ตอนที่ 841
มาได้เวลาพอดี!
เรื่องในอนาคต…
แววตามู่ชิงเกอคมกริบ สูดลมหายใจลึกๆ โดยไม่แสดงท่าทีใด
เผ่าอี้!
เผ่าอี้นั้นเจ้าเล่ห์มาก จากการที่พวกเขากระทบกระทั่งกับแผ่นดินเทพมารมานานปี ทำให้รู้ว่าในแผ่นดินเทพมารนั้นแดนมารที่ซือมั่วปกครองเป็นปึกแผ่นจึงเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ส่วนแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทรที่ปกครองกระจัดกระจายกันกลับไม่ได้น่ากลัวอะไรมาก
ดังนั้นพวกเขาจึงได้ลงมือกับซือมั่ว
ในเมื่อพวกเขาต้องการขจัดภัยคุกคามก็แสดงว่า ต่อไปพวกเขาจะต้องมีการเคลื่อนไหวใหญ่
เมื่อถึงเวลานั้น…
สายตาที่คมกริบใสแจ๋วของมู่ชิงเกอกวาดผ่านสนามรบภายในดินแดนจื่อกวง นางไม่มีความอดทน และเวลามากพอที่จะไปเกลี้ยกล่อมแต่ละดินแดนในแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทรจึงต้องอาศัยโอกาสครั้งนี้ทำให้แผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทรสั่นสะท้านให้ทุกคนได้รับรู้และตระหนักถึงนายใหม่ของตระกูลมู่ นายใหม่ของเก้าชั้นฟ้า
แผ่นดินเทพตะวันตกไม่ต้องการสี่ดินแดนเทพอีกต่อไป ต้องการเก้าชั้นฟ้าเพียงหนึ่งเดียวก็พอแล้ว!
เสียงเข่นฆ่าดังขึ้นไม่ขาดสายในดินแดนจื่อกวง โลกที่เคยเหมือนแดนสวรรค์เวลานี้ถูกเคลือบไปด้วย เลือดและการเข่นฆ่า ค่อยๆ เผยให้เห็นถึงความน่าสะพรึงกลัวของมันออกมา
ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยดูอยู่เงียบๆ ยังคงเงียบสงบเช่นเดิม ประกายตาหงส์ของเขาทอดมองที่เงาหลังอันโดดเด่นสง่างามเป็นระยะๆ ประกายตานั้นราวกับแฝงด้วยความนึกคิดอะไรบางอย่าง
ปฏิเสธไม่ได้ว่าคำพูดของมู่ชิงเกอนั้นถูกต้อง
ความเมตตานั้นนำทัพไม่ได้ เก้าชั้นฟ้าเพิ่งฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ หากเขาไม่เปิดเผยด้านเหี้ยมโหดออกมาให้เห็นเด่นชัดมีเพียงด้านเมตตาเท่านั้นย่อมไม่สามารถสร้างชื่อเสียงและบารมีของเก้าชั้นฟ้าขึ้นมาได้
เพียงแต่แม้เขาเข้าใจเหตุผล แต่ภายในส่วนลึกของจิตใจ กลับไม่อยากให้ราชาเทวะน้อยดินแดนฮ่วนเยวี่ยคนนี้ ต้องแปดเปื้อนเพราะการเข่นฆ่ามากจนเกินไป เขาไม่รู้ว่าเส้นทางสายนี้ของมู่ชิงเกอนั้นมาจากการสู้รบเข่นฆ่ามาตลอด นางไม่เคยหวาดหวั่นกับการเข่นฆ่าแต่ก็ไม่ได้เข่นฆ่าตามอำเภอใจ!
“ฆ่า!”
