ตอนที่ 839
ฆ่าคนสังเวยธง
“วันนี้ข้าจะชูธงล้างแค้น!”
คนตระกูลมู่เพิ่งจะขึ้นมาถึงเก้าชั้นฟ้าก็ได้ยินคำพูดนี้ของมู่ชิงเกอ
ส่วนราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยเมื่อได้ยินคำพูดนี้แล้วก็เลิกคิ้วเล็กน้อย หรี่นัยน์ตาหงส์ลงนิดหนึ่ง ไม่ได้ลงไปที่เก้าชั้นฟ้าแต่รออยู่ภายนอก
ทันใดนั้นเขาก็รับรู้ได้ถึงพลังแข็งแกร่งไม่อาจเทียบปะทะเข้ามาจากทางด้านหน้า
นัยน์ตาเขาเปล่งประกายแวบหนึ่ง ระมัดระวังตัวทันที
เพียงพริบตาเดียวก็เห็นคนสวมชุดสีดำสนิทมาปรากฎกายอยู่เบื้องหน้า
ทั้งคู่ต่างเป็นชายที่มีรูปลักษณ์เลิศลํ้าไร้ผู้ใดเทียบเทียม ตอนนี้มาพบหน้ากันที่นอกเก้าชั้นฟ้า จุดประสงค์การมาล้วนเพื่อมู่ชิงเกอ
เพียงแต่ต่างกันที่คนหนึ่งมาเพราะการนัดหมาย
อีกคนหนึ่งมาโดยไม่ได้รับเชิญ
สายลมพัดผ่านชุดสีดำและม่วงเกิดเสียงพึ่บพั่บ แต่ก็ไม่อาจทำลายความงามลํ้าของเงาร่างทั้งสองลงได้
“เผ่ามาร…ราชามาร” ตาหงส์ของราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยหรี่ลงเล็กน้อย สายตาจับจ้องเงาร่างสีดำเบื้อง หน้าที่ไม่ว่าเป็นผู้ใดก็ไม่อาจมองข้ามได้ เขารับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่เผ่าเทพ อีกทั้งนัยน์ตาสีอำพันที่ไม่เหมือนใครนั้นทำให้รู้ถึงฐานะของเขาได้ในทันที
หากคนผู้นี้เป็นราชามารจริงเหตุใดจู่ๆ จึงมาปรากฎตัวที่นี่ได้
หรือว่าจะมาจัดการเก้าชั้นฟ้า…ไม่สิ หรือว่าจะมาจัดการเจ้าหนูมู่ชิงเกอ
ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยคาดเดาในใจ
ประกายตาโหดเหี้ยมสาดออกมาจากนัยน์ตาเขา เขาคาดคะเนในใจว่าหากราชามารลงมือกับมู่ชิงเก อจริง เขาจะมีความมั่นใจกี่ส่วนว่าจะสามารถช่วยมู่ชิงเกอให้พ้นจากเงื้อมมือของเขาได้
“ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ย” ขณะที่กำลังเขาคิดคะเนอยู่ในใจ ซือมั่วก็เปิดปากพูดเรียบๆ
เขาไม่ได้ตื่นเต้นเหมือนราชาเทวะฮ่วนเยวี่ย แต่ยังคงมีความรู้สึกไม่ชอบใจนักที่ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ย ปรากฎตัวที่นี่ ถึงแม้เขาจะรู้ว่าเสี่ยวเกอเอ๋อร์ของเขาเชิญอีกฝ่ายมาก็ตาม
ภรรยาตัวเองจะต่อสู้สังหารคน ถึงขนาดไม่ยอมใช้สามีตัวเองแต่กลับให้คนนอกมาช่วย
นี่จะได้อย่างไร
ดังนั้นถึงแม้ซือมั่วจะเข้าใจว่าที่มู่ชิงเกอไม่ได้เรียกเขาเพราะไม่ต้องการให้เขาเข้ามาพัวพันจนยากจะ แก้ไข แต่เขาก็ยังจะมาอยู่ดี
“กองทัพมารประจำการอยู่นอกแผ่นดินเทพตะวันตก เวลานี้คนกลับมาถึงที่นี่ ไม่ทราบมีจุดประสงค์ ใดหรือ” ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยเอ่ยปากถาม ตาหงส์แอบซ่อนความระแวดระวัง
รอยยิ้มที่มุมปากซือมั่วยังคงประดับอยู่ดังเดิม ตอบว่า “ย่อมจะมาล้างแค้น”
เขายืมคำพูดเมื่อครู่นี้ของมู่ชิงเกอมาใช้อย่างแนบเนียน
