Skip to content

พลิกปฐพี 426

ตอนที่ 426

ในที่สุดก็มีข่าวคราว

“ฟังมันพูดให้จบก่อน”

คำพูดของมู่ชิงเกอทำให้หลิงจิวข่มความไม่พอใจลงไป เวลานี้เองเสียงก็ดังขึ้นต่อว่า “เงื่อนไขที่สอง ก็คือเตรียมคนในเผ่าหนึ่งแสนคนกับพระชายาของพวกเจ้าส่งมาในตอนนี้”

“ต่ำช้าเกินไปแล้ว!”

“พวกมันไม่เห็นพวกเราอยู่ในสายตาเลย!

“เผ่าอี้พวกนี้กล้าลบหลู่พวกเราถึงเพียงนี้!”

หลังจากทางเผ่าอี้พูดจบ ฝั่งทางเผ่ามารก็เหมือนถูกจุดเปลวไฟแห่งโทสะขึ้น

สีหน้าของเจ้าเมืองย่อยทั้งสี่ไม่น่าดูเป็นอย่างมาก คำพูดของอีกฝ่ายเหมือนกับเป็นการดูแคลนพวกเขา

เผ่ามารไม่เคยก้มหัวให้ใครมาก่อน แล้วจะไปขอร้องเผ่าอี้ได้อย่างไร?

ทันใดนั้นมู่ชิงเกอก็หัวเราะขึ้นมา เสียงหัวเราะของนางเบามาก แต่กลับดึงดูดคนทางด้านซ้ายและขวาให้สนใจได้

พวกเขามองนางอย่างแปลกใจ ไม่เข้าใจว่านางหัวเราะทำไม หรือว่าหวาดกลัวจนเสียสติไปแล้ว?

เมื่อมู่ชิงเกอรับรูถึงสายตาแปลกใจของพวกเขาจึงยิ้ม แล้วพูดว่า “ข้าพูดได้เลยว่าเผ่าอี้ได้ช่วยงานพวกเราครั้งใหญ่”

ช่วยงาน?!

พวกเขาชะงักไป รู้สึกมึนงง

มู่ชิงเกอมองไปยังบรรดาทหารมารที่กำลังโมโหแล้วพูดกับพวกเขาว่า “พูดกันว่าหากกระตุ้นให้ทหารมีอารมณ์ร่วมกันได้ก็จะชนะอย่างแน่นอน ไม่ว่าอารมณ์แบบไหนก็ได้ผลหมด การตะโกนเมื่อครู่ได้ทำให้บรรดาทหารโกรธแค้นจนอยากจะกระโดดเข้าไปฆ่าเผ่าอี้แล้ว ภายใต้อารมณ์เช่นนี้ชัยชนะของพวกเราก็ถือว่าได้มาสามส่วนแล้ว พวกเจ้าว่าข้าต้องขอบคุณเผ่าอี้หรือไม่?”

ชิงเจ๋อ หลิงจิว สั่วเซิ่ง เซ่อฉินแล้วก็หยวนฟงมองนางอย่างตกตะลึง

นางเป็นผู้หญิงอย่างไรกันแน่?

ศัตรูพูดอย่างชัดเจนว่าจะจับนาง แต่นางกลับไม่หวาดกลัวหรอร้อนรน ทั้งยังสามารถวิเคราะห์เหตุผลออกมาได้อย่างสุขุม ถือเป็น…เป็น…

พวกเขาไม่อาจหาคำไหนมาอธิบายพระชายาของพวกเขาได้อีก

“พระชายา ต้องการต่อรองกับพวกมันต่อหรือไม่?”

ชิงเจ๋อสงบใจแล้วถามความเห็นมู่ชิงเกอ

มู่ชิงเกอถามว่า “พวกเจ้าเตรียมการเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?”

หยวนฟงตอบในทันทีว่า “ทุกอย่างจัดเตรียมเสร็จตามแผนการของพระชายาแล้วพะย่ะค่ะ”

มู่ชิงเกอยิ้มบางๆ “ในเมื่อเตรียมการเสร็จแล้ว ยังต้องต่อรองอีกทำไม?”

