Skip to content

พลิกปฐพี 427

ตอนที่ 427

เข้าสู่เหวหนอนโบราณ เฝ้ามองกระดิ่ง

เหวหนอนโบราณเป็นรอยแยกระหว่างเผ่าเทพและเผ่ามาร ใต้รอยแยกนั้นเป็นเหมือนโลกอีกโลกหนึ่ง

แตกต่างเพียงแค่ท้องฟ้าเป็นเส้นยาวตามรอยแยกก็เท่านั้น

‘ที่นี่ก็คือเหวหนอนโบราณงั้นหรือ?’ มู่ชิงเกอถอนสายตาที่มองขึ้นไปกลับมาสังเกตรอบด้าน เข้ามาแดนมารตั้งหลายวันในที่สุดนางก็ได้มาถึงที่นี่และก็มีข่าวของซือมั่วแล้ว

“พระชายาในข่าวบอกว่าไม่กี่วันก่อนหน้านี้มีการช่วยชายคนหนึ่งขึ้นมาจากหนองนํ้าใหญ่ภายในเผ่าสาขาเล็กๆ แห่งหนึ่งในเหวหนอนโบราณ” กู่หยายืนอยู่ด้านหลังของมู่ชิงเกอแล้วพูดเสียงเบาออกมา

มู่ชิงเกอพยักหน้าเบาๆ เม้มริมฝีปาก

นี่เป็นข่าวที่ได้กลับมา แต่ชายที่ถูกช่วยเอาไว้จะเป็นซือมั่วหรือไม่นั้นไม่มีใครสามารถแน่ใจได้

“เหตุใดจึงไม่ส่งคนเข้าไปสืบในเผ่า?” มู่ชิงเกอเสนอข้อสงสัยของตนเองออกมา

กู่เย่เอ่ยว่า “พระชายาคงยังไม่รู้ว่าเผ่าฉงภายในเหวหนอนโบราณนั้นแบ่งออกเป็นเผ่าเล็กเผ่าใหญ่มากมาย และทุกๆ เผ่าก็แยกตัวออกจากกัน มีกฎของใครของมัน ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เผ่าอื่นเข้ามารบกวน จึงมีค่ายกลแมลงจัดวางอยู่นอกเผ่าของพวกเขา หากไม่มีคนในเผ่านำทางก็จะเข้าไปไม่ได้”

เป็นเช่นนั้นรึ?

มู่ชิงเกอค่อยๆ ขมวดคิ้วขึ้น นางคิดไม่ออกว่าค่ายกลแมลงคืออะไร แต่คิดว่าคงไม่ใช่ของดีอะไร มิเช่นนั้นหาก อิงตามความสามารถขององครักษ์มารแล้วจะต้องไม่นั่งรอเฉยๆ อย่างแน่นอน เดิมทีพวกเขาคิดจะไปขอพบเพื่อสืบความก่อน แต่ก็รู้ว่าพระชายาเป็นกังวลมาก จึงได้รีบส่งข่าวกลับไปทันที รอจนพระชายามาถึงค่อยไปสืบความ

“เช่นนั้นก็ไปเผ่าแห่งนั้นเลย ขอเข้าพบอย่างเป็นทางการแล้วก็เอ่ยไปตรงๆ ว่าจะมาหาคน” มู่ชิงเกอเอ่ย

นางทิ้งเรื่องราวที่แม่นํ้าเมิ่งหลานให้ชิงเจ๋อจัดการ ส่วนตนเองก็รีบเดินทางมายังเหวหนอนโบราณเพื่อตามหาซือมั่ว ไม่ว่าคนๆ นั้นจะใช่ซือมั่วหรือไม่นางก็จะไม่รออีกต่อไป

“พระชายา พวกเราต้องไปที่จุดรวมพลก่อน” กู่หยาเอ่ยเตือน

กู่เย่ก็รีบพูดว่า “องครักษ์มารสองร้อยนายที่ส่งออกมาตามหาองค์ราชาไปรอพวกเราที่จุดรวมพลหมดแล้ว รอนำทางพวกเราไปยังเผ่าสาขาเล็กๆ นั้น”

มู่ชิงเกอพยักหน้าสงบความร้อนใจลง

นางหลุบตาลงมองกระดิ่งที่เอวแล้วก็คิดในใจว่า ‘หากว่าคนที่ถูกช่วยขึ้นมาเป็นซือมั่วจริงๆ แล้วตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง? ตื่นแล้วหรือยังสลบอยู่? เหตุใดกระดิ่งถึงยังไม่ดังสักที?’

