Skip to content

พลิกปฐพี 94-5

ตอนที่ 94-5

วังหลวงวุ่นวาย บังเกิดคลื่นลม!

ในขณะที่มู่ชิงเกอโยนร่างไร้หัวใจลงบนพื้นอย่างไร้ความรู้สึก องครักษ์เขี้ยวมังกรก็ได้สังหารคนอื่นๆ จนหมดแล้ว และกลับมารวมตัวกันรอบๆ ตัวนาง

มั่วหยางยื่นผ้าเช็ดหน้าสีขาวสะอาดผืนหนึ่งให้กับมู่ชิงเกอ มู่ชิงเกอรับมาเช็ดคราบโลหิตที่ติดบนนิ้วชี้ของตนเองออก

รอบตัวพวกเขาเต็มไปด้วยร่างไร้วิญญาณกองเป็นภูเขา การซุ่มโจมตีของคนนับหมื่น ไม่เพียงแค่ไม่สำเร็จ แต่ทว่ายังถูกสังหารทั้งหมด โดยไม่สามารถแตะองครักษ์เขี้ยวมังกรได้เลยแม้แต่ปลายเล็บ

ในระหว่างที่มู่ชิงเกอเช็ดมือ มั่วหยางก็พลางสังเกตสถานการณ์โดยรอบและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “หากพวกเขามีโอกาสได้ใช้ธนูก่อน แม้ฉากจบอาจจะยากที่จะเปลี่ยนแปลง แต่ก็คงสร้างความลำบากให้เรามากกว่านี้”

“เพราะพวกเขามั่นใจในกำลังคนหมื่นคนนี้ว่าจะสามารถสังหารเราได้อย่างง่ายดาย” มู่ชิงเกอทิ้งผ้าเช็ดมือที่เปื้อนเลือดลงพื้น ลงจากหลังม้าและเดินเข้าไปหา ฉินอี้เหลียน

มั่วหยางคุ้มกันนางได้เป็นอย่างดี นางไม่ได้รับอันตรายอันใดเพิ่มจากเดิมอีกและสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆ ก็ไม่ได้ทำให้ร่างกายของนางแปดเปื้อนเลยแม้แต่น้อย

เพิ่งจะนั่งลงและกอดร่างของฉินอี้เหลียนไว้ในอ้อมแขน มู่ชิงเกอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาจากประตูวังหลวงที่ผุพัง

องครักษ์เขี้ยวมังกรเตรียมพร้อมในทันที มู่ชิงเกอเองก็หันกลับไปมอง

เมื่อเห็นชุดสีเหลืองนวลอันคุ้นเคย ความเยือกเย็นในสายตาของนางก็ค่อยๆ หายไป พลางสั่งให้องครักษ์ เขี้ยวมังกรถอยออกไป

“เหลียนเหลียน————- !” เพียงสายตาเดียว ฉินจิ่นเฉินก็มองเห็นฉินอี้เหลียนที่อยู่ในอ้อมกอดของมู่ชิงเกอ

ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็ซีดลงราวกับจะจากโลกนี้ไป ได้ในทุกวินาที เขาเดินเข้ามาใกล้อย่างโซซัดโซเซ โดยมีชายชราผมขาวคนหนึ่งคอยพยุง

เมื่อเห็นว่าใบหน้าของฉินอี้เหลียนยังคงรอยยิ้มเอาไว้ เขาก็หลับตาทั้งคู่ลงอย่างปวดใจ กล่าวโทษตนเองว่า “ข้ามาช้า มาช้าเกินไป”

เขาจมอยู่ในความทุกข์ทรมานเพราะการตายของฉินอี้เหลียน แต่ชายวัยชราที่อยู่ข้างๆ เขากลับตกใจเพราะร่างไร้วิญญาณที่กองเป็นภูเขาอยู่รอบๆ และองครักษ์เขี้ยวมังกรที่เป็นดั่งเทพแห่งความตาย