นางกำมือออกไป ปืนไรเฟิลก็มาปรากฎอยู่ในมือของนางอีกครั้ง

นางยืนอยู่บนกำแพง ชูปืนไรเฟิลขึ้นเล็งไปยังมนุษย์นกที่บินวนอยู่กลางท้องฟ้าฝั่งตรงกันข้าม เมื่อเล็งผ่านกล้อง ล็อกเป้าหมายแล้ว นางก็เหนี่ยวไกปืนทันที

ปัง!

เสียงปืนดังขึ้นมาจากฝั่งของเผ่ามาร

ส่วนอีกฝั่ง มนุษย์นกที่บินไปมาอย่างโอหังกลางอากาศ ก็ตกลงจากฟ้าอย่างรวดเร็ว แม้แต่เสียงร้องก็ยังไม่ทันได้เปล่งออกมา ตรงหว่างคิ้วของมันมีรูเลือดเล็กๆ อยู่รูหนึ่ง

เมื่อมนุษย์นกตกลงพื้นก็ทำให้ทางเผ่าอี้เงียบลงไป

ไม่เลว! มนุษย์นกที่ลอยอยู่บนฟ้าก็สามารถฆ่าให้ตายได้!

มู่ชิงเกอยิ้มบางๆ อย่างพอใจ

ครู่หนึ่งเผ่าอี้ถึงได้สติ ตัวประหลาดตัวเล็กที่มู่ชิงเกอคุ้นเคยส่งเสียงร้องแหลมออกมา พุ่งเข้าโจมตี

ตัวประหลาดตัวเล็กนับแสนพุ่งเข้ามา ภาพนี้เหมือนกับมีแม่นํ้าสีเขียวไหลบ่าเข้ามายังแม่นํ้าเมิ่งหลาน

เมื่ออีกฝ่ายขยับ ฝั่งทางเผ่ามารก็ทำตามแผนการที่วางเอาไว้ โต้กลับทันที

อาวุธระยะไกลเริ่มโจมตีไปด้านนอก ส่วนมู่ชิงเกอก็ยืนอยู่ที่เดิม เล็งปืนไรเฟิลในมือยิงไปที่มนุษย์นกที่พุ่งเข้ามาหานาง

ปัง ปัง ปัง!

การยิงธนูเป็นเพียงแค่งานอดิเรกของมู่ชิงเกอ การยิงปืนถึงเป็นหนึ่งในสาขาที่นางเชี่ยวชาญ!

ทุกครั้งที่มู่ชิงเกอเหนี่ยวไก ก็จะมีมนุษย์นกตกลงมาจากท้องฟ้าตัวหนึ่ง หลังจากเสียงปืนดังขึ้นสิบครั้งแล้ว ก็เหลือมนุษย์นกอีกเพียงสองตัว พวกมันบินมาถึงนอกกำแพง อยู่ใกล้กับมู่ชิงเกอมาก

มนุษย์นกทั้งสองดูบ้าคลั่งคว้าจับมู่ชิงเกอ

พวกมันเองก็ส่งพลังโจมตีทางจิตวิญญาณออกมาจากปากเช่นเดียวกัน โจมตีพุ่งเข้าใส่มู่ชิงเกอเหมือนคิดจะขัดขวางไม่ให้นางเหนี่ยวไกปืนต่อ

แต่ในตอนที่พวกมันโจมตีนั้น ภายนอกร่างกายของมู่ชิงเกอก็ปรากฎเกราะสีทองโปร่งแสงขึ้น ทำลายการโจมตีของพวกมัน มนุษย์นกยังไม่ทันได้ตอบโต้ก็เห็น ปลายกระบอกปืนของมู่ชิงเกอเล็งไปยังหนึ่งในพวกมันแล้ว

ความหวาดกลัวโอบล้อมพวกมันในพริบตา

เพียงแค่คิดมนุษย์นกก็เปลี่ยนทิศทาง ละทิ้งความคิดที่จะจับมู่ชิงเกอแล้วบินหนีไป

น่าเสียดายที่มู่ชิงเกอไม่ยอมให้โอกาสพวกมันได้หนี

ปัง ปัง!