“ล้างแค้นหรือ” ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยหรี่ตาแล้วพูดเสียงเกียจคร้านว่า “ราชามารปรากฎตัวอย่างเปิดเผย เช่นนี้หรือไม่กลัวว่าจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด ส่วนเรื่องล้างแค้นนั้นเก้าชั้นฟ้าเคยมีความแค้นอะไรกับราชามารหรือ”
ซือมั่วอมยิ้มส่ายหน้า นัยน์ตาสีอำพันดูไม่ออกถึงอารมณ์ความรู้สึกทั้งไม่รู้ว่ามาดีหรือมาร้าย หากไม่ใช่เห็นแก่หน้ามู่ชิงเกอ เขาคงจะไม่อยู่ต่อปากกับราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยที่นี่อีก
เขาว่า “ก่อนหน้านี้ พวกเส้าเทียน กู่เฟิ่ง เซวียนเช่อ จื่อกวง สี่คนมาลอบสังหารขณะที่ข้าปิดประตู บำเพ็ญ พวกเขายังติดค้างหนี้ชีวีตข้า วันนี้ข้าต้องการมาเอาชีวิตพวกเขาเพื่อชำระหนี้แค้นนี้”
“เช่นนั้นราชามารไยจึงมาเก้าชั้นฟ้านี้เล่า” ราชา ทวะฮ่วนเยวี่ยถามรุกไล่
ซือมั่วกลับหัวเราะอย่างนึกสนุก ถามว่า “ราชาเทวะกังวลอะไรหรือ”
หางตาราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยกระตุกแล้วนิ่งเงียบลง
แววตาสนุกสนานของซือมั่วกลับชัดเจนขึ้น เขายิ้มว่า “ท่านวางใจได้ที่ข้ามาวันนี้เพื่อเอาชีวิตสี่คนนี้เท่านั้น”
“หวังว่าราชามารจะรักษาคำพูด” ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยกล่าวเตือน
ซือมั่วกลับยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ “ต่อให้ข้าโกหกแล้วจะทำไม ท่านฆ่าข้าไม่ได้แต่ข้าฆ่าท่านได้”
ประกายตาราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยโหดขึ้นมา พลังบารมีทั้งคู่ปะทะกันโดยตรงอย่างไม่มีใครยอมใคร
เรื่องที่ทั้งคู่แอบประลองกำลังกันนอกเก้าชั้นฟ้า บนเก้าชั้นฟ้านั้นมู่ชิงเกอไม่รู้ตัวเลยแม้แต่นิด
นางมองดูเหล่าคนตระกูลมู่ที่ยืนอยู่เบื้องหน้านาง สายตาที่คมกริบใสแจ๋วค่อยๆ กวาดผ่านร่างพวก เขา
เวลานี้คนหลายหมื่นจึงพบว่า ในมือนางมีธงผืนหนึ่งซึ่งไม่รู้มาตั้งแต่เมื่อไหร่
ธงผืนนั้นเขียนด้วยตัวหนังสือตัวใหญ่เปี่ยมพลัง ‘ชดใช้หนี้เสือด!’
“หมื่นปีก่อนพวกเจ้าถูกบังคับให้ทิ้งที่นี่ไป บ้านแตกสาแหรกขาดร่วงหล่นจากเก้าชั้นฟ้าลงไปในโลก
เบื้องล่าง มีชีวิตราวกับสุนัขจรจัดทั้งแบกรับคำก่นด่ามาหมื่นปี หนี้เลือดครั้งนั้นพวกเจ้ายังจำได้ไหม!” เสียงเย็นเฉียบของมู่ชิงเกอ ดังขึ้นในหมู่คน
“จำได้! จำได้!”
“พวกเราจำได้!”
ภายใต้คำพูดปลุกเร้าของนางทำให้อารมณ์ทุกคนต่างฮึกเหิม ความทรงจำเมื่อหมื่นปีก่อนปรากฎอยู่ในสมองพวกเขา
“บรรพบุรุษของเรา วีรบุรุษของเราเคยเสียเลือดเสียเนื้ออยู่ที่นี่ สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถต้านทานกล อุบายตํ่าช้าจิตใจละโมบของเหล่าทรชน เป็นความผิดของพวกเราหรือไม่!” มู่ชิงเกอตะโกนลั่น
“ไม่ใช่! ”
“ไม่ใช่! ”
“ในเมื่อไม่ใช่ความผิดของพวกเรา ก็คือความผิดของพวกเขา!” ธงใหญ่ในมือมู่ชิงเกอ ก้านธงกระแทกพื้น จนเกิดเสียงดังสนั่นสะท้อนก้องอยู่ในเก้าชั้นฟ้า
“ใช่แล้ว เป็นความผิดของพวกเขา!”
