Skip to content

พลิกปฐพี 840

ตอนที่ 840

ปลอบขวัญวิญญาณกล้าตระกูลมู่!

ในรอยแยกช่องว่างนั้นข้างกายมู่ชิงเกอมีคนเพิ่มมาหนึ่งคนกะทันหัน

นางมองคนที่มาแล้วสะดุ้งเฮือก

“ไม่ต้องกลัว พวกลูกน้องเจ้ายังอยู่ข้างหลัง ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยคนนั้นก็เข้ามาใกล้ไม่ได้ ข้าขอพูดกับเจ้าไม่กี่คำเท่านั้น” ก่อนที่มู่ชิงเกอจะอ้าปาก ซือมั่วก็รีบอธิบายอย่างรวดเร็ว

มู่ชิงเกอพูดอย่างจนใจ “เจ้ามาได้อย่างไร เห็นท่าทางเจ้าเมื่อครู่นี้แทบจะสู้กับราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยอยู่แล้ว”

“เจ้าห่วงเขาหรือ” นัยน์ตาซือมั่วหรี่ลง

มู่ชิงเกอค้อนเขาไปทีหนึ่ง พูดว่า “ข้าไม่ได้ให้คนบอกเจ้า ก็เพราะไม่อยากให้เจ้าเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เจ้ากลับวิ่งเข้ามาเองอย่างนั้น”

“ข้ารู้ว่าเสี่ยวเกอเอ๋อร์ทำเพื่อข้า” ซือมั่วจูงมือมู่ชิงเกอ

ขณะที่มู่ชิงเกอดึงมือออก เขาก็พูดอีกว่า “วางใจเถอะ ข้าบอกเจ้าราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยคนนั้นว่า ข้ามาเพื่อแก้แค้น ไม่มีเหตุผลที่ข้าจะยอมให้พวกเผ่าเทพของเขาลอบจู่โจมข้า แต่กลับไม่ยอมให้ข้าลอบจู่โจมกลับจริงไหม”

ท่าทีอันธพาลเช่นนั้นของเขาทำให้มู่ชิงเกอพูดไม่ออก

ก่อนที่นางจะเอ่ยอะไร เขาก็พูดอย่างรู้ทันว่า “เจ้าทำเรื่องของเจ้าไป ไม่ต้องสนใจข้า”

พูดจบ เบื้องหน้าพวกเขาเกิดประกายแสงสว่างวาบ ซือมั่วคลายมือนางออกแล้วผลักหลังนางเบาๆ ส่ง นางออกจากช่องว่าง

มู่ชิงเกอกระโดดออกจากรอยแยก ยืนอยู่เหนือท้องฟ้าดินแดนจื่อกวง

ส่วนซือมั่วไม่ได้อยู่ข้างนางแล้ว ไม่รู้ว่าอยู่แห่งใด

ไม่ทันรอให้นางค้นหา ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยก็ปรากฎตัวอยู่ข้างกายนาง ส่วนตระกูลมู่หลายหมื่นคน รวมทั้งองครักษ์เขี้ยวมังกรต่างมาตามทางผ่านที่นางฉีกขาดออกแล้ว

“ราชามารแดนมารปรากฎตัวที่นี่กะทันหัน เจ้าต้องระวังตัวมากขึ้นด้วย” ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยกำชับที่ ข้างหูมู่ชิงเกอ

นัยน์ตามู่ชิงเกอเปล่งประกายวูบหนี่ง รับคำเบาๆ

“ราชาเทวะ ศึกนี้ขอให้ท่านคุมเชิงอยู่ข้างๆ ก็พอแล้ว ไม่ต้องลงมือ” มู่ชิงเกอบอกราชาเทวะฮ่วนเยวี่ย

ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยชำเลืองนัยน์ตาหงส์มองมู่ชิงเกอ มู่ชิงเกอก็หันมองเขา สายตาทั้งคู่สบกันกลางอากาศ แล้วเขาจึงพยักหน้าช้าๆ “ตามที่เจ้าต้องการ”

พอสิ้นเสียงแล้วราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยก็ถอยไปอยู่ ในที่ไกลออกไป ทำตามที่มู่ชิงเกอว่า ไม่ลงมือแต่เพียงแค่ดูเท่านั้น

มู่ชิงเกอมองไปทางอื่นด้วยใบหน้าเย็นเฉียบ

ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยนั้นเตรียมไว้เผื่อเวลาปะทะกับราชาเทวะเส้าเทียนหากมีความจำเป็น โห่วกับภูติ ภูเขาเวลานี้ก็ควรจะมาถึงดินแดนเซวียนเช่อแล้ว

สายตามู่ชิงเกอมองไปที่ดินแดนจื่อกวง

สถานที่นี้นางเคยมาแล้ว ขณะนี้ถูกแสงโปร่งใสครอบเอาไว้ คนภายในนั้นพยายามจะทุบให้แตกหัก แต่ทุบอย่างไรก็ไม่สำเร็จ