เสียงโห่ร้องสังหารดึงราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยกลับมาสู่ความเป็นจริง
เขามองไปในดินแดนจื่อกวงเห็นการเข่นฆ่าที่มีอยู่ตลอดเวลาภายในนั้น มีกองกำลังหลายร้อยคนกองหนึ่ง พวกเขาแต่งตัวเหมือนกัน ไม่ได้แสดงอารมณ์ดังเช่นคนอื่น แต่เก็บงำความรู้สึกอย่างมิดชิด เพียงแค่เก็บชีวิตของลูกศิษย์ดินแดนจื่อกวงไปอย่างเงียบๆ
ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยสังเกตเห็นว่า คนเหล่านี้มีอาวุธในมือเหมือนกัน แม้แต่วิทยายุทธ์ก็เป็นแบบเดียวกัน การลงมือแต่ละครั้งจะต้องเด็ดชีวิตคนโดยไม่มีการยืดเยื้อแม้แต่นิด
รายละเอียดเหล่านี้ทำให้ดวงตาของราชาเทวะฮ่วนเยวี่ย เปล่งประกายผุดความชื่นชมออกมา
เขาไม่เคยรู้ว่า ในตระกูลมู่ถึงขนาดมีกองกำลังยอดเยี่ยมเช่นนี้ซุกซ่อนอยู่ด้วย
การเข่นฆ่าค่อยๆ ตีโอบเข้าไปถึงใจกลางดินแดนจื่อกวง
ลูกศิษย์ดินแดนจื่อกวงดับสูญไม่ขาดสาย เสียงร้องโหยหวนดังระงมขึ้นทั่วท้องฟ้า กระทั่งเมืองบริวารข้างเคียงที่อยู่ใกล้ก็ยังได้ยิน
แต่ถึงแม้จะได้ยิน พวกเขาก็ไม่กล้าเข้ามาช่วยเหลือ
เนื่องจากแนวป้องกันหมื่นคนที่มู่ชิงเกอจัดวางไว้กำลัง จับจ้องทั้งสองด้าน คนในดินแดนจื่อกวงออกไปไม่ได้ และคนข้างนอกก็เข้ามาไม่ได้
หากต้องการรักษาชีวิตไว้ก็อย่าได้นำพาตัวเองเข้ามาพัวพันกับการเข่นฆ่าครั้งนี้
อีกทั้งธงชดใช้หนี้เลือดผืนยักษ์นั้นยังปลิวพลิ้วสะบัดกลางท้องฟ้าตลอดเวลา ถึงแม้อยู่ห่างไกลก็ยังเห็นได้ชัดเจน
เมืองที่อยู่ติดกับดินแดนจื่อกวง คนนับไม่ถ้วนเดินออกจากบ้าน มองไปยังพื้นที่ที่แว่วเสียงเข่นฆ่าดังมาตลอดเวลานั้น
ขณะที่พวกเขาเห็นชัซัดถึงธง ‘ชดใช้หนี้เลือด’ ผืนนั้นแล้ว คนไม่น้อยต่างก็ตกตะลึงไป
“เป็น…เก้าชั้นฟ้า!”
“เก้าชั้นฟ้ากลับมาแล้ว! ตระกูลมู่กลับมาแล้ว!”
คนไม่น้อยสั่นสะท้านจนพึมพำกับตัวเอง
กระทั่งมีคนทอดถอนหายใจ “เฮ้อ ตระกูลมู่ที่เงียบสงบไปหมื่นปีในที่สุดก็ระเบิดขึ้นแล้ว แผ่นดินเทพตะวันตก ถึงคราวชุลมุนอีกแล้วสิ”
ภายในดินแดนจื่อกวง การเข่นฆ่ายังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
จมูกของมู่ชิงเกอได้กลิ่นแต่คาวเลือด ใบหน้านางเย็นเฉียบ มองตำแหน่งวังราชาเทวะในดินแดนจื่อกวงด้วยสายตาเฉยชา
นางอยากรอดูว่า ราชาเทวะจื่อกวงยังจะหลบได้อีกนานเท่าไหร่
ในวังราชาเทวะ ตำหนักส่วนลึกในวังแว่วเสียงร้องไห้ของหญิงสาวในวังไม่น้อย ราชาเทวะจื่อกวงมักมากในกาม จึงมีภรรยาทั้งใหญ่ทั้งน้อยมากมาย หญิงมนุษย์เทพเหล่านี้มักมีตบะบำเพ็ญในขั้นธรรมดาเท่านั้น ทั้งภายใต้การข่มขู่บีบคั้นของราชาเทวะจื่อกวงจึงมีอุปนิสัยอ่อนแอ ยิ่งเวลานี้เสียงเข่นฆ่าภายนอกใกล้เข้ามาทุกที พวกนางจึงรู้สึกหวาดหวั่นอย่างยิ่งจนลืมไปสนิทว่าตัวเองนั้นเคยบำเพ็ญมาก่อน ไม่ได้เป็นเช่นหญิงสาวทั่วไปที่ไม่มีกำลังป้องกันตัวเองแม้แต่นิด
ราชาเทวะจื่อกวงนั่งอยู่บนบัลลังก์ด้วยสีหน้าดำคร่ำเครียด
เสียงร้องไห้รอบบริเวณยิ่งทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด เขานึกไม่ถึงว่ามู่ชิงเกอเป็นตระกูลมู่เหลือเดนจริงๆ ทั้งยังวางแผนเล่นงานเขามานานแล้ว เวลานี้ยังนำเหล่าตระกูลมู่เหลือเดนมาบุกฆ่าพวกเขาด้วยตัวเองถึงดินแดนจื่อกวง
