Skip to content

พลิกปฐพี 388

ตอนที่ 388

การโจมตีที่แปลกประหลาด การต่อสู้ที่อลหม่าน

วี้ด!

วี้ด วี้ด!

ตัวประหลาดตัวเล็กสองตัวส่งเสียงแสบแก้วหูออกมา การโจมตีทางจิตวิญญาณทะลวงเข้ามาถึงส่วนหัวของทั้งสี่คนในพริบตา

ดีที่ก่อนหน้านี้พวกเขาล้วนแต่ใช้พลังจิตคุ้มกันส่วนหัวอย่างต่อเนื่อง ขัดขวางการบุกทะลวงของการโจมตี

การโจมตีไร้รูปร่างทำให้พลังจิตที่พวกเขาใช้คุ้มกันส่วนหัวแตกลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งสี่คนกัดฟันใช้พลังจิตสร้างเกราะป้องกันเพิ่มอย่างต่อเนื่อง

ส่วนตอนนี้เองเศษวิญญาณเหล่านั้นก็ได้มาถึงตรงหน้าของพวกเขาแล้ว

“เคี๊ยก เคี๊ยก เคี๊ยก!”

เสียงหัวเราะของเศษวิญญาณก็แสบแก้วหูเช่นเดียวกัน แต่ตอนนี้เมื่อทั้งสี่คนได้ฟังกลับรู้สึกแค้นจนต้องกัดฟันกรอด

หากไม่เป็นเพราะการปรากฎตัวของเศษวิญญาณพวกเขาก็จะไม่ถูกตัวประหลาดสีเขียวค้นพบ!

“ฆ่าฝ่าออกไปก่อนค่อยว่ากัน!” มู่ชิงเกอกัดฟันพูดออกมา ทวนหลินหลงในมือก็ได้ออกมาต่อสู้กับเศษวิญญาณแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นเศษวิญญาณหรือว่าตัวประหลาดสีเขียวก็ล้วนแต่อันตรายสำหรับพวกเขา

พวกเขาต้องช่วยเว่ยมั่วลี่ แต่ก็ไม่อาจจะเสียสละชีวิตของตนเองไปได้ ดังนั้นสถานการณ์ไนตอนนี้พวกเขาจึงคิดจะฆ่าล้างเพื่อแหวกเส้นทางหนีออกไปจากที่นี่ หลบหลีกจากอันตรายก่อนแล้วค่อยตัดสินใจอีกครั้ง

ทั้งสามคนเห็นด้วยกับการตัดสินใจของมู่ชิงเกอ จึงเคลื่อนไหวในทันที

การโจมตีของอิ๋งเจ๋อและซีเซียนเสวี่ยไม่มีประโยชน์ต่อเศษวิญญาณ ดังนั้นพวกเขาจึงไปต่อสู้กับตัวประหลาด ตัวเล็กสองตัวที่พุ่งมายังพวกเขา การเคลื่อนไหวของตัวประหลาดตัวเล็กนั้นรวดเร็วมาก หลังจากพบเห็นพวกเขาทั้งสี่คนแล้วก็ใช้เสียงโจมตีก่อน จากนั้นจึงพุ่งเข้ามาหาพวกเขา

เพียงชั่วลมหายใจพวกมันก็เข้ามาถึงตรงหน้าของทั้งสี่คน ร่วมมือกับเศษวิญญาณโจมตีพวกเขา

มู่ชิงเกอและจีเหยาฮั่วจัดการเศษวิญญาณ ส่วนซีเซียนเสวี่ยและอิ๋งเจ๋อแบ่งกันจัดการตัวประหลาดตัวเล็กคนละตัว

อีกด้านหนึ่งตัวประหลาดตัวใหญ่ก็มองมายังพวกเขาแวบนึงด้วยท่าทีดูแคลน

จากนั้นมันก็ถอนสายตากลับไม่ได้สนใจอีก ดูเหมือนคิดว่าพวกเขาทั้งสี่ไม่เป็นภัยคุกคาม สั่งการให้ตัวประหลาดตัวเล็กตัวอื่นๆ เก็บรวบรวมเศษวิญญาณเหล่านั้นต่อ

การดูแคลนเช่นนี้ตรงกับใจของพวกมู่ชิงเกอพอดี เพราะหากมีตัวประหลาดตัวเล็กเพิ่มมาอีกสองตัว ทางฝั่งพวกเขาก็คงจะกดดันมากขึ้น