ค่ายกลใหญ่ที่ใช้กักขังคนเช่นนี้ทำให้นัยน์ตาราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยเกิดความประหลาดใจ

“นายน้อย!” เวลานี้มีคนมุ่งหน้ามาที่มู่ชิงเกอ คนกลุ่มนั้นคือพวกซ่งเทียนจี๋ที่มู่ชิงเกอตีตราทาสในครั้งนั้น และให้ฝังตัวที่ดินแดนจื่อกวง

“พวกเราทำตามที่นายน้อยสั่งไว้ กักขังพวกเขาไว้ในนี้แล้วขอรับ” ผู้มาบอกเช่นนี้

มู่ชิงเกอพยักหน้าเบาๆ บอกให้พวกเขาถอยไป

ดวงตาใสกระจ่างของนางมองไปที่ฝาครอบแสงนั้น นี่เป็นค่ายกลที่นางดัดแปลงมาจากค่ายกลตาข่าย ฟ้าเจ็ดดาราสังหาร ใช้ตาค่ายกลเจ็ดสังหารเช่นเดียวกัน แต่ไม่ได้ใช้คนกลับใช้พื้นที่ตัวเองแทน

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว คนภายในนั้นยิ่งต่อต้านยิ่งอยากจะออกมา ค่ายกลที่กักขังก็จะยิ่งแข็งแกร่ง พลังที่ ต้องการทำลายมันจะแปรเปลี่ยนเป็นพลังกักขังที่แข็งแกร่งทำให้ที่นี่เป็นกรงขังที่แม้แต่ราชาเทวะก็ยังไม่สามารถทำลายได้

มู่ชิงเกอต้องการทำเช่นนี้เพื่อกักขังทั้งสี่ดินแดนเทพ ให้นางมีเวลาเพียงพอที่จะไปทำลายได้ทีละแห่ง

กลุ่มซ่งเทียนจี๋หลายร้อยคนไม่ได้มุ่งหน้าไปเก้าชั้นฟ้าก็เพื่อเหลือไว้ปฏิบัติงานที่สำคัญที่สุดนี้

พวกเขาฉวยโอกาสที่แผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทรเกิดความชุลมุนวุ่นวายฝังตาค่ายกลของมู่ชิงเกอ ขณะที่เก้าชั้นฟ้ากลับมาปรากฎ หยินเฉินส่งสัญญาณให้ก็คือการสั่งการให้ค่ายกลเริ่มทำงาน

ทุกอย่างล้วนดำเนินการตามแผนของมู่ชิงเกอ

เวลานี้มู่ชิงเกอมาถึงดินแดนจื่อกวงที่ใกล้เก้าชั้นฟ้ามากที่สุดเป็นแห่งแรก นางมองคนในดินแดนนับไม่ถ้วนด้วยสายตาเย็นชา เก็บภาพความตื่นตกใจโกรธแค้นและร้อนรนไว้จนหมดสิ้น

เวลานี้จู่ๆ นอกดินแดนก็ปรากฎคนหลายหมื่นขึ้น และต่างยืนอยู่บนท้องฟ้าราวกับเทพเซียนจับจ้องมาด้วยความเย็นชา เหล่าลูกศิษย์ในดินแดนจื่อกวงต่างมีสีหน้าเปลี่ยนแปลงไป รู้สึกถึงภัยร้ายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ปัง!

มู่ชิงเกอใช้ก้านธงใหญ่ในมือแทงลงไปอย่างแรง ก้านธงที่ยาวจั้งกว่ายาวขึ้นตามลมที่ปะทะ ขณะที่พุ่งลงมาจากบนท้องฟ้าก็ปักอยู่บนพื้นดินนอกสิ่งกีดขวางดินแดนจื่อกวง ธงผืนใหญ่ยาวขึ้นเป็นสิบจั้งแล้วคลี่ออกตามลมปรากฎตัวหนังสือสีแดงเลือดสด

ชดใช้หนี้เลือด!

ขณะที่ตัวหนังสือนี้ปรากฎอยู่ในสายตาของเหล่าลูกศิษย์ดินแดนจื่อกวง คนไม่น้อยต่างตกใจจนถอยหลังกรูดสุดแสนจะทุลักทุเล

“เหลือไว้หมื่นคนปิดทางออก นอกนั้นเข้าไปสังหารทั้งหมด ไม่ว่าหญิงชายอ่อนแก่ไม่มีแบ่งชนชั้น… ฆ่า!” มู่ชิงเกอสั่งด้วยความเหี้ยมโหด ขว้างก้อนหยกที่ส่องประกายแวววับเป็นพิเศษในมือตรงไปที่ฝาครอบโปร่งแสงนั้น

ก้อนหยกนั้นเป็นอาคมต้องห้ามชนิดหนึ่งเอาไว้ใช้คลายค่ายกลที่มู่ชิงเกอวางเอาไว้โดยเฉพาะ

ขณะที่ก้อนหยกกระทบฝาครอบโปร่งแสง ฝาครอบโปร่งแสงก็สลายหายไปในทันที ไม่กักขังผู้คนในดินแดนอีกต่อไป

“ฆ่าเลย!”

