ตอนที่ 649
อยู่ที่นั่นจริงๆ
กลิ่นอายรุนแรงสายหนึ่งพุ่งมาจากที่ไกลออกไปด้วยความเร็วสูง
ตาตำมู่ชิงเกอหดลง เบี่ยงตัวหลบเข้าไปในช่องว่างโดยไม่ลังเล พอนางหายไปร่างของราชาเทวะอู๋หวาก็มาปรากฎอยู่ที่พื้นหญ้า
เบื้องหลังเขายังมีทหารยามเขาวงกตที่ตามติดมาด้วย
ดูผ่านกระจกส่องเทพ มู่ชิงเกอเห็นสีหน้าราชาเทวะอู๋หวาเครียดมาก
เขาไม่ได้ไปหาผู้บุกรุกแต่ตรงมาที่นี่ก่อน เห็นได้ว่าที่นี่สำคัญต่อเขามาก
แต่ในศาลอีเยี่ย นอกจากศพหญิงสาวเผ่าอสูร เพียงหนึ่งศพแล้วก็ไม่มีของอย่างอื่นอีก ทำไมราชาเทวะอู๋หวาจึงต้องกังวลนัก
‘หรือว่า…ที่เขากังวลก็คือศพของผู้หญิงคนนั้น’ มู่ชิงเกอคาดเดาในใจ
ศพของผู้หญิงคนนั้นเหมือนชูเนี่ยนราวกับแกะ ราชาเทวะก็ยังกังวลถึงเพียงนั้นด้วย
เช่นนี้แล้ว…
คำตอบหนึ่งผุดขึ้นในสมองมู่ชิงเกอ
แน่นอน นี่เป็นเรื่องภายในครอบครัวราชาเทวะอู๋หวา นางไม่ได้สนใจใคร่รู้มากนัก
“พวกเจ้าเฝ้าอยู่ที่นี่ หากมีคนบุกรุกเข้ามา สังหารทันที” ราชาเทวะอู๋หวาสั่งด้วยนํ้าเสียงเย็นเฉียบ
“รับทราบ”
เสียงสิบทหารยามเขาวงกตยังไม่ทันจางหาย ราชาเทวะอู๋หวาก็เคลื่อนย้ายตัวเข้าไปในศาลาอีเยี่ยที่ใจกลางบึงแล้ว
มู่ชิงเกออยู่ในช่องว่าง มือถือกระจกส่องเทพ ค่อยๆ ขยับไป และเห็นเหตุการณ์ภายนอกทั้งหมด มู่เทียนอินถูกเปิดเผยตัวแล้ว เมื่อราชาเทวะอู๋หวาได้สติกลับมาจะต้องตรวจสอบอย่างเข้มงวดแน่ นางจะต้องกลับไปยังตำหนักข้างทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกสงสัย
ขณะที่มู่ชิงเกอนึกถึงหน้าตามู่เทียนอิน กระจกส่องเทพก็ปรากฎเหตุการณ์ของมู่เทียนอินในเวลานั้นออกมาทันที
เขาราวกับตกหลุมพรางอยู่ในอาคม ถูกทหารยามพบตัวเข้าและเกิดการต่อสู้อย่างรุนแรงขึ้น
แต่ลูกเล่นของมู่เทียนอินเองก็แพรวพราว ดูอยู่สักพัก มู่ชิงเกอก็เดาได้ว่าทหารยามในเขาวงกตสกัดเขาไม่อยู่แน่
‘ราชาเทวะอู๋หวาเข้าไปในศาลาอีเยี่ยแล้ว ประตูใหญ่เปิดกว้าง ข้าไม่รีบไปเวลานี้ยังจะรออะไรอีก’ มู่ชิงเกอคิด
นางรีบออกจากช่องว่างพุ่งไปยังประตูทางออก หายไปตรงหน้าทหารยามเขาวงกต
“มีลมอะไรพัดผ่านไปน่ะ”
“ไม่มีนี่ คิดไปเองกระมัง”
ทหารยามเขาวงกตคุยอย่างงุนงง แต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไร
มู่ชิงเกอว่องไวมาก สิ่งที่นางใช้ไม่ใช่ความเร็วของลม เนื่องจากนางไม่มีรากวิญญาณลม แต่นางมีรากวิญญาณช่องว่าง ดังนั้นการเคลื่อนย้ายเมื่อครู่นี้ นางใช้ การกระโดดจากช่องว่างร่างกายจึงว่องไวและสามารถหายไปต่อหน้าทหารยามเหล่านี้ได้
เขาวงกตเข้าได้ยาก แต่ออกได้ง่าย