ซีเซียนเสวี่ยตวัดกระบี่แทงตัวประหลาดตัวเล็ก

แต่ว่าตัวประหลาดตัวเล็กกลับกลายเป็นเงาร่างร่างหนึ่ง แบ่งออกเป็นสี่ด้านแปดทางโอบล้อมซีเซียนเสวี่ยเอาไว้

ทั้งยังส่งเสียงโจมตีจิตวิญญาณอย่างต่อเนือง

ซีเซียนเสวี่ยทั้งต้องคอยใช้พลังจิตสร้างเกราะป้องกันให้แก่ส่วนหัวทั้งยังต้องใช้กระบี่แทงเงาร่างเหล่านั้นไปด้วย

ทุกๆ กระบี่ที่ตกลงไป ทำให้นางรู้สึกเหมือนแทงโดนความว่างเปล่า ส่วนตัวประหลาดตัวเล็กที่ถูกนางแทงก็จะแยกออกเป็นสองส่วนพุ่งเข้ามาหานางอย่างบ้าคลั่งต่อ

เงาร่างของตัวประหลาดตัวเล็กยิ่งฆ่าก็ยิ่งเยอะขึ้นเรื่อยๆ หน้าผากของซีเซียนเสวี่ยเต็มไปด้วยเหงื่อ

นางเงยหน้ามองไปทางอิ๋งเจ๋อ เห็นฝั่งทางเขานั้นก็ไม่ได้ดีไปกว่าตนเองสักเท่าไหร่ ตัวประหลาดตัวเล็กที่โอบล้อมเขามากขึ้นเรื่อยๆ ตามการโจมตีของเขา

สีหน้าของอิ๋งเจ๋อเปลี่ยนเป็นไม่น่าดูอย่างยิ่ง ดูแล้วคงถูกกระบวนท่าอันแปลกประหลาดของตัวประหลาดตัวเล็กสกัดเอาไว้

ทันใดนั้นซีเซียนเสวี่ยก็รู้สึกว่าที่แขนเจ็บขึ้นมา

นางมองออกไปถึงพบว่าแขนของตนเองถูกตัวประหลาดตัวเล็กใช้กรงเล็บอันแหลมคมจิกเข้า ซีเซียนเสวี่ยตกใจมาก ตัวประหลาดสีเขียวกลับสามารถโจมตีทะลุเกราะป้องกันของนางได้อย่างง่ายดาย!

นางเม้มริมฝีปากแน่นรีบตวัดกระบี่ออกไปป้องกัน พริบตาเดียวกระบี่ของนางก็กลายเป็นสายนํ้ารัดพันรอบกายของนาง ขัดขวางไม่ให้ตัวประหลาดตัวเล็กเข้ามา ใกล้ เหล่าตัวประหลาดตัวเล็กเหล่านั้นถูกสายนํ้าพุ่งเข้าใส่จนล้มลุกคลุกคลานแต่ก็คลานลุกขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วแล้วก็พุ่งเข้ามาหาซีเซียนเสวี่ยอีกครั้ง

ซีเซียนเสวี่ยรู้สึกว่าหนังหัวชายิบ แม้ว่านางจะใช้พลังจิตคุ้มครองส่วนหัวอยู่เรื่อยๆ แต่ภายใต้การโจมตีจิตวิญญาณอย่างต่อเนื่อง ส่วนหัวก็เริ่มเกิดความรู้สึกเจ็บปวดขึ้นแล้ว

สีหน้าของนางเริ่มขาวซีดแต่ก็ยังฝืนต่อไป

นางเริ่มที่จะแยกไม่ออกแล้วว่าอันไหนคือร่างจริงของตัวประหลาดตัวเล็ก และก็ยิ่งไม่รู้ว่าจะฆ่าพวกมันได้อย่างไร สิ่งเดียวที่สามารถทำได้ก็คือหยุดยั้งตัวประหลาดตัวเล็กตัวนี้ไม่ให้พวกมันเพิ่มความลำบากให้แก่พวกมู่ชิงเกอ

ฝั่งทางซีเซียนเสวี่ยต่อสู้อย่างยากลำบากและฝั่งทางอิ๋งเจ๋อก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันสัก เท่าไหร่

ดีที่พลังฝึกปรือของเขาสูงกว่าซีเซียนเสวี่ย ทั้งอาวุธยาวในมือของเขาก็ถือว่าร้ายกาจสามารถขัดขวางได้