พอสิ่งกีดขวางหายไป ทัพใหญ่ตระกูลมู่ที่รอคอยอยู่นานต่างคำรามออกมา ทำตามคำสั่งมู่ชิงเกอ ไม่ ว่าใครล้วนพุ่งลงไปบนพื้นดิน

คงเหลือหมื่นคนแยกกันเฝ้าระวังทางเข้าออกดินแดนจื่อกวงไว่ไม่ให้ผู้ใดผ่านได้

ไม่มีใครทันสังเกตว่าถึงแม้ฝาครอบโปร่งแสงจะหายไปแต่ไม่ได้สลายไปจนหมดสิ้น แต่เปลี่ยนเป็นใหญ่โตขึ้นจนปิดล้อมท้องฟ้าดินแดนจื่อกวงไว้เพื่อป้องกันผู้ที่จะหลบหนีไปทางท้องฟ้าหรือ…ฉีกขาดช่องว่างจากไป

มุมปากมู่ชิงเกอผุดรอยยิ้มเยาะ ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมมองการเข่นฆ่าบนพื้นดินด้วยสายตาเย็นชา

ดินแดนจื่อกวง สถานที่ที่เป็นดังภาพจำแลงเวลานี้ โลหิตไหลกลายเป็นแม่นํ้า ทุกหนทุกแห่งล้วนมีแต่เสียงร้องโหยหวน คนตระกูลมู่ราวกับสุนัขป่าที่หิวโหย สังหารลูกศิษย์ดินแดนจื่อกวงไม่หยุดด้วยสองตาที่แดงฉานแววตาเหี้ยมโหด

ภายในนั้นองครักษ์เขี้ยวมังกรของมู่ชิงเกอนับว่าสังหารได้อย่างเด็ดขาดรวดเร็วมากที่สุด ทุกดาบที่ฟันออกไปล้วนถึงชีวิต

ลูกศิษย์เหล่านี้บริสุทธิ์ไหม มู่ชิงเกอฆ่าฟันตามอำเภอใจไหม

นางไม่รู้ว่าเมื่อหมื่นปีก่อน ที่นี่มีกี่คนที่เข้าร่วมการเข่นฆ่าที่เก้าชั้นฟ้า และไม่รู้ว่าในหมื่นปีนี้มีกี่คนที่ไล่สังหารคนตระกูลมู่

นี่คือโลกของผู้แข็งแกร่งกว่าไล่ล่าผู้อ่อนแอกว่า ไม่มีกฎหมายกำหนดว่าฆ่าคนต้องชดใช้

มีเพียงคำพูดที่ว่า…

ฆ่าคนก็จะถูกฆ่า!

ผู้อ่อนแอถูกฆ่า ผู้แข็งแกร่งฆ่าคน!

คนตระกูลมู่มีคนบาดเจ็บกระทั่งตายไป แต่มู่ชิงเกอยังคงไม่ได้ใส่ใจ นางรอคอยอย่างเยือกเย็น รอคอยคนที่สมควรจะออกมา

‘ลูกศิษย์จื่อกวงมากมายเช่นนี้ เจ้าจะฆ่าให้หมดเลยหรือ’ ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยถ่ายทอดเสียงถามมา

มู่ชิงเกอยังคงมีสีหน้าแบบเดิมตอบอย่างเลือดเย็นว่า “นี่เป็นศึกแรก ต้องฆ่าเท่านั้น!”

ตระกูลมู่ต้องการสร้างอำนาจบารมี ต้องการยืนตระหง่านขึ้น ย่อมต้องแสดงให้เห็นเขี้ยวเล็บและเก็บงำจิตเมตตา

ดังนั้นนางจึงเลือกดินแดนจื่อกวงที่อ่อนแอที่สุดของสี่ดินแดนเทพ ไม่ใช่เพราะมันใกล้ แต่เพราะการล่มสลายของมันมีผลกระทบต่อดินแดนเทพทั้งสี่สมุทรน้อยที่สุด

ส่วนสิ่งที่นางต้องการ ไม่เพียงแค่ฟื้นฟูความเกรียงไกรของตระกูลมู่ แต่ต้องการใช้การเข่นฆ่าเพื่อ สยบแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทร สะสมชื่ออันแกรียงไกรของเทพแห่งสงครามเพื่อเตรียมรับเหตุการณ์ภายภาคหน้า…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version