“พระชายา ไปกันเถอะ” กู่หยาเอ่ย

มู่ชิงเกอเก็บความคิดภายในใจ พยักหน้าแล้วตามพวกกู่หยาเดินไปด้านหน้า

ครั้งนี้นอกจากกู่หยาและกู่เย่แล้ว พวกเขาก็ยังนำองครักษ์มารสามร้อยนายมาด้วย รวมกับอีกสองร้อยนายที่ส่งเข้ามาเหวหนอนโบราณก่อนหน้านี้ก็รวมได้ทั้งหมดห้าร้อยคนพอดี

จำนวนเช่นนี้น่าจะเพียงพอต้านรับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจจะเกิดขึ้นในเหวหนอนโบราณได้

ภายในเผ่าสาขาเล็กๆ ลึกเข้าไปในเหวหนอนโบราณ

นอกกระท่อมมีชายรูปร่างหน้าตาหล่อเหล่ากำลังนั่งอยู่บนพื้น บนพื้นปูด้วยเสื่อไม้ไผ่ป้องกันไม่ให้เสื้อผ้าของเขาเปื้อนดิน

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ชุดสีดำของเขาถึงเปื้อนดินไปบ้างก็เห็นได้ไม่ชัด

ในมุมหนึ่งของกระท่อมด้านหลังของเขา มีหญิงสาวเผ่าฉงคนหนึ่งกำลังแอบอยู่หลังหน้าต่าง มือหนึ่งเท้าแก้มลอบมองออกไปนอกรอยแยกช่องหน้าต่าง ลอบ มองแผ่นหลังและความหล่อเหลาของเขา ราวกับว่าได้นั่งอยู่เงียบๆ เช่นนี้ไปทั้งวันก็ดีมากแล้ว

“หลิงหลิง เจ้ากำลังดูอะไร?”

ทันใดนั้นก็มีเสียงแก่ชราดังขึ้นที่ด้านหลังของหญิงสาว ทำให้หญิงสาวที่ชื่อว่าหลิงหลิงตกใจ

นางรีบยืนขึ้นมา ทำไม้ทำมือไม่ถูกจับชายเสื้อของตนเอง ก้มหน้าไม่กล้ามองคนที่มา “ท่านปู่…”

ชายชราถือไม้เท้าในมือ ถึงใบหน้าจะแก่ชราแต่ก็ดูใจดีมาก

เขาเหลือบมองหลิงหลิงแวบหนึ่ง แล้วก็มองผ่านรอยแยกของหน้าต่าง จากนั้นก็ถอนหายใจ ส่ายหน้าเอ่ยว่า “หลิงหลิง ปู่เข้าใจความความคิดของเจ้า แต่…เขาไม่ เหมาะกับเจ้า”

หลิงหลิงก้มหน้าลงขบริมฝีปากอย่างอดสู

ท่าทางที่ดูอดสูของนางทำให้ชายชราถอนหายใจในใจอีกครั้ง เอ่ยโน้มน้าวใจว่า “ไม่ว่าจะเป็นรูปโฉมของเขา หรือว่าท่าทางก็ดูไม่เหมือนคนธรรมดา เขาไม่สามารถอยู่ในเหวหนอนโบราณกับเจ้าได้ส่วนกฎของพวกเราก็ไม่อนุญาตให้เจ้าตามเขาออกไป”

คำพูดของชายชราทำให้นัยน์ตาของหลิงหลิงฉายแววผิดหวัง

นางหันไปมองอย่างไม่ยินยอมแวบหนึ่ง เมื่อได้เห็นเงาร่างของคนที่นางหลงรักแต่แรกพบอีกครั้ง ก็ถอนสายตากลับคืนมาไม่ได้นางถามอย่างดื้อดึงว่า “ท่านปู่ เหตุ ใดข้าถึงไม่อาจตามเขาไปได้?”

