Skip to content

พลิกปฐพี 94-3

ตอนที่ 94-3

วังหลวงวุ่นวาย บังเกิดคลื่นลม!

สายตาของมู่ชิงเกอพลันมืดดำลงและเต็มไปด้วยความโกรธ มือซ้ายของนางอุ้มฉินอี้เหลียนเอาไว้และพลิกมือขวาทีหนึ่ง ปลอกนิ้วอันงดงามได้กลายเป็นทวนหลินหลง และอยู่ในกำมือของนาง

“ฆ่า! ฆ่าให้หมด” นํ้าเสียงอันเย็นเยียบดั่งมีดดาบดังขึ้น จากริมฝีปากนาง ราวกับเสียงเรียกร้องที่ดังมาจากขุมนรก

กองทหารเขี้ยวมังกรพุ่งตัวออกไปในทันที ต่างก็กระจาย เข้าไปกวาดลางศัตรูทั่วทุกสารทิศ

ทันใดนั้น แสงสีเขียวและสีครามมากมายก็ได้สาดสว่าง ทั่วบริเวณประตูวังหลวง

กองทหารเขี้ยวมังกร ต่างก็เป็นถึงยอดฝีมือสายเขียวและสายครามเชียวหรือ แต่ทว่าอายุของพวกเขานั้น น้อยกว่านักรบแคว้นถูอยู่มาก

ภาพนี้ช่างเป็นภาพที่น่าประหลาดใจ หลายคนยังไม่ทันได้แสดงอาการอันใด ก็ถูกสังหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

มู่ชิงเกอถือทวนหลินหลง ปลายทวนชี้ลงพื้นดินอย่างโหดเหี้ยม

ทันใดนั้น พลังบางอย่างได้แผ่กระจายออกจากปลายทวน ทำให้ศัตรูที่พุ่งตัวมาหานางถูกตีกลับและกลายเป็นกองเลือดกลางอากาศ

ศัตรูนับไม่ถ้วน ยังคงเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย มู่ชิงเกอสั่งมั่วหยางด้วยนํ้าเสียงอันเย็นชาว่า “ใครเข้าใกล้ ฆ่าให้หมด”

มั่วหยางรับคำสั่ง ก่อนจะสั่งให้กองทหารเขี้ยวมังกรรวมตัวกันเป็นวงกลมเพื่อให้มู่ชิงเกอและฉินอี้เหลียนอยู่ตรงกลาง จากนั้นก็สังหารทุกคนที่เข้าใกล้

พลังสายเขียวและครามจำนวน 500 คน ภาพนี้ช่างเป็นภาพที่เหนือจินตนาการ

ทหารนับหมื่นที่ซุ่มโจมตี ต่างก็ไม่สามารถผ่านด่านอันแข็งแกร่งนี้ได้ในทันที

ท่ามกลางความวุ่นวาย มีเพียงบริเวณที่มู่ชิงเกออยู่เท่านั้นที่สงบนิ่ง

“เหลียนเหลียน เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ ข้าช่วยเจ้าไม่ได้” เป็นครั้งแรกที่สายตาของมู่ชิงเกอสาดประกายเจ็บปวด

ข้าไม่สามารถช่วยนางได้! ช่วยไม่ได้!

แม้ว่านางจะมีตำรายาและมีเหมิงเหมิงที่เป็นช่องว่างอันเหนือฟ้า มีอาวุธอย่างทวนหลินหลง มียาเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอที่ยังหลงเหลืออยู่ แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตฉินอี้เหลียนเอาไว้ได้ เพราะหัวใจของฉินอี้เหลียนได้ถูกศรธนูดอกนั้นแทงจนในขณะนี้ที่นางยังมีสติอยู่ เป็นเพราะพลังจิตของมู่ชิงเกอที่คอยคํ้าจุนเอาไว้ การปรากฏตัวของฉินอี้เหลียนผิดไปจากแผนที่วางเอา ไว้ทำใหัมู่ชิงเกอไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป เพราะแม้กระทั่งโอกาสที่จะช่วยชีวิตนางก็ยังไม่มี

