้ามให้เกิดเสียง

เพียงแค่เขาขยับ หัวสามหัวก็โผล่ออกมาจากหลุม จับตาดูแผ่นหลังของเขา เตรียมตัวรับเขาตลอดเวลา

รอจนจีเหยาฮั่วเดินไปไกลแล้ว มู่ชิงเกอถึงได้พูดขึ้นว่า “ไป!”

พวกเขาจำเป็นต้องรักษาระยะห่างระยะหนึ่งกับจีเหยาฮั่วเอาไว้ถึงจะช่วยเขาได้ทัน

จีเหยาฮั่วเดินอย่างอหังการอยู่ด้านหน้า อีกสามคนตามมาด้านหลังอย่างระมัดระวัง

ส่วนตัวประหลาดผิวหนังสีเขียวก็ยิ่งปรากฎอย่างชัดเจนขึ้นต่อหน้าพวกเขา เป็นเหมือนการคาดเดาของมู่ชิงเกอไม่มีผิด พวกมันไม่มีความรู้สึกใดๆ ต่อการเข้าใกล้ของจีเหยาฮั่ว

‘พอสมควรแล้ว’ มู่ชิงเกอลอบพูดในใจ ในตอนที่นางพูดในใจนั้นก็เห็นว่าจีเหยาฮั่วส่งพายุหมุน พุ่งไปยังทางตรงกันข้ามพอดี พายุหมุนตกลงบนพื้นเกิดเสียงขึ้นมา

เสียงไม่ดังแต่ตัวประหลาดเหล่านั้นกลับระวังตัวขึ้นมาในทันที

พวกมันมองไปทางด้านนั้น แต่สิ่งนี้กลับทำให้จีเหยาฮั่วตกใจจนยืนแข็งอยู่ที่เดิมไม่กล้าขยับ

เพราะอยู่ใกล้มากเขาถึงได้เห็นรูปลักษณ์อันน่ากลัวของตัวประหลาดเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน เป็นเหมือนกับที่เว่ยมั่วลี่อธิบายเอาไว้ไม่มีผิด…ไม่สิ ดูน่าเกลียดน่ากลัวยิ่งกว่า!

หลังจากเกิดเสียงขึ้นแล้ว ก็มีตัวประหลาดตัวเตี้ยตัวหนึ่ง พุ่งตัวไปยังจุดที่เกิดเสียง แต่ว่ากลับไม่พบอะไร ทันใดนั้นมันก็หันหน้ามายังทางที่จีเหยาฮั่วยืนอยู่ แล้วส่งเสียงร้องที่แสบแก้วหูออกมา…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version