เขาชกหมัดออกไปโดนตัวประหลาดสีเขียว

จากนั้นตัวประหลาดตัวเล็กก็กลายเป็นสองตัวพุ่งเข้าหาเขาอย่างบ้าคลั่ง

ยิ่งเขาโจมตีก็ยิ่งเพิ่มมากยิ่งขึ้น ยิ่งฆ่าก็ยิ่งเยอะ สถานการณ์เช่นนี้ทำให้ในนัยน์ตาของเขาเย็นยะเยือกขึ้น ร่ายรำอาวุธยาวในมือเร็วมากยิ่งขึ้น

มู่ชิงเกอกับจีเหยาฮั่วใช้ยุทธภัณฑ์ชั้นมหาเทพฆ่าล้างเศษวิญญาณ บรรดาเหล่าเศษวิญญาณที่มีระดับสูงหน่อยก็ถูกมู่ชิงเกอใช้วิชากลืนวิญญาณเก็บกลับไป แต่ก็ยังมีเศษวิญญาณนับไม่ถ้วนพุ่งเข้ามาหาพวกเขา

“ชิงเกอ การทำเช่นนี้ต่อไปไม่ใช่วิธีที่ดี” จีเหยาฮั่วเอาหลังชนหลังกับมู่ชิงเกอ กระซิบบอกกับมู่ชิงเกอ

มู่ชิงเกอหันมองเขา เพียงแต่เห็นความร้อนใจในดวงตาของเขา

ด้านหน้าของทั้งสองคนมีเศษวิญญาณพุ่งเข้ามาเรื่อยๆ มีบางตัวที่คิดแย่งชิงร่างเนี้อ และก็มีบางตัวที่คิดจะกินเนื้อของพวกเขา

พวกเขาถูกเศษวิญญาณโอบล้อม เศษวิญญาณอันมืดทะมึนโอบล้อมพวกเขาเอาไว้รอบด้าน ทำให้พวกเขามองไม่เห็นถึงสภาพโดยรอบ และก็ไม่รู้ว่าตัวประหลาดสีเขียวเหล่านั้นมีสถานการณ์เป็นอย่างไร

มู่ชิงเกอกัดฟันเอ่ยกับจีเหยาฮั่วว่า “รวมกันต่อสู้ไปสักทิศทาง ฆ่าออกไปเป็นทางออกสักสาย จากนั้นพวกเราก็ถอยกันไปก่อน”

“ดี!” จีเหยาฮั่วพยักหน้า เอ่ยกับมู่ชิงเกอว่า “ข้าจะไปรับพวกเขา!”

มู่ชิงเกอพยักหน้า

จีเหยาฮั่วฝ่าไปทางด้านที่อิ๋งเจ๋อและซีเซียนเสวี่ยอยู่ ส่วนมู่ชิงเกอกุมทวนหลิงหลงฆ่าล้างเศษวิญญาณไม่หยุดคิดจะแหวกออกเป็นเส้นทางหนึ่ง

พญาเพลิงอัคคีแรกกำเนิดพุ่งออกจากทวนหลิงหลง มังกรเพลิงคำรามออกไปพุ่งเข้าไปใส่เศษวิญญาณเหล่านั้น

พญาเพลิงอัคคีแรกกำเนิดนั้นเป็นเปลวเพลิงของพระอาทิตย์สิ่งนี้เป็นดาวพิฆาตของสิ่งที่ชั่วร้ายมืดดำ ถึงแม้ว่าพญาเพลิงอัคคีแรกกำเนิดจะไม่สามารถฆ่าเศษ

วิญญาณได้ แต่ก็ยังสามารถบีบพวกมันให้ถอยไปได้ แน่นอนว่าตลอดเส้นทางที่มังกรเพลิงพุ่งไป เหล่าเศษวิญญาณเหล่านั้นก็กระจายหนีไปอย่างหวาดกลัว ส่วน มู่ชิงเกอและทวนหลิงหลงก็แยกกันซ้ายขวาจัดการกับเศษวิญญาณ

อีกด้านหนึ่งจีเหยาฮั่วก็ไปถึงข้างกายของอิ๋งเจ๋อและซีเซียนเสวี่ยได้อย่างยากลำบาก และก็มองไปเห็นฉากที่น่าตื่นตะลึง

ตรงหน้าของพวกเขามีลูกบอลขนาดใหญ่สองลูก

เขามองไม่เห็นซีเซียนเสวี่ยกับอิ๋งเจ๋อเลย มองเห็นเพียงแต่ตัวประหลาดสีเขียวตัวเล็กที่อัดแน่นอยู่เป็นรูปลูกบอล

“ให้ตายเถอะ!” เขาด่าออกไปหนึ่งประโยค ไม่ได้ชักช้า เขาตวัดพัดในมือของเขาออกไป

เพียงแต่ว่าเขาเพิ่งจะขยับตัว ด้านในก็มีเสียงอิ๋งเจ๋อร้องตะโกนออกมาว่า “ห้ามฆ่าพวกมัน!”