เสียงปืนดังขึ้นสองครั้ง มนุษย์นกสองตัวสุดท้ายถูกนางระเบิดหัวตายไป

ซากของมนุษย์นกตกลงจากท้องฟ้าชนเข้ากับกำแพง ไถลลงไปตามกำแพงชนตัวประหลาดสีเขียวที่กำลังปีนกำแพงขึ้นมาจนกลิ้งตกลงไป

นัยน์ตาของมู่ชิงเกอฉายแววดุดัน ถือปืนไรเฟิลก้าวไปข้างหน้าแล้วก็เล็งอีกครั้ง

ครั้งนี้เป้าหมายของนางก็คือตัวประหลาดตัวใหญ่ที่ควบคุมตัวประหลาดตัวเล็กที่หลบอยู่อีกฝั่งแม่นํ้า!

บนผิวแม่นํ้าเมิ่งหลาน ตัวประหลาดครึ่งคนครึ่งสัตว์รูปร่างสูงใหญ่ห้าตัวถือค้อนเดินลุยนํ้าเข้ามาทีละก้าวๆ

เหมือนกับภูเขาที่กำลังเคลื่อนที่มาใกล้กองทัพเผ่ามาร แม่นํ้าเมิ่งหลานท่วมไม่ถึงต้นขาของพวกมันด้วยซํ้า

เจ้าเมืองย่อยทั้งสี่ร่วมกับกู่เย่มองตากันแวบหนึ่ง พยักหน้าแล้วก็แยกกันพุ่งออกไปหนึ่งคนจัดการตัวประหลาดครึ่งคนครึ่งสัตว์หนึ่งตัว

การที่เจ้าเมืองย่อยและองครักษ์ขององค์ราชาเข้าต่อกรกับตัวประหลาดครึ่งคนครึ่งสัตว์เหล่านี้นั้นมู่ชิงเกอมั่นใจมาก

นางยิงปืนอย่างต่อเนื่องเก็บเอาชีวิตของตัวประหลาดผิวสีเขียวตัวใหญ่ ทุกครั้งที่ฆ่าไปหนึ่งตัว ตัวประหลาดตัวเล็กก็จะลดลงไปกลุ่มใหญ่

แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ก็ยังมีตัวประหลาดตัวเล็กเข้ามาในการต่อสู้อย่างต่อเนื่อง

กู่หยานำองครักษ์มารเข้าต่อสู้ข้างกายของมู่ชิงเกอ ทุกการยิงของมู่ชิงเกอสามารถทำให้ตัวประหลาดตัวเล็กลดลงไปกลุ่มใหญ่ แต่ตัวประหลาดตัวเล็กที่หายไปก็ไม่ได้หมายถึงตัวประหลาดตัวเล็กที่อยู่ใกล้นาง

ในตอนที่นางพบว่าตัวประหลาดตัวเล็กที่เข้าใกล้ตนเองไม่ได้ลดน้อยลงนั้น นางถึงคิดได้ว่า ผู้นำทัพเผ่าอี้จะต้องให้ตัวประหลาดตัวใหญ่บางส่วนซ่อนตัวอยู่อย่างแน่นอน ส่วนกลุ่มตัวประหลาดตัวเล็กที่พวกมันควบคุมก็ปีนขึ้น มาบนกำแพงได้แล้ว ทั้งยังเข้าต่อสู้กับทหารมารและใกล้นางเข้ามาเรื่อยๆ

รุมหรือ?

มู่ชิงเกอมองไปแล้วก็ยิ้มเยาะ

ตัวประหลาดตัวเล็กที่โอบล้อมนางเข้ามาอย่างน้อยก็มีจำนวนนับหมื่น

อีกฝ่ายช่างให้เกียรตินางจริงๆ!

