ตอนที่ 750
แต่งงาน หรือตาย!
นอกป่าหวูถงบรรยากาศตึงเครียด
ชูเนี่ยนอิงแอบอยู่ที่ไหล่มู่ชิงเกอ คิดจะผ่อนคลายความตื่นตกใจ แต่การกระทำนี้กลับทำให้ราชาเฟิ่งเข้าใจผิด นำพาให้เหล่าทหารนกหลวนเตรียมโรมรัน
มู่ชิงเกอคิ้วขมวดนิดๆ ยังไม่ทันรอให้นางมีปฏิกิริยาตอบสนอง ชูเนี่ยนที่อิงแอบอยู่ที่ไหล่นางก็ก้าวเท้าออกมาขวางอยู่ด้านหน้าของมู่ชิงเกอกับหยินเฉิน
นางพูดกับราชาเฟิ่งอย่างโกรธกริ้ว “ท่านจะทำอะไร!
“ลูกรัก มนุษย์คนนี้ล่วงเกินเจ้า!” ราชาเฟิ่งชะงัก รีบอธิบายให้ชูเนี่ยนฟังทันที
“เขาเป็นเพื่อนข้า ร่วมเดินทางมาที่นี่กับข้า หากท่านคิดจะฆ่าเขาก็ฆ่าข้าไปพร้อมกันด้วยเลย” จิตใจชูเนี่ยนเวลานี้ยุ่งเหยิงมากจึงระบายอารมณ์ใส่ราชาเฟิ่งอย่างรุนแรง
ราชาเฟิ่งตกตะลึงรีบบอกว่า “ไม่! อย่าโมโหนะ ลูกรัก”
พูดจบเขาโบกมือ เหล่าทหารนกหลวนก็ถอยกลับไปอยู่ข้างหลังเขาทันที
บรรยากาศผ่อนคลายลง ใบหน้าชูเนี่ยนเผยอารมณ์แปรปรวน แววตาที่มองราชาเฟิ่งมีความรู้สึกที่บอกไม่ถูก
เวลานี้นางไม่รู้ว่าควรจะเชื่อใคร!
เชื่อราชาเทวะอู๋หวาที่เลี้ยงดูนางมาแล้วหลายพันปี รักทะนุถนอมนางมาแล้วหลายพันปี หรือเชื่อผู้ชายตรงหน้าที่เรียกนางว่าลูก ยืนยันว่านางเป็นสายเลือดของเขาดี
ชูเนี่ยนไม่โง่ นางยินยอมตามเสียงเรียกในหัวใจมาถึงที่นี่ก็เพราะนางมีความรู้สึกคุ้นเคยอย่างที่บอกไม่ถูก สามารถทำให้เลือดเนื้อในร่างกายนางเกิดความรู้สึกตามไปด้วย นางจึงได้มา
แต่…
แววตาชูเนี่ยนผุดความรู้สึกเจ็บปวด จิตใจตกอยู่ในสภาพทุกข์ทรมานแสนสาหัส
“ชูเนี่ยน” มู่ชิงเกอมองนางแล้วขมวดคิ้วเรียก
ความเป็นมาของชูเนี่ยน ถึงแม้จะต้องเปิดเผยสักวันหนึ่ง แต่ราชาเฟิ่งคนนี้ก็ใจร้อนจนเกินไป ไม่ได้ให้ชูเนี่ยนมีการเตรียมตัวเตรียมใจแม้เพียงนิดเดียวก็
บอกความจริงแก่นางแล้ว
ไม่ว่าราชาเฟิ่งจะมีนิสัยใจคอเช่นไร แต่สำหรับเรื่องชูเนี่ยนแล้ว นับว่ามีความจริงใจยิ่งนัก
เขาปฏิบัติต่อชูเนี่ยนเช่นบุตรสาวตัวเองจริงๆ
“ชิงเกอ ข้าอยากไป” ชูเนี่ยนมองมู่ชิงเกอแล้วขอร้องเขา
“ไม่! ลูกรัก เจ้าไปไม่ได้! เจ้าจะต้องนิพพานแล้วตื่นขึ้น หากนิพพานอยู่ภายนอกมีอันตรายมากเกินไป ต้องอยู่ที่นี่เท่านั้นจึงจะไม่มีใครทำร้ายเจ้าได้” ราชาเฟิ่งรีบบอกทันที
ชูเนี่ยนกับมู่ชิงเกอมองไปที่เขา มู่ชิงเกอพูดว่า “ข้าเคยได้ยินมาว่าเผ่าเฟิ่งหวงเวลานิพพานเป็นช่วงเวลาที่อ่อนแอที่สุด มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ง่ายมากที่จะโดนผู้คิดชั่วใช้ประโยชน์เอาได้”