จีเหยาฮั่วตกตะลึงรีบเก็บพัดกลับ

ส่วนอิ๋งเจ๋อที่อยู่ด้านในก็มองลอดผ่านช่องว่างของตัวประหลาดสีเขียวออกมามองเห็นความร้อนใจของจีเหยาฮั่ว

“ทำไมถึงไม่สามารถฆ่าพวกมันได้? เจ้ายังจะสงสารตัวประหลาดพวกนี้อีกอย่างนั้นหรือ?” จีเหยาฮั่วกระทืบเท้าอย่างร้อนใจ

อิ๋งเจ๋อเอ่ยว่า “พวกมันฆ่าไม่ตาย ยิ่งฆ่าก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ทำได้เพียงฝืนต้านไว้!”

ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่รู้ถึงได้ทำให้เกิดภาพเช่นนี้ ส่วนซีเซียนเสวี่ยที่อยู่ไม่ไกลออกไป ก็เป็นเหมือนกันกับเขา ทำได้เพียงแต่ป้องกันไม่กล้าลงมือฆ่าอีก

“อะไรกัน! ทำไมยิ่งฆ่ายิ่งมากขึ้น?” จีเหยาฮั่วมึนงง เขายิ่งร้อนใจขึ้น ตะโกนบอกทั้งสองคนว่า “อิ๋งเจ๋อ ซีเซียนเสวี่ย เจ้าทั้งสองคนเป็นอย่างไรบ้าง? ต้องการให้ข้าทำอย่างไร? น่าตายยิ่งนัก!”

“ตอนนี้ยังไม่เป็นอะไร เจ้าคิดหาวิธีสร้างทางออก ให้พวกเรามีโอกาสหลุดออกไป” เสียงของซีเชียนเสวี่ยดังออกมา

ในความเป็นจริงแล้วนางจวนจะไม่ไหวแล้ว

ชุดกระโปรงสีขาวหิมะบนร่างของนางถูกย้อมชโลมไปด้วยสีเลือด บนร่างกายก็มีบาดแผลไม่น้อย ผมเผ้าก็ยุ่งเหยิง เหงื่อเย็นบนหัวหลั่งไหล

พวกเขาไม่เพียงแต่ต้องป้องกันการโจมตีทางร่างกายแต่ยังต้องป้องกันการโจมตีทางจิตวิญญาณอีกด้วย

ถ้าหากว่าเป็นเช่นนี้ต่อไปพวกเขาคงจะต้องตายอยู่ที่นี่เป็นแน่

สร้างทางออกงั้นหรือ?

จีเหยาฮั่วชะงัก จ้องมองไปที่เหล่าตัวประหลาดสีเขียวตัวเล็ก ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เขากัดฟัน สองมือยื่นออกไปคว้าจับคอของตัวประหลาดตัวเล็กสองตัว แล้วก็โยนพวกมันไปด้านหลัง

ตัวประหลาดทั้งสองโดนโยนไปด้านหลังอย่างกะทันหัน ทำให้พวกมันร้องโหยหวนอยู่กลางอากาศ

ชั่วขณะนั้นความเจ็บปวดที่ทิ่มแทงเข้ามาก็เกือบจะทำให้จีเหยาฮั่วสลบไป ดีที่ส่วนหัวของเขาใช้พลังจิตคุ้มกันอยู่ตลอด ถึงทำให้เขาฟื้นคืนสติขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว เขาเคลื่อนไหวเร็วขึ้น ลากดึงตัวประหลาดตัวเล็กเหล่านั้นแล้วก็โยนพวกมันออกไปด้านหลังอย่างต่อเนื่อง การเคลื่อนไหวของเขาดึงดูดความสนใจของตัวประหลาดตัวเล็ก ทำให้มันแบ่งออกมาส่วนนึงเพื่อเข้ามาโจมตีเขา