มู่ชิงเกออุ้มร่างของฉินอี้เหลียนขึ้นมา แล้วจึงส่งให้กับฉินจิ่นเฉิน “พานางออกไปก่อน หลังจากที่เรื่องทั้งหมดจบลงแล้ว กระหม่อมจะไปรับตัวนาง”

ฉินจิ่นเฉินเงยหน้าขึ้นมองนาง นัยน์ตาขาวและดำที่แยกออกจากกันอย่างชัดเจนแฝงความปวดร้าว ราวกับกำลังคิดอะไรอยู่

“กระหม่อมรับปากกับเหลียนเหลียนว่าจะแต่งงานกับนาง” มู่ชิงเกออธิบาย

สายตาของฉินจิ่นเฉินแฝงความตื่นตระหนก แต่ทว่า เพียงเสี้ยววินาทีก็กลับสู่ความนิ่งสงบดั่งเดิม เขาพูดกับคนข้างๆ ว่า “ท่านอาจารย์สั่งคนให้พาองค์หญิงหย่งฮวนกลับตำหนักเสียนอ๋อง จากนั้นให้ไปรับอวิ๋นเฟยตามไปด้วย ท่านพาคนที่เหลือตามคุณชายไปและรอฟังคำสั่งจากเขา”

มู่ชิงเกอกวาดสายตามองเขาและมิได้ปฏิเสธในแผนการของเขาแต่อย่างใด

นางเดาออกว่า ชายผมขาวผู้นี้คือยอดฝีมือของฉินจิ่นเฉินและก็เป็นท่านที่แอบปกป้องนางระหว่างทางที่นางกลับเมืองอี้

นางรู้ว่า ในตอนแรกฉินจิ่นเฉินเพียงแค่จะเฝ้าดูสถานการณ์อยู่ห่างๆ แต่ทว่า การตายของฉินอี้เหลียน ทำให้เขาเปลี่ยนใจ การที่มีท่านอาจารย์ตามมาด้วย เป็นการบ่งบอกว่าเขาจะเข้ามามีส่วนร่วมกับเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ

ร่างไร้วิญญาณของฉินอี้เหลียน จากไปพร้อมฉินจิ่นเฉิน มู่ชิงเกอสั่งองครักษ์เขี้ยวมังกรให้จัดการกับสนามรบให้เรียบร้อยโดยไวที่สุด แล้วจึงให้มั่วหยางส่งสัญญาณที่นัดพบกับรุ่ยอ๋อง

“ท่านอาจารย์” อยู่ๆ มู่ชิงเกอก็ได้เรียกขึ้น

ชายชราผมขาวเดินเข้ามาหานางในทันที

นางมองเขาและพูดอย่างแนบนิ่งว่า “ขอให้ท่านพาคนของเสียนอ๋องไปติดตามสถานการณ์ของรัชทายาทและฮองเฮา เพื่อไม่ให้พวกเขาไหวตัวทันและหนีไปได้ คนพวกนี้ข้าให้พวกเขาตายเป็นเพื่อนหย่งฮวน”

คำสั่งอันเยือกเย็น ทำให้ท่านอาจารย์อดไม่ได้ที่จะมองนางครู่หนึ่งแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

เขาเพียงแต่พยักหน้าและเขาก็พากำลังคนออกไป

ท่านอาจารย์เพิ่งจะพากำลังคนออกไป ฉินจิ่นห้าวที่อยู่ในชุดเกราะสีรัตติกาลก็พาคนของตนเองปรากฏตัวขึ้น

เขานั่งอยู่บนหลังม้า มองบริเวณประตูวังหลวงที่เต็มไปด้วยคราบเลือด นัยน์ตาฉายความตกใจอย่างอดไม่ได้ ในตอนนี้ไม่มีศพเลยแม้แต่ศพเดียว แต่จากคราบโลหิตพวกนี้แล้ว แน่นอนว่าต้องมีสงครามอันโหดเหี้ยมเกิดขึ้นเป็นแน่