“ข้า…ข้าได้ยินฮองเฮาและรัชทายาทบอกว่า…บอกว่าจะฆ่าท่าน…ข้าจึงมา…’’ฉินอี้เหลียนพูดพร้อมรอยยิ้ม สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะที่นางอ้าปากพูดคือเลือดที่ไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย

“ข้ารู้ ข้ารู้ เจ้าไม่ควรมา!” มือที่กอดฉินอี้เหลียนอยู่ ค่อยๆ แน่นขึ้น ความรู้สึกผิดทำให้นางเกิดไอสังหารเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ฉินอี้เหลียนเป็นคนบริสุทธิ์ แต่กลับต้องมาตายเพราะนาง นางควรจะทำอย่างไร?

องค์โหญิงตัวน้อยผู้บริสุทธิ์สดใส ไม่ควรจากไปเช่นนี้…

ฉินอี้เหลียนฝืนยิ้ม ฟันสีขาวถูกโลหิตย้อมจนกลายเป็นสีแดง “เหลียนเหลียน…โชคดี… ที่ได้เจอกับพี่ชาย… แต่ว่าพี่… ชาย… ตอนนี้ข้าง่วงมาก… ง่วงนอนมากๆ เลย…”

ในขณะที่พูด นํ้าตาหยดหนึ่งก็ได้หลุดร่วงลงจากหางตาของนาง

หญิงสาวผู้นี้ กระจ่างเป็นอย่างดีว่าสิ่งที่ตนเองกำลังพบเจอคืออะไร

ทันใดนั้น มู่ชิงเกอพลันรู้สึกว่าทุกอย่างจุกแน่นอยู่ที่คอ จนรู้สึกทรมาน ทรมานจนพูดอะไรไม่ออก จึงพยายามส่งพลังจิตให้กับฉินอี้เหลียนอย่างสุดชีวิต

“พี่ชาย… ช่างน่าเสียดาย…ที่เหลียนเหลียน…ไม่สามารถร่ายรำ…ไปกับพี่ชายได้อีกแล้ว…เหลียนเหลียนฝึกซ้อมมานาน…มาก” ตาดวงโตและแสนบริสุทธิ์ของฉินอี้เหลียน แฝงความรู้สึกเสียดาย และมองมู่ชิงเกอด้วยสายตาที่อาลัย

‘ข้าควรทำอย่างไร?’ มู่ชิงเกอยังคงไม่หยุดที่จะถามคำถามนี้กับตนเอง

‘เหมิงเหมิง! เจ้าสามารถช่วยชีวิตของนางเอาไว้ได้หรือไม่’ ท่ามกลางความสิ้นหวัง นางทำได้เพียงทิ้งความหวังทั้งหมดเอาไว้ที่เหมิงเหมิง

เสียงของเหมิงเหมิงดังขึ้นภายในจิตใต้สำนึกของนางอย่างรวดเร็วในใจ แต่ทว่า นี่ไม่ใช่คำตอบที่นางต้องการ

‘เสียใจด้วยเจ้านาย หัวใจของนางแตกสลายไปแล้ว ถึงแม้เจ้านายคนเก่าของข้ายังอยู่ก็ไม่สามารถช่วยนางได้ หากจะฝืนให้นางอยู่ต่อ ก็ต้องใช้ทักษะในการเชิดหุ่น เพื่อกลายสภาพของนางให้เป็นหุ่นเชิดเสีย”

หุ่นเชิดอย่างนั้นหรือ? เป็นเพียงเปลือกที่ว่างเปล่า ไม่มีความรู้สึกนึกคิดและไม่มีจิตวิญญาณ มันปวดร้าวมากกว่าการตายเสียอีก

นางจะยอมให้ฉินอี้เหลียนตกอยู่ในสภาพเช่นนั้นได้อย่างไร?

