Skip to content

พลิกปฐพี 86-3

ตอนที่ 86-3

ภายนอกหลินชวน ช่องว่างที่เปลี่ยนไป

โย่วเหอเม้มปากตรง นางเพียงพูดว่า “เราออกห่างไปหน่อย แล้วแอบดูอยู่ห่างๆ หากเห็นว่าคุณชายได้รับอันตรายค่อยหาวิธีล่อเจ้าสัตว์ร้ายนั่นมาทางเราและรีบ พาคุณชายหนีไป”

ฮวาเยวี่ยเงียบลง ราวกับว่านางเห็นด้วยกับคำตอบนี้ของโย่วเหอ

หลังจากที่หญิงทั้งสองนางถอยออกไป กู่หยาก็ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ข้างกายมู่ชิงเกอ มือทั้งคู่กำกระบี่ยาวเอาไว้และถามว่า “เจ้าคิดจะทำอะไร?”

มู่ชิงเกอกระตุกยิ้มอย่างเย็นเยียบ จ้องคนและเสือดาวคู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เจ้าไม่เคยได้ยินหรือว่าศัตรูของศัตรูถือเป็นมิตร?”

เพราะความวู่วามของคนผู้นี้แท้ๆ ที่ฆ่าลูกเสือดาวสะท้านเมฆา ตัดความเป็นไปได้ที่เสือดาวสะท้านเมฆาจะยอมประนีประนอมด้วยนํ้ามือของเขาเอง ทำให้นางมีโอกาสร่วมมือกับเสือดาวสะท้านเมฆาเพื่อสังหารเขา

แต่ว่า นางไม่คิดว่าเสือดาวสะท้านเมฆาที่นางจะมาท้าให้เป็นคู่ซ้อม ในตอนนี้กลับต้องมาร่วมมือกับมันเพื่อกำจัดสัตรู เมื่อได้ยินสิ่งที่มู่ชิงเกอวางแผนเอาไว้สายตาของกู่หยาก็พลันเปล่งประกายพลางตอบว่า “ปฏิกิริยาของเจ้าว่องไวดีนี่” สามารถใช้เวสาอันสั้นในการเผชิญหน้ากับศัตรู และคิดหาวิธีที่เป็นไปได้ที่สุดในการจัดการศัตรูช่างเป็นสิ่งที่ชวนตกตะลึงยิ่งนัก

“แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เจ้าจะชนะเขา” กู่หยาพูดความจริงออกมา ในความเป็นจริงแล้วเขาอยากจะบอกว่า ถึงแม้ว่ามู่ชิงเกอจะผนึกกำลังกับเสือดาวสะท้านเมฆา ก็ยังคงไม่พอสำหรับเขาคนนี้

“ข้ารู้หากข้ามั่นใจว่าจะชนะตั้งแต่แรกก็ไม่เรียกว่าการเสี่ยงเดิมพันน่ะสิ” นํ้าเสียงของมู่ชิงเกอยังคงนิ่งสงบ

เมื่อคิดๆ ดูแล้ว กู่หยาก็พูดขึ้นอย่างกะทันหันว่า “หากต้องการความช่วยเหลือจากข้าก็จงบอก”

มู่ชิงเกอหันไปมองเขา พลันพูดทั้งรอยยิ้มว่า “วางใจเถอะ ข้าไม่หวงการใช้ประโยชน์จากเจ้าหรอก” รอยยิ้มนั้นราวกับมีแผนการบางอย่างซ่อนอยู่ ทำให้กู่ หยารู้สึกเหมือนตกลงไปในหลุมพรางในทันที มิหนำซํ้าหลุมนี้ยังเป็นหลุมที่เขาขุดมันขึ้นมาเองกับมือ!

“ลงมือแล้วนะ!” มู่ชิงเกอตาเป็นประกาย พูดเสียงเข้ม กู่หยาเงยหน้าขึ้นไปมอง เห็นเพียงแค่เสือดาวสะท้านเมฆาที่ไม่สนใจคำพูดใดๆ ของคนผู้นั้น มันส่งเสียง คำรามและพลันพุ่งเข้าหาเขา

เสือดาวสะท้านเมฆานั้นขึ้นชื่อเรื่องความว่องไว ทั้งยังเป็นสัตว์วิญญาณที่มีพลังระดับสายคราม ในขณะที่ลงมือ มู่ชิงเกอเห็นไม่ชัดแม้กระทั่งเงาของมัน ทว่าการที่นางเห็นไม่ชัดก็ไม่ได้หมายความว่ายอดฝีมือจากต่างแดนผู้นั้นจะเห็นไม่ชัดเช่นนาง

ไม่เห็นว่าร่างกายของเขาจะมีการเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย เพียงยกมือขึ้นบังอย่างง่ายดาย มู่ชิงเกอก็ได้ยินเสียงเสือดาวสะท้านเมฆาคำรามออกมาด้วยความเจ็บปวด ร่างกายของมันลอยลิ่วปลิวออกไปอีกฝั่ง พลั่ก!