อีกทั้ง มีมู่เทียมอินใจดีช่วยนางดึงดูดความสนใจของทหารยามเขาวงกต มู่ชิงเกอจึงพูดได้ว่าออกจากเขาวงกตมาได้อย่างสบาย นางรีบวิ่งตรงไปยังที่พักตำหนัก ข้างของตนเองทันที
ขณะที่นางจากไป มู่เทียนอินก็ถูกบีบให้ใช้วิธีหลบหนีชนิดพิเศษหายออกจากเขาวงกตไปปรากฎตัวอยู่ตรงหน้ามู่หลินกับมู่ซานที่คอยรับมืออยู่ด้านนอก
สองคนนี้กำลังต้านคนวังอู๋หวาที่เข้ามาทางด้านนี้ไว้
พอมู่เทียนอินปรากฎตัว ทั้งคู่ต่างก็ดีใจเข้ามาล้อมเขาเอาไว้
พอดีกับชูเนี่ยนที่นำคนไล่มาทางด้านนี้ มู่เทียนอินไม่อยากเผชิญหน้านางจึงบอกทั้งคู่ว่า “ไป”
ตามด้วยหยิบสิ่งรักษาชีพที่ผู้เฝ้ามองให้เขาไว้ โยนไปที่ใต้เท้าทั้งสามคนพริบตาเดียวของสิ่งนั้นก็เปล่งแสงทองออกมาห่อหุ้มทั้งสามคนเอาไว้แล้วหายไปต่อหน้าพวกชูเนี่ยน
ชูเนี่ยนพาคนไล่มาถึงที่นี่ แต่คว้าน้ำเหลว
สามคนที่เห็นแวบๆ มีคนหนึ่งที่นางรู้สึกว่าหน้าคุ้นๆ แต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
พอพวกเขาหนีไปได้ชูเนี่ยนก็มีสีหน้าเคร่งเครียด สั่งว่า “ตาม”
พอนางสั่ง ลูกศิษย์ดินแดนอู๋หวาด้านหลังนางก็แบ่งกำลังออกมาส่วนหนึ่งตามไปยังทางลงเขา
ขณะที่พวกเขาเพิ่งจากไป ราชาเทวะอู๋หวาก็มาปรากฎกายตรงหน้าชูเนี่ยน
“ท่านพ่อ” ชูเนี่ยนเดินขึ้นไป
ราชาเทวะอู๋หวามีสีหน้าเรียบเฉยแต่แววตาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว เขาสั่งชูเนี่ยนว่า “ปิดทางเข้าออกทั้งหมดทันที ตรวจค้นทั้งวังอู๋หวา ไม่ว่าที่ใดก็ยกเว้น ไม่ได้”
“เจ้าค่ะ ท่านพ่อ” รับรู้ถึงความโกรธของบิดา ชูเนี่ยนรีบขานรับและพาคนหันกายจากไปทันที
ราชาเทวะอู๋หวายืนอยู่ที่เดิม เอ่ยเสียงเหี้ยมโหดว่า “ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร กล้ามาท้าทายข้า ข้าจะตามหาเจ้าให้เจอแล้วบี้ให้ตายเสีย”
เดิมทีมาเพื่ออวยพรวันเกิดราชาเทวะอู๋หวา แต่จู่ๆ บรรยากาศทั้งวังอู๋หวาก็กลับกลายเป็นตึงเครียด คนไม่น้อยต่างสร่างเมาไปตามๆ กัน
งานเลี้ยงยังไม่ทันเลิก ลูกศิษย์วังอู๋หวาก็เข้ามาล้อมคนเหล่านี้ไว้แล้วตรวจค้นป้ายแสดงฐานะของทุกคนอย่างละเอียดเพื่อดูว่ามีใครที่ไม่อยู่บ้าง
คนที่ออกไปก่อนก็มีลูกศิษย์ตำหนักหน้านำคนออกไปตรวจดูว่ายังอยู่หรือไม่
ที่พักของมู่ชิงเกอองค์หญิงชูเนี่ยนเสนอตัวนำคนไปเอง
นางไม่ได้นำคนไปมาก มีเพียงสาวใช้ของตนเองสองคนกับลูกศิษย์ดินแดนอู๋หวาอีกสี่ห้าคนไปปรากฎตัวอยู่ที่หน้าประตูตำหนักของมู่ชิงเกอ
นางลังเลเล็กน้อยแล้วเดินไปข้างหน้า
“พวกเจ้ารออยู่ที่นี่” ชูเนี่ยนสั่งคนข้างหลัง
พอมาถึงประตู หยินเฉินก็ปรากฎตัวขึ้นมากะทันหันจนนางสะดุ้งตกใจ
“องค์หญิงชูเนี่ยน มาแต่เช้า มีเรื่องสำคัญหรือ” หยินเฉินถาม