กระบวนท่าของจีเหยาฮั่ว ทำให้อิ๋งเจ๋อและซีเซียนเสวี่ยลดความกดดันลงไปได้มาก

พวกเขารีบคว้าจับโอกาสพุ่งไปยังทางออกที่จีเหยาฮั่วเปิดให้…

มังกรเพลิงนำทาง มู่ชิงเกอและทวนหลิงหลงเข้าขากันได้ดีมาก ในที่สุดก็สามารถแหวกเส้นทางออกมาได้สาย หนึ่งบนใบหน้าอันงดงามของนางฉายแววยินดี แต่หันกลับไปด้านหลังกลับพบว่าไม่มีเงาคนเลยแม้แต่เงาเดียว

สิ่งนี้ทำให้นางขมวดคิ้วขึ้นจีเหยาฮั่วไปรับได้ครู่หนึ่งแล้ว แต่ว่าไม่เพียงแต่ซีเซียนเสวี่ยกับอึ้งเจ๋อยังไม่ปรากฎตัว ตัวเขาเองก็ยังไม่โผล่ออกมาเช่นเดียวกัน

ในใจของมู่ชิงเกอหนักอึ้งขึ้น ยกมือขึ้นจับทวนหลิงหลงพุ่งไปยังทิศทางที่ทั้งสามคนอยู่อย่างรวดเร็ว

ส่วนเส้นทางที่นางพึ่งจะแหวกออกมาก็ถูกเศษวิญญาณปิดกั้นไว้อีกครั้ง

มู่ชิงเกอเพิ่งจะพุ่งถึงอีกข้างก็รู้สึกได้ถึงว่ามีลมพัดออกมาจากด้านใน จากนั้นก็มองเห็นตัวประหลาดตัวเล็กนับไม่ถ้วนถูกพัดขึ้นไปบนฟ้าพัวพันเข้ากับเศษวิญญาณเหล่านั้น

‘เป็นลมที่จีเหยาฮั่วควบคุม!’ มู่ชิงเกอเข้าใจในทันที เวลานี้เองนางถึงได้มองเห็นพวกจีเหยาฮั่วสามคนพยุงกันออกมา ปรากฎตัวต่อหน้านางอย่างทุลักทุเล

นัยน์ตาของมู่ชิงเกอหดตัวลงรีบเข้าไปถามว่า “พวกเจ้า เป็นอย่างไรบ้าง?”

ทั้งสามคนไม่มีแรงที่จะพูด ทำได้เพียงแต่ส่ายหน้าอย่างอ่อนแรง

บนท้องฟ้า เสียงของตัวประหลาดตัวเล็กดังขึ้นอย่างต่อเนื่องจนส่วนหัวของทั้งสี่คนเกิดความเจ็บปวดไม่หยุด

มู่ชิงเกอเงยหน้าขึ้นไป เห็นตัวประหลาดตัวเล็กเหล่านั้น ถูกเศษวิญญาณพัวพันจนไม่สนใจพวกเขาแล้ว นัยน์ตาของนางดุดันขึ้นพูดกับทั้งสามคนว่า “’ฝืนเอาไว้พวกเราจะใช้โอกาสนี้หนีไป”

พูดแล้วนางก็พยุงซีเซียนเสวี่ยขึ้นมา จีเหยาฮั่วก็พยุงอิ๋งเจ๋อ ทั้งสี่คนรีบพุ่งหนีไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว

ทั้งสี่คนล้วนแต่กัดฟัน พยายามพุ่งตัวออกไปด้านนอก ขณะที่มู่ชิงเกอกำลังเตรียมจะปล่อยพญาเพลิงอัคคีแรกกำเนิดกับทวนหลิงหลงออกไปเปิดทางนั้น ทันใดนั้นก็รู้สึกได้ว่าเศษวิญญาณเหล่านั้นเกิดความหวาดกลัววุ่นวายขึ้นมา

ทั้งสี่คนตกตะลึงเงยหน้าขึ้นไปมอง แล้วก็มองเห็นเศษวิญญาณเหล่านั้นถอยหลังอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ดึงพวกมันกลับไปอย่างรุนแรง ท้องฟัารอบด้านค่อยๆ ชัดเจนขึ้นมา

พวกเขาหันกลับไปมอง พบว่าตัวประหลาดสีเขียวตัวสูงถือถุงอยู่ในมือ ส่วนเหล่าเศษวิญญาณก็ถูกดูดลงไปในนั้น…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version