เสือดาวสะท้านเมฆาหล่นกระทบลงพื้นอย่างรุนแรง

โลหิตพลันพุ่งออกจากปากของมัน

การลงมือครานี้ ราวกับว่าได้เอาชีวิตมันไปแล้วครึ่งชีวิต แต่ก็ยังไม่ทำให้ความโกรธเกลียดเคียดแค้นในแววตาของมันคลายลงแม้แต่เสี้ยวเดียว

“กรรจ์!—ในลำคอของเสือดาวสะท้านเมฆามีเสียงคำรามต่ำๆ ดังขึ้น มันพลันเดินหมุนรอบตัวยอดฝีมือจากต่างแดนราวกับว่ากำลังจะหาโอกาสโจมตี

“ช่างยุ่งยากเสียจริง ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ให้ความร่วมมือกับข้าเสียแล้ว” ใบหน้าของยอดฝีมือต่างแดนฉายแววเหลือทน ราวกับว่าได้ตัดสินใจที่จะลงมือสังหารเสือดาวสะท้านสะท้านเมฆา

ตรงจุดนี้ มู่ชิงเกอดูออก ในขณะเดียวกับเสือดาวสะท้านเมฆาก็ดูออก

ดวงตาทั้งสองของมันแดงก่ำ พลันเกิดแสงประกายสีครามอันแรงกล้าเปล่งประกายรอบตัวของมันอีกครั้ง แสงสีครามส่องประกายนั้น ในทุกครั้งที่มันโจมตีก็พลันหมุนวนดั่งลมพายุสีครามเต็มไปด้วยพลังที่พร้อมจะฉีกกระชากทุกสิ่งทุกอย่างพร้อมพุ่งเข้าหายอดฝีมือจากต่างแดนผู้นั้น

แต่ทว่า การโจมตีอันโหดเหี้ยมนั้น เมื่อกระทบไปยังร่างของยอดฝีมือจากต่างแดนผู้นั้นก็พลันหายไปอย่างไร้ร่องรอย โดยไม่ได้ก่อให้เกิดอะไรขึ้นเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าของยอดฝีมือจากต่างแดนผู้นั้นฉายแววได้ใจมากกว่าเดิม สายตาที่มองเสือดาวสะท้านเมฆาล้วนมีความดูถูกและเยาะเย้ยเพิ่มทวีขึ้น

เสือดาวสะท้านเมฆาส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธและโจมตีแบบไม่คิดชีวีตอย่างต่อเนื่องถึงแม้ว่ามันจะกระจ่างชัดว่าการโจมตีเช่นนี้ไม่ได้ผลเลยแม้แต่น้อย

แกร่ง แข็งแกร่งเกินไปแล้ว !

มันจะแก้แค้นให้กับลูกของตนเองอย่างไร? มู่ชิงเกอที่เก็บซ่อนลมหายใจอยู่ข้างๆ ยิ่งดูก็ยิ่งตกตะลึง ยอดฝีมือจากต่างแดนผู้นี้นำพาความตื่นตระหนกมาให้กับนางได้มากกว่าท่านผู้เฒ่าเป่ยหมิงหลายต่อหลายเท่านัก นางถึงกับรู้สึกว่า หากท่านผู้เฒ่าเป่ยหมิงอยู่ที่นี่ ก็คงจะต้านทานการโจมตีจากเขาผู้นี้ได้เพียงแค่สามครั้งเท่า นั้น!

พลังของ เขาอยู่ในขั้นไหนกันแน่ “พลังของเขาอยู่ในขั้นไหนนั้นไม่สำคัญ แต่ที่สำคัญคือความสามารถของเขาเมื่ออยู่ในหลินชวนนี้ได้ถูกจำกัดให้อยู่เพียงแค่สายม่วงขั้นสูงสุดเท่านั้น” ราวกับว่ากู่หยา รู้ว่ามู่ชิงเกอกำลังคิดอะไรอยู่ จึงอธิบายอย่างใจเย็น

สายม่วงขั้นสูงสุดเชียวรึ?!