มู่ชิงเกอค่อยๆ หลับตาทั้งสองข้างลง เม้มริมฝีปากอย่างช้าๆ พลางพูดเบาๆ ว่า “เหลียนเหลียน เจ้ามีความปรารถนาอันใดหรือไม่”

มู่ชิงเกอไม่สามารถห้ามการจากไปของเหลียนเหลียนได้ แต่สามารถทำให้นางจากไปอย่างมีความสุขมากที่สุดได้

“ความปรารถนาหรือ…ความปรารถนาของเหลียน… เหลียนมีเยอะมากเลยนะ…แต่ว่าความปรารถนาอันสูง… สุดของเหลียนเหลียน…คือการเป็นภรรยาของพี่ชาย แต่…ตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้แล้ว” ฉินอี้เหลียนพูดพร้อมรอยยิ้ม ในแววตาเหมือนกำลังตกอยู่ในห้วงความคิด

มู่ชิงเกออี้ง คำตอบของฉินอี้เหลียน เหนือความคาดหมายของนางแต่ก็พอเข้าใจได้

ก็ตอนนี้ ร่างของนางเป็นชายหนุ่มนี่นา!

รอยยิ้มในใจ ค่อยๆ จืดจางลงไป

มู่ชิงเกอฝืนยิ้ม เบิกตาทั้งคู่ พลางก้มลงมองนางพูดด้วยนํ้าเสียงอันเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักความเอ็นดู และความอบอุ่น “ได้ ถ้าเช่นนั้น ข้าจะแต่งงานกับเจ้า”

“จริงหรือ?” ดวงตาของฉินอี้เหลียนเปล่งเป็นประกาย ฉายแววความน่าเย้ายวน

มู่ชิงเกอรับคำ ก้มหน้าลงแตะริมฝีปากลงจูบกลางหน้าผากของนางอย่างแผ่วเบา

รอยจูบที่เติมไปด้วยความอาลัย ทำให้ฉินอี้เหลียนเผยรอยยิ้มอันน่าประทับใจ “ข้ามีความสุขมาก… ขอบคุณนะพี่ชาย” นางค่อยๆ หลับตาลงด้วยความพอใจ มือคู่เล็กที่กำแขนเสื้อของมู่ชิงเกอไว้แน่น ค่อยๆ คลายออกอย่างไร้เรี่ยวแรง

พลังจิตที่มู่ชิงเกอพยายามส่งให้ฉินอี้เหลียนอย่างบ้าคลั่ง ราวกับการถมก้อนหินลงในมหาสมุทรอย่างนั้น มันไม่เกิดผลเลยแม้แต่น้อย

ฉินอี้เหลียนต้องจากไปเช่นนี้จริงๆ หรือ?

องค์หญิงที่คอยตื๊อให้นางกินลูกอม ร่ายรำให้นางดู สอนนางเล่นว่าว จะต้องจากไปเช่นนี้จริงๆ หรือ

ในใจของมู่ชิงเกอมีความรู้สึกหนึ่งที่ยากจะอธิบายเกิดขึ้นและได้แปรเปลี่ยนเป็นเปลวเพลิงแห่งความโกรธแค้นอันมหาศาล

นางวางร่างของฉินอี้เหลียนลงเบาๆ ลุกขึ้น พร้อมกับกำทวนหลินหลงไว้แน่น

เมื่อรับรู้ถึงความเคลื่อนไหวของนาง มั่วหยางรีบเคลื่อนตัวเข้ามาหานาง ร่างกายของเขามีแสงลีครามเข้มส่องสว่างอยู่

“คุณชาย!”

“อย่าให้นางได้รับบาดแผลใดๆ อีก” มู่ชิงเกอสั่งด้วยนํ้าเสียงอันสงบนิ่ง ใบหน้าอันงดงามเยือกเย็นจนไม่กล้ามองด้วยตาเปล่า

มั่วหยางพยักหน้านิ่งๆ ถอยเข้าไปปกป้องร่างไร้วิญญาณของฉินอี้เหลียนด้วยตัวเอง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version