ชูเนี่ยนเก็บอารมณ์พลางพยักหน้า “ตอนฟ้าสาง วังอู๋หวาเกิดเรื่องนิดหน่อย มีผู้บุกรุก ข้าเกรงว่าจะกระทบกับการพักผ่อนของชิงเกอจึงมาดู”
“อ๋อ ที่นี่สงบเงียบอย่างยิ่ง ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น นายข้ายังเมาไม่ตื่น คงไม่สะดวก องค์หญิงเชิญกลับไปก่อนเถอะ” หยินเฉินพูดเนิบช้า
ชูเนี่ยนยิ้มบางๆไม่ได้จากไปกลับเดินหน้าขึ้นไปกล่าวกับหยินเฉินว่า “ข้าต้องเห็นกับตาจึงจะวางใจ”
การยืนยันของนางทำให้หยินเฉินขมวดคิ้ว แววตาสีเลือดผุดความขุ่นเคืองใจออกมา
ขณะที่ทั้งสองคนต่างคุมเชิงกัน เสียงเกียจคร้านเจือไปความเมามายก็ดังขึ้นที่ด้านหลังหยินเฉิน “มีเรื่องอะไรหรือ”
หยินเฉินได้ยินแล้วก็หันหลังกลับไป ชูเนี่ยนมองไปก็เห็นสีแดงบาดตาปรากฎอยู่ด้านหลังของเขา
เส้นผมของมู่ชิงเกอเรียบกริบ เสื้อคลุมกว้างคลุมอยู่บนร่าง แววตายังดูงัวเงีย สีหน้าดูรำคาญที่ถูกปลุกให้ตื่น
ชูเนี่ยนตะลึงไป
มู่ชิงเกอก่อนหน้านั้นให้ความรู้สึกสง่าผ่าเผย แต่เมื่อเทียบกับท่าทีเกียจคร้านเอาแต่ใจในเวลานี้แล้วชวนให้คนรู้สึกเหมือนความชั่วร้ายที่ถูกปลดปล่อยออกมา สักพักนางจึงได้สติแล้วเดินเข้าไปหามู่ชิงเกอและหยุดลงตรงหน้าเขาสามฉื่อ “เมื่อคืนมีคนบุกรุกวังราชาเทวะ ท่านพ่อโกรธหนัก ข้ารับภารกิจมาจึงต้องมารบกวน เวลานี้ไม่มีอะไรแล้ว เจ้าพักผ่อนเถอะ แต่ก็ต้องคอยสังเกตว่ามีใครลักลอบเข้ามาหรือไม่ ท่านพ่อได้สั่งให้ปิดวังอู๋หวากระทั่งเมืองอู๋หวาด้วย ช่วงหลายวันนี้เจ้าอยู่ที่นี่ก่อนอย่าได้ไปไหนตามใจจะได้ไม่ถูกเข้าใจผิด”
“มีคนบุกรุกวังราชาเทวะหรือ” มู่ชิงเกอตะลึง ความงัวเงียหายไปจนหมด
ใบหน้าตื่นตกใจของนางนั้นไม่เหมือนเสแสร้งเลยสักนิด ยิ่งทำให้คนเชื่อว่านางบริสุทธิ์
“อืม แต่เป็นเพียงเรื่องเล็ก ไม่นานก็คลี่คลายลงแล้ว” ชูเนี่ยนปลอบ
มู่ชิงเกอผงกศีรษะนิดๆ บอกนางว่า “ดี ข้ารู้แล้ว ก่อนเรื่องนี้จบลงข้าจะอยู่ที่นี่ต่อก่อนหากมีอะไรจะให้ข้าช่วย ก็มาหาข้าได้เลย”
ชูเนี่ยนยิ้มให้เขานิดๆ ผงกศีรษะ ขณะหมุนตัวก็เอ่ยเบาๆ ว่า “เจ้าพักผ่อนเถอะ ข้ามาที่นี่แล้วจะไม่มีใครมารบกวนเจ้าพักผ่อนอีก”
พูดจบ นางก็พาคนจากไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากนางไปแล้ว นัยน์ตามู่ชิงเกอก็สงบนิ่งลง แววตาใสกระจ่างคู่นั้นมองไม่เห็นคลื่นลมใดๆ
“ดีที่เจ้ากลับมาทัน” หยินเฉินที่ยืนอยู่ข้างกายมู่ชิงเกอพูดเบาๆ
มู่ชิงเกอผงกศีรษะนิดๆ บอกเขาว่า “น่าเสียดาย ศาลาอีเยี่ยไม่มีของที่พวกเราตามหา”
“ไม่มีหรือ” หยินเฉินประหลาดใจ คิ้วขมวดขึ้นมา มู่ชิงเกอผงกศีรษะช้าๆ แววตาค่อนข้างหนักใจ