นัยน์ตาราชาเฟิ่งผุดความเจ็บปวด พูดเสียงเครียดว่า “ถูกต้อง! เผ่าเฟิ่งหวงได้ชื่อว่าเป็นนกอมตะ การนิพพานแต่ละครั้งก็คือการเกิดใหม่ แต่ในระหว่างนิพพานก็เป็นช่วงอ่อนแอที่สุดของเผ่าเฟิ่งหวง เป็นโอกาสเดียวที่จะถูกสังหารจนตายได้”
เขามองไปที่ชูเนี่ยน แววตาแสดงออกถึงการตำหนิตัวเอง “ครั้งนั้น ก็เพราะมารดาเจ้าไม่สามารถกลับมานิพพานที่ป่าหวูถงได้ทันเวลา ข้าเองก็ไม่สามารถไปหานางได้ทันเวลาด้วยจึงทำให้นางหายสาบสูญไป ทั้งทำให้เจ้าต้องเติบโตขึ้นในแผ่นดินเทพ”
แววตาชูเนี่ยนสับสน ถอยหลังไปหนึ่งก้าว เพื่อหลบเลี่ยงแววตาของราชาเฟิ่ง
นางไม่สามารถชินกับความรัก ความเสียใจ ความดีใจในแววตาของเขาได้
นางหันหน้าไปทางมู่ชิงเกอ แววตาพึ่งพิงนั้น ราชาเฟิ่งมองเห็นมันจนหมดสิ้น
มู่ชิงเกอเองก็มองนางเช่นเดียวกันและบอกนางว่า “เวลานี้เจ้าเลือกที่จะไม่เชื่ออะไรก็ได้ แต่ข้าเสนอว่าควรพักอยู่ในป่าหวูถงนี้ก่อน หากเจ้าเป็นเผ่าเฟิ่งหวงจริง เมื่อตื่นจากนิพพานแล้วก็สามารถรำลึกทุกสิ่งได้ ถึงเวลานั้นอะไรจริงอะไรปลอม เจ้าย่อมรู้อยู่แก่ใจไม่สับสนอีก อีกทั้งเจ้าเองก็รู้สึกได้ว่าภายในร่างกายมีพลังที่กำลังตื่นขึ้นมาใช่ไหม”
ชูเนี่ยนเงียบสงบลง จิตใจนางกำลังพิจารณาคำพูดมู่ชิงเกออย่างจริงจัง
เป็นความจริงที่หากนางนิพพานได้จริงก็แสดงว่านางไม่ใช่เผ่ามนุษย์แต่เป็นเผ่าอสูร หลังจากนิพพานแล้วจะสูญเสียความทรงจำ แต่ก็เป็นไปได้ที่จะจำอดีตได้
แต่ขอเพียงให้มีการรับรองฐานะที่แท้จริงได้ การจำได้หรือไม่ได้จะมีความสำคัญอะไรหรือ
“ลูกรัก มนุษย์คนนี้พูดถูกต้อง เจ้าอยู่ที่นี่ก่อน หลังจากนิพพานแล้ว พวกเราค่อยคุยรายละเอียดกัน” ราชาเฟิ่งรีบบอก
ชูเนี่ยนเงยหน้ามองที่ราชาเฟิ่งแล้วมองมู่ชิงเกอ สุดท้ายแล้วนางก็บอกราชาเฟิ่งว่า “ให้ข้าอยู่ก็ได้ แต่เขาต้องอยู่ด้วย”
“เขาหรือ” เดิมราชาเฟิ่งดีใจที่ชูเนี่ยนตกลงใจจะอยู่ แต่พอได้ยินนางพูดถึงมู่ชิงเกอ ใบหน้าก็ดำคลํ้าลงมาทันที
“เผ่ามนุษย์เข้าไปในป่าหวูถงไม่ได้” ราชาเฟิ่งพูดหน้าดำคร่ำเครียด
“เขาไม่เข้าไป ข้าก็ไม่เข้าไป” ชูเนี่ยนแข็งขืน
สีหน้าราชาเฟิ่งน่าเกลียดโดยฉับพลัน กระทั่งทหารนกหลวนยังถอยออกไปหลายก้าว เกรงว่าราชาเฟิ่งออกฤทธิ์เดชกะทันหันแล้วจะพลอยโดนลูกหลงไปด้วย