เพียงแต่ผู้นำทัพของอีกฝ่ายคิดว่า…หากนางฆ่าตัวประหลาดตัวใหญ่ที่ควบคุมตัวประหลาดตัวเล็กไม่ได้ ก็จะหมดความสามารถงั้นหรือ?

มู่ชิงเกอยิ้มอย่างขบขัน

นางยืนอยู่ที่เดิม ยิงตัวประหลาดตัวใหญ่ที่อยู่ไกลออกไปต่อ ไม่ได้สนใจตัวประหลาดตัวเล็กที่บีบเข้ามาใกล้นางเรื่อยๆ เลย

กู่หยานั้นแข็งแกร่งมาก องครักษ์มารก็แข็งแกร่งมาก แต่ก็ไม่สามารถป้องกันตัวประหลาดตัวเล็กนับหมื่นได้หมด

หลังจากแยกร่างตัวประหลาดตัวเล็กตัวหนึ่งไปแล้ว กู่หยาก็ตะโกนไปยังมู่ชิงเกอ “พระชายาถอยก่อนเถอะ!”

แต่มู่ชิงเกอก็ทำเหมือนกับไม่ได้ยิน ทำภารกิจของนางต่อ

กู่หยาร้อนใจมาก นำองครักษ์มารคิดจะเข้าไปคุ้มครองมู่ชิงเกอ แต่ตัวประหลาดตัวเล็กที่ปีนขึ้นมาใหม่ก็พัวพันพวกเขาเอาไว้อย่างเหนียวแน่น ไม่ยอมให้พวกเขาเข้าใกล้มู่ชิงเกอ

ในตอนที่กู่หยามองเห็นเงาร่างของมู่ชิงเกอถูกปกคลุมไปด้วยตัวประหลาดตัวเล็กจนมิดนั้น เขาแค้นจนแทบอยากจะระเบิดร่างเพื่อช่วยนาง

ทันใดนั้นก็มีเสียงที่ฟังดูเก่าแก่ดังออกมา

“อง!”

ตัวประหลาดตัวเล็กนับหมื่นที่โอบล้อมรอบตัวของมู่ชิงเกอชะงักไปหลังจากที่ได้ยินเสียงแรก และฉากที่เกิดขึ้นหลังจากเสียงที่สองดังออกมาก็ทำให้ทหารมาร กู่หยา และองครักษ์มาร รวมถึงผู้นำทัพเผ่าอี้ตกตะลึง ตัวประหลาดตัวเล็กนับหมื่นแตกสลายกลายเป็นของเหลวสีเขียวหยดลงพื้นในพริบตาต่อหน้าทุกคน

ข้างกายของมู่ชิงเกอเกิดช่องว่างขึ้นในพริบตา

นางยิ้มอย่างบ้าคลั่งมองไปยังเผ่าอี้ฝั่งตรงกันข้าม

“พระชายา!” กู่หยาได้สติขึ้นมาแล้วก็รีบนำองครักษ์มารเข้าโอบล้อมนาง

เวลานี้เองตัวประหลาดตัวเล็กที่แยกกันบุกโจมตีก็เหมือนได้รับคำสั่งใหม่ ทั้งหมดละทิ้งคู่ต่อสู้ของตนเอง แล้วพุ่งเข้าไปหามู่ชิงเกอ

ตัวประหลาดตัวเล็กทั้งหมดบนกำแพงพุ่งเข้าไปหามู่ชิงเกออย่างรวดเร็ว

ฉากนี้ทำให้ใจกลางมือของกู่หยาและองครักษ์มารมีเหงื่อเย็นซึมออกมา

ตัวประหลาดตัวเล็กนับหมื่นอ้าปากส่งเสียงร้องแหลม พุ่งเข้ามาหามู่ชิงเกออย่างน่ากลัว

“อง!