“เช่นนั้นแล้วจะหาที่ไหนต่อ เกิดเรื่องวันนี้แล้ว วังอู๋หวาคงต้องเข้มงวดขึ้นอีกมาก พวกเราคงทำอะไรยากขึ้นไปอีก” หยินเฉินว่า
เขาเข้าใจว่า มู่ชิงเกอถูกตรวจพบขณะอยู่ในเขาวงกต
“ไม่ ไม่จำเป็น” มู่ชิงเกอสั่นศีรษะช้าๆ เดินเข้าไปด้านในตำหนัก
หยินเฉินก็ตามไปติดๆ สายตามีแววสงสัย
“ให้พวกเขาค่อยๆ ตรวจค้นไปเรื่อยๆ พวกเราจึงจะอยู่ต่อได้จะได้มีโอกาสหาต่อ” มู่ชิงเกอพูด หากราชาเทวะอู๋หวาขับไล่คนทั้งหมดออกจากวังอู๋หวาต่างหากจึงจะเป็นความเสียหายที่แท้จริง
“หากพวกเขาหาคนไม่พบ…
“ที่พวกเขาหาไม่ใช่ข้า” มู่ชิงเกอตัดบทหยินเฉิน
‘ไม่ใช่เจ้าหรือ’ หยินเฉินขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
มู่ชิงเกอพยักหน้า “พวกเขาตามหามู่เทียนอิน เมื่อคืนข้าพบมู่เทียนอินในเขาวงกต เขาเองก็คิดหาโอกาสเข้าไปในศาลาอีเยี่ยเพื่อหาเคล็ดวิชาเทวะส่วนล่างเช่นกัน เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าข้าปลอมตัว ไม่รู้ว่าเป็นข้า ต่อมาขณะที่ข้าเข้าไปในศาลาอีเยี่ย เขาก็ยังคงวนอยู่ในเขาวงกต และน่าจะไปโดนอาคมหรือถูกทหารยามพบเข้าจึงเกิดเหตุวุ่นวายขึ้น”
“นั่นก็อันตรายมากอยู่ดี” หยินเฉินพูดด้วยความเป็นห่วง “หากเขาถูกจับได้หรือบอกคนเผ่าเทพว่าเจ้าเป็นเชื้อสายตระกูลมู่เพื่อไม่ให้ถูกจับ จะทำอย่างไรดี”
“เขาไม่ทำหรอก” มู่ชิงเกอตอบชัดถ้อยชัดคำ
“ทำไมหรือ” หยินเฉินถาม
“เพราะว่า เมื่อข้าถูกเปิดโปง เขาก็ต้องถูกเปิดโปงด้วย เมื่อเทียบกับเขาที่เป็นนายน้อยตระภูลมู่แล้ว ข้าเป็นเพียงสายเลือดตระกูลมู่ที่บินขึ้นมาจากโลกข้างล่าง ไม่คู่ ควรเลยแม้แต่น้อย นายน้อยตระกูลมู่นั้นเผ่าเทพต้องสังหารแน่นอน แต่สายเลือดที่มีพรสวรรค์ทั้งไม่มีความผูกพันกับตระกูลมู่กลับสมควรต้องสร้างสัมพันธ์เอาไว้” มู่ชิงเกอแค่นยิ้มเอ่ย
วันนั้นวังอู๋หวาทั้งหมดต่างมีการระวังป้องกันอย่างเคร่งครัด ทุกคนที่มาอวยพรวันเกิดล้วนถูกดูแลอย่างกวดขัน
ทางด้านมู่ชิงเกอกลับเงียบสงบมาก เป็นเช่นที่ชูเนี่ยนว่าไว้หลังจากนางมาแล้วก็ไม่มีใครมาอีก มู่ชิงเกอเองวันนี้ก็ไม่ได้ออกไปไหนอยู่ในตำหนักข้างแต่โดยดี สองผู้รับใช้ในตำหนักปัดกวาดไปพลางก็มองเข้าไปในห้องพลางเห็นมู่ชิงเกอนั่งขัดสมาธิราวกับบำเพ็ญอยู่ ไม่มีอะไรผิดสังเกต ความจริงปัญญาเทวะของมู่ชิงเกอมุ่งหน้าออกไปยังวังราชาเทวะนานแล้ว แต่ก่อนนี้นางเคยคาดคะเนว่า หากเคล็ดวิชาเทวะส่วนล่างไม่ได้อยู่ที่ศาลาอีเยี่ย ก็เป็นไปได้ว่าจะอยู่ที่ตัวราชาเทวะอู๋หวา ศาลาอีเยี่ยนั้นนางได้พิสูจน์แล้วว่าไม่มี เวลานี้จึงเหลืออีกเพียงที่เดียวเท่านั้น