“นี่เป็นกฎ!” ชายชรากดไม้เท้าในมือ

“กฎ! กฎ! พวกท่านเอาแต่คอยรักษากฎที่ไม่ชัดเจนอยู่นั่นแหละ!” หลิงหลิงตะโกนเสียงดัง

ดวงตาของนางแดงกํ่า ดูเหมือนได้รับความอดสูอย่างมาก

ชายชรามองนางอย่างสงสารแวบหนึ่งแล้วก็ใช้นํ้าเสียงที่อ่อนลงมาเอ่ยว่า “หลิงหลิง หากรู้ว่าเจ้าจะเป็นเช่นนี้ วันนั้นข้าไม่ควรใจอ่อนทำตามคำขอร้องของเจ้าแล้วช่วยเขาเลย”

สีหน้าของหลิงหลิงซีดขาว เม้มปากไม่พูดจา

ชายชราพูดต่อว่า “สรุปแล้ว เจ้าจดจำคำของข้าเอาไว้ว่า เจ้ากับเขานั้นเป็นไปไม่ได้ เจ้าก็ไม่ต้องคิดมากแล้ว พรุ่งนี้ข้าจะให้คนส่งเขาออกไป”

“ท่านปู่!” หลิงหลิงเงยหน้าขึ้นมา มองปู่ของตนเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ

ชายชรามองมา “มองข้าทำไม? ไม่กี่วันมานี้เขาก็รักษาตัวจนดีพอสมควรแล้ว ถึงแม้เหวหนอนโบราณจะไม่ได้ห้ามให้คนนอกเข้ามา แต่เผ่าฉงจะไม่เกี่ยวข้องไปมาหาสู่กับคนด้านนอก ให้เขาอยู่ที่นี่หลายวันนั้นถือว่ามีเมตตามากแล้ว”

“แต่บาดแผลของเขายังไม่ทันหายดี!” หลิงหลิงรีบพูด

ชายชรารีบพูดดักคอในทันทีว่า “หากให้เขาอยู่ที่นี่ต่อจนบาดแผลของเขาหายดี เกรงว่าหัวใจของเจ้าจะหายไปด้วยน่ะสิ”

หลิงหลิงขบริมฝีปาก นัยน์ตาเต็มไปด้วยม่านหมอก

ชายชราส่ายหน้าอย่างจนปัญญา หันหลังเดินจากไป

หลังจากมองตามชายชราจากไปแล้ว หลิงหลิงก็สูดจมูก แล้วก็หันกลับไปมองนอกหน้าต่างต่อ นางพูดกับตัวเองว่า “ถึงแม้ไม่กี่วันมานี้เจ้าจะไม่พูดกับข้าเลย เอาแต่เย็นชา แต่ข้าก็ทนเห็นเจ้าจากไปไม่ได้ แต่ที่ท่านปู่พูดก็ถูก เจ้าไม่สามารถอยู่ในเหวหนอนโบราณได้นาน เจ้าจะยอมพาข้าไปด้วยหรือไม่?”

คำพูดของนางนั้นซือมั่วไม่ได้ยิน และถึงแม้จะได้ยินก็คงไม่สนใจ

สายตาของเขาในตอนนี้ตกไปอยู่ที่กระดิ่งบนเอวของตนเอง เขาขมวดคิ้ว ภายในนัยน์ตาสีอำพันฉายแววสงสัยแล้วก็ครุ่นคิด

ภายในเหวหนอนโบราณเต็มไปด้วยหมอกควันสีเหลืองอ่อน

ภายในโลกใต้รอยแยกนี้มีภูเขา แม่นํ้า ทุ่งหญ้า ทะเลทรายเช่นเดียวกัน เหวหนอนโบราณใหญ่แค่ไหนนั้น? ปัญหานี้แม้แต่กู่หยาและกู่เย่ก็ตอบไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูด ไปถึงมู่ชิงเกอ