สองเสียงโบราณถูกส่งออกไปอีกครั้ง ทำให้ตัวประหลาดตัวเล็กนับหมื่นสลายกลายเป็นของเหลวสีเขียวหยดลงบนพื้น

บนกำแพงไม่มีเงาร่างของตัวประหลาดตัวเล็กอีกเลย

แต่ด้านล่างกำแพงยังคงมีตัวประหลาดตัวเล็กจำนวนนับไม่ถ้วนปีนขึ้นมา

“พระชายา ไม่เป็นไรใช่ไหม!” กู่หยาถามมู่ชิงเกอเมื่อพบว่าสีหน้าของนางซีดขาวและหน้าผากก็มีเหงื่อเย็นซึม

มู่ชิงเกอเม้มปากส่ายหน้า

นางเพียงแต่ใช้พลังวิญญาณมากเกินไปก็เท่านั้น แต่หากต้องใช้อีกครั้งนางต้องสลบอย่างแน่นอน

“เวลาถือว่าพอสมควรแล้ว” มู่ชิงเกอมองสีท้องฟ้าที่มืดลงแล้วก็พูดกับกู่หยาเบาๆ

ตัวประหลาดตัวเล็กเหล่านี้ฆ่ามากไปก็ไม่มีประโยชน์ ที่ต่อสู้ด้วยก็เพื่อถ่วงเวลาให้ฟ้ามืด

ตอนนี้พวกเขาเพียงแต่ต้องทำให้ผู้นำทัพฝั่งตรงข้ามคิดว่าพวกเขาแพ้แล้ว!

กู่หยาลอบพยักหน้านำองครักษ์มารพามู่ชิงเกอถอยลงจากกำแพง ทหารมารคนอื่นๆ ก็ทยอยล่าถอย ดูเหมือนคิดจะทิ้งกำแพงหนีไป เมื่อเจ้าเมืองย่อยทั้งสี่และกู่เย่ที่กำลังต่อสู้กับตัวประหลาดครึ่งคนครึ่งสัตว์อยู่สัมผัสได้ถึงความเคลื่อนไหวบนกำแพง ก็ออกกระบวนท่าเดียวทำลายตัวประหลาดครึ่งคนครึ่งสัตว์ที่พวกเขากำลังต่อสู้ด้วยทันที

เมื่อลงมือแล้วพวกเขาทั้งห้าก็รีบถอยไปยังกำแพงอย่างรวดเร็ว หายไปจากตรงหน้าของเผ่าอี้ในพริบตา เผ่ามารถอยทัพอย่างกะทันหันทำให้เผ่าอี้หยุดชะงักลง

ที่พวกมันต้องการคือคนเผ่ามารไม่ใช่เมืองร้าง

พวกตัวประหลาดตัวเล็กเปลี่ยนเป็นเงียบลงมา ปีนขึ้นไปบนกำแพงแล้วทำการค้นหา แต่กลับไม่พบเงาร่างของคนเผ่ามารแม้แต่คนเดียว พบเพียงแต่หุ่นขนาด ใหญ่สี่ตัว

หุ่นเหล่านี้ดูเหมือนรูปปั้นในเผ่ามาร ยืนนิ่งอยู่ภายในกำแพง

พวกตัวประหลาดตัวเล็กโอบล้อมรูปปั้นและสูดดมกลิ่น กลิ่นของเผ่ามารเข้มชันมาก เป็นกลิ่นที่พวกมันชอบ พวกมันรีบส่งข่าวกลับไปอย่างรวดเร็วและก็ได้รับคำสั่งใหม่ทันที

รูปปั้นขนาดใหญ่ทั้งสี่ถูกพวกตัวประหลาดตัวเล็กแบกกลับไปยังกองทัพเผ่าอี้อีกฝั่งของแม่นํ้าเมิ่งหลาน

พวกมันต้องเอารูปปั้นทั้งสี่ไปมอบให้ผู้นำทัพของพวกมัน เพื่อที่จะตัดสินว่าสิ่งนี้คืออะไรกันแน่