“ลูกรัก เผ่ามนุษย์เข้าป่าหวูถงไม่ได้ นี่เป็นระเบียบปฏิบัติ” ราชาเฟิ่งสะกดความโกรธในใจแล้วพูดด้วยความอดทน
น่าเสียดายที่ชูเนี่ยนไม่มีความผูกพันอะไรกับเขาเวลานี้ ถึงแม้มีผลเกี่ยวพันทางสายเลือดก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้นางเปลี่ยนความตั้งใจ ปริศนาที่มาของนางทำให้นางรู้สึกว้าเหว่มากอยู่แล้ว เวลานี้กำลังต้องการให้มีคนเชื่อถือได้อยู่ข้างกาย นางจะทอดทิ้งมู่ชิงเกอได้อย่างไร
การยืนกรานของชูเนี่ยนทำให้ราชาเฟิ่งมองมู่ชิงเกอ พยายามส่งสายตาให้
ราวกับจะให้เขาขอจากไปเอง เพื่อจะได้ไม่ทำให้พ่อลูกต้องเสียความรู้สึกต่อกัน
แต่มู่ชิงเกอเป็นคนเช่นไร
ยากนักที่จะมีโอกาสเข้าป่าหวูถงแล้วให้นางทอดทิ้งไปได้อย่างไร อีกทั้งนางเองก็ดูออกว่า ระเบียบปฏิบัติของเผ่าเฟิ่งหวงไม่ใช่จะยกเว้นไม่ได้
เห็นมู่ชิงเกอทำเฉย ราชาเฟิ่งก็อดไม่ได้ถามว่า “เจ้ากับลูกสาวข้าเกี่ยวข้องอะไรกันแน่”
“อะไรคือเกี่ยวข้องอะไรกัน พวกเราเป็นเพื่อนกัน!” ชูเนี่ยนรีบชิงพูดก่อน
แต่ท่าทางที่ชูเนี่ยนปกป้องมู่ชิงเกอเช่นนี้ ทั้งยังอาการที่พึ่งพิงเขาอย่างมาก ทำให้ราชาเฟิ่งรู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาไม่ใช่เป็นเพียงเพื่อนธรรมดา
เขามองชูเนี่ยนและเอ่ยถามตรงๆ ว่า “เจ้าชอบเขาหรือ”
ชูเนี่ยนชะงัก
หยินเฉินดูละครอย่างเงียบๆ
ราชาเฟิ่งราวกับลำบากใจมาก เดินกลับไปมาด้วยท่าทางหงุดหงิดมาก
ทันใดนั้นเขาก็หยุดลง หันขวับไปทางมู่ชิงเกอ แค่นเสียงพูดว่า “เจ้าอยากเข้าป่าหวูถงนั้นก็ได้ แต่มีเงื่อนไขเดียวคือแต่งงานกับลูกสาวข้า”
“ราชาเฟิ่ง!”
ทหารนกหลวนตกตะลึง
มู่ชิงเกอกับชูเนี่ยนเองก็ตกตะลึงไป
อะไรกัน!
ใบหน้าชูเนี่ยนผุดความรู้สึกทั้งอายทั้งโกรธ นึกไม่ทันว่าจะตอบอย่างไรดี
มู่ชิงเกอกลับหน้าเครียด บอกราชาเฟิ่งว่า “ต้องขออภัย ข้าแต่งงานไม่ได้”
มู่ชิงเกอตอบโดยไม่มีการลังเลทำให้แววตาชูเนี่ยนผุดความผิดหวังขึ้นมานิดๆ
นัยน์ตาราชาเฟิ่งกลับปะทุเพลิงโทสะออกมา คำรามว่า “เจ้าพูดอะไร ลูกสาวข้าสายเลือดสูงศักดิ์เช่นนี้ แต่งงานกับเจ้าก็เสียเปรียบนางมากแล้ว เจ้ายังกล้าปฏิเสธอีกหรือ”
“การแต่งงานของข้าไม่เกี่ยวกับท่าน” ชูเนี่ยนรีบพูด
ราชาเฟิ่งกลับออกหน้าแทนนาง เขามองชูเนี่ยนแล้วเอ่ยว่า “ในเมื่อเจ้าชอบเขา ข้าก็จะให้พวกเจ้าอยู่ด้วยกัน มีอะไรไม่ดีหรือ”
ว่าแล้วเขามองไปทางมู่ชิงเกอ พูดคุกคามด้วยจิตสังหารว่า “แต่งงาน หรือตาย เจ้าเลือกเอง!