นางมองไปรอบด้านสังเกตบรรยากาศตลอดเส้นทางที่ผ่านมา

“ไม่ใช่ว่าเป็นเมืองของแมลงมิใช่หรือ? เหตุใดเข้ามาตั้งนานแล้วก็ยังไม่เห็นแมลงสักตัว?” ทันใดนั้นมู่ชิงเกอก็ถามขึ้นมา

กู่หยาอธิบายว่า “หากพวกเรามองเห็นแมลงก็หมายความว่าเผชิญหน้ากับคนของเผ่าฉงแล้ว”

“เผ่าฉง” มู่ชิงเกอพึมพำออกมา

“ถึงแม้เผ่าฉงจะไม่ชอบสงคราม แต่ก็ไม่ชอบสุงสิงกับคนนอก และคนนอกที่ว่าก็ไม่ได้เฉพาะเพียงแต่คนที่มาจากภายนอกเท่านั้น แต่รวมไปถึงคนที่อยู่นอกเผ่าสาขาทั้งหมด แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเผ่าเดียวกันก็ตาม” กู่เย่เอ่ย

มู่ชิงเกอเลิกคิ้วขึ้น รู้สึกแปลกใจ

กู่เย่อธิบายต่อว่า “ภายในเผ่าฉงนั้นมีหลายสาขา พวกเขาจัดแบ่งตามชนิดของแมลงที่ควบคุมหรืออาจจะได้รับอิทธิพลจากแมลงเหล่านั้น ทำให้สาขาต่างๆ ของพวกเขาต่างก็ปิดกั้นกันและกัน ตามปกติก็จะอยู่ของใครของมัน แต่หากว่ามีคนจากสาขาอื่นบุกเข้าไปในเขตของพวกเขา ก็จะทำให้เกิดสงครามขึ้น แน่นอนว่ามีบางสาขาที่สนิทกัน และมีบางสาขาที่ปิดกั้นกัน สรุปแล้วความสัมพันธ์ภายในเผ่าฉงนั้นซับซ้อนมาก พวกเราก็ไม่ค่อยเข้าใจ”

“เช่นนั้นหากคนนอกเดินทางอยู่ในเหวหนอนโบราณละจะเป็นอย่างไร?” มู่ชิงเกอเอ่ยถาม

กู่หยาเอ่ยตอบว่า “คนที่มาจากด้านนอก…ความจริงคนของเผ่าฉงก็ล้วนแต่รู้ดีว่าคนที่สามารถเข้ามาในเหวหนอนโบราณได้ก็มีเพียงแค่คนของเผ่าเทพและเผ่ามาร เพราะเหวหนอนโบราณก็คือรอยแยกระหว่างสองเผ่านี้ สำหรับเผ่าเทพและมารแล้วพวกเขาก็รักษาความสัมพันธ์แบบไม่ใกล้ชิดและก็ไม่ยั่วยุ พวกเราเข้ามาใน เหวหนอนโบราณขอเพียงไม่ไปแตะต้องผลประโยชน์ของพวกเขา ไม่เข้าไปในเขตของพวกเขาโดยพลการ พวกเขาก็จะไม่ว่าอะไร”

มู่ชิงเกอค่อยๆ ขมวดคิ้วขึ้น เข้าใจบ้างเล็กน้อย

บางทีอาจจะเป็นเพราะสภาพแวดล้อมและคนในเหวหนอนโบราณนั้นพิเศษถึงได้ทำให้การสืบข่าวเป็นไปได้อย่างยากลำบาก

“พระชายา พวกเรามาถึงแล้ว!” กู่เย่เอ่ยเตือน

เวลานี้เอง มู่ชิงเกอถึงสังเกตเห็นองครักษ์มารสองร้อยนายยืนอยู่เต็มพงหญ้าข้างแม่นํ้า

“ผู้น้อยคำนับพระชายา!”