หลังจากพวกมันจากไปแล้ว มู่ชิงเกอก็นำทหารมารที่ซ่อนตัวอยู่ อาศัยความมืดและความหนาของหมอกใช้ช่องทางลับลอบไปอีกฝั่งของแม่นํ้า

ทางลับเส้นนี้สร้างขึ้นมาเพื่อสายลับ

มาตอนนี้ใช้เป็นทางสำหรับกองทัพใหญ่

ในกองทัพไม่มีเงาร่างของเจ้าเมืองย่อยทั้งสี่

รูปปั้นขนาดใหญ่ทั้งสี่ถูกส่งเข้าไปในกระโจมของผู้นำทัพเผ่าอี้

ผู้นำทัพเผ่าอี้มองรูปปั้นขนาดใหญ่ทั้งสี่อย่างแปลกใจ ผิวของเขาซีดขาวไม่มีสีเลือด ดวงตาแดงฉานดูดุร้ายมาก สองหูแหลมแตกต่างจากคนธรรมดา แต่อย่างน้อยเขาก็ดูดีที่สุดหากเทียบกับบรรดาลูกน้องของเขา

ภายในกระโจม นอกจากเขาแล้วก็ยังมีตัวประหลาดตัวใหญ่ยืนอยู่เต็มไปหมด พวกมันก็มองรูปปั้นทั้งสี่อย่างสงสัยเช่นกัน

ทันใดนั้นรูปปั้นทั้งสี่ก็แตกออก ทหารมารจำนวนมากกระโดดออกมาจากรูปปั้น

ภายในรูปปั้นแต่ละตัวมีคนกระโดดออกมาร้อยคน และทุกๆ ร้อยคนก็มีเจ้าเมืองย่อยเป็นผู้นำ พวกเขาปรากฎตัวอยู่ในกระโจมหลักของเผ่าอี้อย่างกะทันหัน

เจ้าเมืองย่อยทั้งสี่ยิ้มอย่างเย็นชา ไม่ได้ชักช้าพุ่งเข้าไปโจมตีผู้นำทัพเผ่าอี้ที่กำลังตะลึงอยู่อย่างรวดเร็ว

ส่วนทหารมารที่พวกเขานำมาด้วยทั้งสี่ร้อยคนก็แยกกันโจมตีตัวประหลาดตัวใหญ่ที่ไม่มีความสามารถในการต่อต้านเหล่านั้น

จำนวนของตัวประหลาดตัวเล็กภายในกองทัพเผ่าอี้ลดน้อยลงอย่างรวดเร็ว

ในตอนที่พวกมู่ชิงเกอมาถึงนั้นก็พบว่าการต่อสู้ได้สิ้นสุดลงแล้ว…

ตอนที่หลิงจิวหิ้วหัวของผู้นำทัพเผ่าอี้มาถึงตรงหน้าของมู่ชิงเกอนั้น ฟ้าก็เริ่มจะสว่างขึ้นมาแล้ว

ถึงแม้จะต่อสู้มาทั้งคืน แต่หลิงจิวก็ดูสดชื่นมาก เขามองมู่ชิงเกออย่างซาบซึ้ง แล้วพูดออกมาจากใจว่า “พระชายา ศึกครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่น! เผ่าอี้ไม่เคยถูกพวก เราทำลายไปจนสิ้นซากเช่นนี้มาก่อน!”

มู่ชิงเกอยิ้มบางๆ ดูสูงส่ง

เรื่องของแม่นํ้าเมิ่งหลานได้ถูกจัดการลงแล้ว สถานะของนางก็ได้เข้าไปอยู่ในใจของทหารมารแล้ว ต่อไปก็ถึงเวลาออกตามหาซือมั่ว!

“พระชายา!” ทันใดนั้นกู่หยาก็วิ่งเข้ามาหามู่ชิงเกอ อย่างตื่นเต้น เมื่อมู่ชิงเกอหันมา เขาก็พูดอย่างตื่นเต้นว่า “มีข่าวขององค์ราชาแล้ว!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version