“ผิดที่พวกเขา!”
“ในเมื่อผิดแล้วก็ต้องแก้ไข ในเมื่อติดหนี้เลือดพวกเราตระกูลมู่ วันนี้พวกเจ้าจงตามข้าไป ข้าจะนำ พวกเจ้าไปทวงหนี้เลือด ให้คนในครั้งนั้นได้ชดใช้หนี้เลือด พวกเจ้ากล้าไหม!” มู่ชิงเกอถามอีก
เลือดลมของคนหลายหมื่นถูกนางปลุกเร้าจนเดือดพล่านขึ้นมาหมดแล้ว
เวลานี้พวกเขาราวกับไม่ใช่ตระกูลมู่เหลือเดนที่ ต้องคอยหลบซ่อนอยู่ในที่มืดของแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทรอีกแล้ว สายเลือดเทพสงครามที่สืบทอดในร่างกายพวกเขาได้ฟื้นคืนชีพอย่างสมบูรณ์ในชั่วขณะนี้เอง
คลื่นในใจของซวีซิวกับราชครูโหมซัด พวกเขามองดูมู่ชิงเกอวันนี้ก็ราวกับเห็นบรรพชนตระกูลมู่ในครั้งนั้น
ไม่! เขาโดดเด่นกว่าบรรพชนตระกูลมู่เสียอีก!
นางไม่มีความเถรตรงแต่ล้าหลังไร้ซึ่งเหตุผล นางรักษาความเลือดร้อนแข็งแกร่งของตระกูลมู่พร้อมจิตวิญญาณรบไม่สิ้นสุด แต่ไม่แข็งจนถึงขั้นเอาแต่รักษาคุณธรรม!
หลักปฏิบัติของนางนั้นเกิดจากจิตใจของนาง ไม่ใช่ระเบียบกฏเกณฑ์ของตระกูลมู่
“ตามข้ามา!” มู่ชิงเกอโบกธงแล้วกระโดดขึ้นฟ้า มุ่งหน้าไปยังนอกเก้าชั้นฟ้า นางตะโกนบอกคนหลายหมื่นว่า “หยิบอาวุธของพวกเจ้าแล้วสวมชุดเกราะของพวกเจ้าเสีย พวกเราจะไปดินแดนจื่อกวงฆ่าคนสังเวยธง!”
“ฆ่าคนสังเวยธง!”
“ฆ่าคนสังเวยธง!”
ภายใต้อารมณ์ที่เดือดพล่าน เสียงคนหลายหมื่นคนดังสนั่นขึ้นไปถึงฟากฟ้าเก้าชั้นฟ้าและย่อมไปถึงสองคนที่อยู่นอกเก้าชั้นฟ้า
คำพูดของมู่ชิงเกอเมื่อครู่นี้พวกเขาล้วนได้ยินแล้ว
แม้แต่เขาทั้งคู่ยังฟังจนเลือดลมพลุ่งพล่าน อย่าว่าแต่ตระกูลมู่เหลือเดนเหล่านี้เลย
ทันใดนั้นราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยก็แค่นเสียงออกมา ถอยหลังไปหลายก้าว มองซือมั่วด้วยแววตาระแวดระวัง
เวลานี้เอง มู่ชิงเกอชูธงลงมาจากเก้าชั้นฟ้า บังเอิญเห็นคนทั้งคู่ที่กำลังประจันหน้ากันอยู่ นางชะงัก แล้วยืนอยู่กับที่ด้วยสีหน้าประหลาดใจ
การปรากฎตัวของราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยนั้นอยู่ใน แผนการของนาง แต่เหตุใดซือมั่วก็ปรากฎตัวอยู่ที่นี่ด้วยเล่า
เพียงแต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดคุย สายตามู่ชิงเกอกวาดผ่านคนทั้งคู่แล้วฉีกขาดช่องว่าง ชูธง กระโดดเข้าไป
พอนางขยับตัว ทั้งคู่ต่างก็ฉีกขาดช่องว่างตามเข้าไปด้วย…