เมื่อองครักษ์มารสองร้อยนายเห็นมู่ชิงเกอแล้วก็ชันเข่าลงทำความเคารพพร้อมกัน

ท่าทีของพวกเขาลดภาระของมู่ชิงเกอไปได้มาก อย่างน้อยนางก็ไม่จำเป็นจะต้องรับการลองเชิงและก็ไม่จำเป็นต้องแสดงสถานะของตนเอง

“ลุกขึ้นเถอะ ช่วงเวลาที่ผ่านมาลำบากพวกเจ้าแล้ว รอหาองค์ราชาพบแล้วเขาจะต้องตกรางวัลให้พวกเจ้าอย่างแน่นอน” มู่ชิงเกอเอ่ย

“ได้รับใช้องค์ราชาและพระชายาเป็นหน้าที่ของพวกข้าน้อย” องครักษ์มารเอ่ยตอบ

มู่ชิงเกอพยักหน้า เอ่ยกับพวกเขาว่า “ในเมื่อรวมตัวกันแล้ว ก็นำทางเถอะ ไปหาองค์ราชาของพวกเจ้า”

“พะย่ะค่ะ พระชายา”

องครักษ์มารทั้งสองร้อยนายเข้ามาร่วมกลุ่มนำมู่ชิงเกอไปยังเผ่าสาขาที่มีข่าวแจ้งออกมา

สถานที่ที่พวกเขาเลือกนั้นห่างจากเผ่าสาขาเล็กๆ นั้นไม่ไกลมาก

ครู่หนึ่งมู่ชิงเกอก็มองเห็นกลุ่มอาคาร อาคารเหล่านั้นดูเรียบง่ายมาก

เมื่อมาถึงด้านนอกเผ่าก็มองเห็นป้ายหินเขียนว่า ‘คนเป็นห้ามเข้า’

กู่หยาก้าวออกมาตะโกนเข้าไปว่า “ได้ยินว่าเผ่าของท่านได้ช่วยคนเอาไว้คนหนึ่งเมื่อไม่กี่วันก่อน คนๆ นี้อาจจะเป็นเจ้านายของพวกเรา ขอให้ทางเผ่าของท่านให้ความสะดวกแก่พวกเราเพื่อยืนยันด้วย”

เมื่อเสียงของเขาหลุดออกไป มู่ชิงเกอก็ได้ยินเสียงกรอบแกรบบนพื้น

นางก้มลงไปมองก็รู้สึกขนลุกไปชั่วขณะ มีแมลงคลานออกมาจากดินทรายที่อ่อนนุ่มอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งแยกออกเป็นสองสายเปิดเส้นทางเข้าสู่เผ่า

แมลงจำนวนนับไม่ถ้วนแบ่งออกเป็นสองฝั่งเหมือนกับทหารที่กำลังจับจ้องพวกเขา

กู่เย่หันมองมู่ชิงเกอแล้วอธิบายเบาๆ ว่า “คนด้านในยอมให้พวกเราเข้าไป พระชายาจำเอาไว้อย่างหนึ่งว่า ไม่ว่าคนด้านในจะใช่องค์ราชาหรือไม่ ก็ห้ามแตะต้องสิ่งของใดๆ เป็นอันขาด แมลงเหล่านี้สามารถติดตามของได้ทุกอย่าง”

มู่ชิงเกอค่อยๆ พยักหน้า

มู่ชิงเกอพาองครักษ์มารเดินตามเส้นทางนั้นเข้าไปในเผ่า เพิ่งจะก้าวเข้าไปในประตูของเผ่า ก็มีชายชราคนหนึ่งปรากฎอยู่ตรงหน้าของพวกเขา

“ตามข้ามา” ชายชราที่ถือไม้เท้าอยู่พูดกับพวกเขา แล้ว ก็นำทางไปโดยไม่ทักทายใดๆ เลย

มู่ชิงเกอขมวดคิ้วขึ้น ตามชายชราไป…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version