มู่ชิงเกอกลืนน้ำลาย พลันพูดเสียงแหบว่า “ถ้าเช่นนั้น สำหรับเขาแล้วการโจมตีใดๆ ของเรา ก็เหมือนเป็นเพียงการเกาให้เขาหายคันเท่านั้นน่ะสิ” ทะลวงการป้องกันของสายม่วงไม่ได้แน่!

“หากจะพูดแบบนี้ก็ไม่ผิด” กู่หยาพยักหน้ายอมรับเรื่องนี้

คิ้วของมู่ชิงเกอขมวดเป็นปมแน่น ครั้งที่แล้วตอนที่นางต่อสู้กับผู้เฒ่าเป่ยหมิง เป็นการใช้โอกาสตอนเผลอในการลอบโจมตี ทำให้เขาไม่ทันระวังตัว นางจึงมีโอกาสทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บได้

วันนี้จะสามารถทำเช่นนั้นได้หรือไม่นะ?

พูดได้ว่า การต่อสู้กับผู้เฒ่าเป่ยหมิงในคราวที่แล้ว ทำให้นางเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาได้ไม่น้อยเลย ไม่นานในหัวของนางก็คิดพิจารณาวิธีการต่างๆ

ใช่แล้ว! ต้องรอให้เขาเผลอ มู่ชิงเกอตัดสินใจเลือกวิธีการครั้งสุดท้าย แต่ว่าคงจะ ต้องให้เสือดาวสะท้านเมฆาตัวนี้ต้องลำบากเป็นตัวล่อเสียแล้ว

หลังจากที่วางแผนเสร็จแล้ว มู่ชิงเกอพลางสังเกตการต่อสู้ของคนและเสือดาวสะท้านเมฆาคู่นี้ พลางเข้าใกล้อย่างไร้เสียงและอำพรางกลิ่นอาย ในชั่วขณะนี้ นางอยากจะชื่นชมคุณตัวประหลาดว่าวิธีการอำพรางกลิ่นอายที่เขาสอนมานั้นมันช่างสุดยอดมากจริงๆ เมื่อใช้มันอย่างสุดความสามารถที่มี กระทั่งตัวนางเองก็แทบจะลืมการมีตัวตนอยู่ของตนเอง!

เพราะฉะนั้น นางเข้าไปใกล้อย่างระมัดระวัง แต่กลับไม่กังวลว่าอีกฝ่ายจะรู้ตัว ตอนนี้นี่เป็นข้อได้เปรียบของนางในตอนนี้!

ไม่นานนักมู่ชิงเกอก็อ้อมไปอยู่ข้างหลังของยอดฝีมือจากต่างแดน สายตาของนางประหนึ่งกำลังประสานกับตาของเสือดาวสะท้านเมฆา

ดวงตาสีทองจ้องมองแววตากระจ่าง ไม่จำเป็นต้องส่งสายตา เสือดาวสะท้านเมฆาก็รู้ถึงจุดประสงค์ของมู่ชิงเกอ มันที่รู้ตัวแล้ว ไม่ได้เตือนยอดฝีมือจากต่างแดนให้รู้ วว่ายังมีอีกคนอยู่ในเหตุการณ์

มันหลุบตาลงตา ราวกับว่าได้ตอบรับคำขอความร่วมมือจากสายตาของมู่ชิงเกอ

ทันใดนั้น มันก็เงยหน้าขึ้นพลันแยกเขี้ยว เผยให้เห็นเหงือกสีแดงเลือดและฟันอันแหลมคม นัยน์ตาของสัตว์ร้ายนั้นฉายแววมุ่งมั่นและพุ่งเข้าหายอดฝีมือจากต่าง แดนอีกครั้ง

ยอดฝีมือจากต่างแดนที่สุดทนกับความดื้อรั้นของเสือดาวสะท้านเมฆา ตอนนี้จึงไม่ทันได้ระวังข้างหลังของตนเอง เพราะกำลังรวบรวมพลังไว้ที่กลางฝ่ามือและตัดสินใจจะสังหารเสือดาวสะท้านเมฆา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version