‘เห็นข้าราชาเทวะจื่อกวงผู้นี้เป็นดินโคลนหรือไร!’ ราชาเทวะจื่อกวงลุกขึ้นด้วยโทสะ
พอเขาขยับ บรรดาภรรยาใหญ่ภรรยาน้อยที่ห้อมล้อมรอบๆ ตัวเขาต่างพากันเงยหน้า มองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวัง
พวกนางเชื่อว่าในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ คนที่สามารถทำให้พวกนางปลอดภัยได้ก็คือชายคนที่ถูกเรียกว่าสามีคนนี้
“ราชาเทวะ ด้านนอกวุ่นวายเช่นนี้ไม่สู้ท่านส่งพวกเราออกไปก่อนดีกว่า” ภรรยาน้อยซึ่งปกติเป็นที่รักใคร่อย่างยิ่งรวบรวมความกล้าขอร้องราชาเทวะจื่อกวง
“ใช่แล้ว ราชาเทวะ ส่งพวกเราไปเถอะ”
“ราชาเทวะ รอให้ท่านสังหารศัตรูแล้ว พวกเราค่อยกลับมาปรนนิบัติท่านดีไหม”
พอมีคนเปิดปากคนอื่นๆ ก็อดไม่ได้อีกต่อไป ต่างพากันเปิดปากขอร้อง
คละเคล้าด้วยเสียงร้องไห้กระซิกๆ ทำให้ใบหน้าราชาเทวะจื่อกวงมีสีหน้าอึมครึมมากขึ้น นัยน์ตามีแต่อารมณ์เกรี้ยวกราด กวาดผ่านร่างเหล่าภรรยาใหญ่ภรรยาน้อย
เพียงแต่หญิงสาวที่กำลังคิดเพ้อฝันนั้นไม่ได้รู้ตัวกันเลยแม้แต่นิด
“พวกเจ้าคิดจะไปหรือ” ราชาเทวะจื่อกวงพูดด้วยนํ้าเสียงเหี้ยมโหด
ทันใดนั้นภาพที่สะท้อนเข้ามาในสายตาพวกนางกลับทำให้พวกนางสะดุ้ง ใบหน้าที่เหี้ยมโหดของราชาเทวะจื่อกวงทำให้พวกนางใจคอหวาดหวั่นคิดจะวิ่งหนีออกไปข้างนอกโดยไม่รู้ตัว
แต่พวกนางจะหนีทันราชาเทวะจื่อกวงได้อย่างไร
กลุ่มหญิงสาวเพิ่งขยับตัวก็ถูกราชาเทวะจื่อกวงจับจ้องไว้แล้ว
จากนั้นท่ามกลางสีหน้าหวาดหวั่นของพวกนาง ราชาเทวะจื่อกวงใช้สองมือออกแรงบีบครั้งเดียว หญิงสาวยี่สิบกว่าคนก็พลันระเบิดออกกลายเป็นเลือดตกลงไปบนพื้นทันที
ภายในวังราชาเทวะราวกับขุมนรก คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือดที่น่าสยดสยอง
บนร่างราชาเทวะจื่อกวงเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดเต็มตัว ทำให้เขาดูน่ากลัวมากขึ้น ท่าทางเขาดูโหดเหี้ยมคล้ายคนบ้าคลั่ง หัวเราะลั่นว่า “นึกว่าข้ารังแกได้ง่ายนักหรือ ดูถูกข้ากันนักหรือ คิดหนีกันทั้งนั้น ข้าจะไม่ให้พวกเจ้าหนีไปได้แม้แต่คนเดียว”
นอกประตูตำหนักที่ปิดสนิท เสียงเข่นฆ่าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ราชาเทวะจื่อกวงราวกับถูกปีศาจเข้าสิง คลุ้มคลั่งไม่เลิกอยู่ในตำหนัก
ไม่มีใครรู้ว่าตั้งแต่เขาหนีออกมาจากแดนมารอย่างทุลักทุเลนั้นเมล็ดพันธุ์แห่งความหวาดกลัวก็ได้ฝังรากลงภายในส่วนลึกของจิตใจแล้ว
เขาแค้น!
แค้นที่ตัวเองไม่สามารถต้านทานการปลุกปั่นของพวกเส้าเทียนวิ่งไปแดนมารร่วมลอบสังหารราชามารที่เป็นอันดับหนึ่งของแผ่นดินเทพมาร
เขาเจ็บแค้นพวกเส้าเทียนที่ผลักให้เขาต้องตกอยู่ภายใต้ความหวาดกลัว
เป็นเวลานานมาแล้วที่เขาลืมความรู้สึกของความตายไป แต่ขณะที่อยู่ในแดนมารเขากลับรู้สึกถึงมันอีกครั้ง ทั้งยังเป็นความรู้สึกที่เด่นชัดเช่นนี้
เวลานี้ตระกูลมู่ต้องการล้างแค้นก็ยังมาลงมือที่เขาเป็นคนแรกอีก
“ไม่ ข้าจะไม่ยอมรอความตาย!” นัยน์ตาราชาเทวะจื่อกวงเปล่งประกายดุดันออกมา พุ่งตรงออกจากวังราชาเทวะทันที
มู่ชิงเกอที่รออยู่นานแล้ว ขณะที่เห็นเงาร่างพุ่งออกจากวังราชาเทวะ มุมปากก็ผุดรอยยิ้มบางๆออกมา…