แต่ทว่า มู่ชิงเกอกลับนั่งอยู่บนหลังม้าโดยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ไม่เพียงแค่นาง รวมทั้งคนของนาง ต่างก็ไม่มีบาดแผลอะไรเลยแม้แต่น้อย ทักษะการสงครามอันโหดเหี้ยมนี้ ทำให้เขาทั้งตกใจและอิจฉาเป็นอย่างมาก

แต่ทว่า สำหรับเรื่องในคํ่าคืนนี้ ทำให้เขามั่นใจในชัยชนะมากขึ้นกว่าเดิม

“ชิงเกอ เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม เจ้าวางใจเถอะ หากข้าขึ้นสู่บัลลังก์ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าเอง” ฉินจิ่นห้าวเก็บความรู้สึกทุกอย่างไว้ในใจ แล้วจึงรับปากกับมู่ชิงเกอ

มู่ชิงเกอกระตุกยิ้ม “เพื่อการใหญ่ของรุ่ยอ๋อง แค่นี้ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร” คำพูดนี้ ทำให้ฉินจิ่นห้าวราวกับได้มู่ชิงเกอคนเดิมกลับคืนมาอีกครั้งและราวกับว่า ปฏิกิริยาเช่นนี้จากมู่ชิงเกอจึงจะถูกต้อง เขาพยักหน้าอย่างพอใจ แล้วจึงสั่งกำลังคนเข้าโจมตีวังหลวง

ในยามค่ำคืน ความเงียบถูกทำลาย

ภายในวังหลวง ตกอยู่ท่ามกลางความวุ่นวาย

ในตำหนักฉือเสียง ประตูตำหนักถูกปิดสนิท

ไทเฮาที่ควรจะเข้าบรรทมแล้วในตอนแรก แต่ตอนนี้กลับประทับนั่งอยู่บนเก้าอี้ หมุนลูกประคำในมือไม่หยุด พระเนตรทั้งคู่หลับสนิท ในโอษฐ์ราวกับกำลังท่องอะไรบางอย่าง

ในตำหนักอันกว้างขวางและว่างเปล่า ได้ยินเสียงความวุ่นวายจากข้างนอกเป็นพักๆ

มามา*ยืนอยู่ข้างไทเฮา สีหน้าแฝงความตื่นตระหนก พูดอย่างไม่สบายใจว่า “พระองค์ พระองค์จะทรงไม่ออกไปหรือเพคะ ตอนนี้ฮ่องเต้ทรงประชวรหนัก หาก พระองค์ยังคงเงียบอยู่เช่นนี้ แคว้นฉินคงจะลุกเป็นไฟ”

พระพักตร์ของไทเฮาฉายแววเคร่งขรึม พระหัตถ์ที่นับลูกประคำอยู่หยุดลงอย่างกะทันหัน ค่อยๆ ลืมพระเนตรขึ้น พลันพูดด้วยนี้าเสียงอันโหดเหี้ยมว่า “พวกเขาจะก่อเรื่องก็ปล่อยเขา ข้าก็อยากจะรู้ว่า ระหว่างพวกเขาใครกันแน่ที่เหมาะสมกับการครองบัลลังก์มากที่สุด”

“แต่ตอนนี้ ฮ่องเต้ยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่มิใช่หรือเพคะ” มามารีบกล่าว

ไทเฮาเก็บสายตาอย่างโหดเหี้ยมและไม่พูดอะไรอีก

นางไม่ได้โง่และการที่ฮองเฮาไม่ยอมให้ใครเข้าเฝ้า ฮ่องเต้นั้นหมายความว่า เวลาของฮ่องเต้เหลือน้อยเต็มทีแล้ว ในตอนนี้หากนางเข้าไปยุ่ง จะไม่เป็นผลดีกับทั้ง สองฝ่าย

เพราะฉะนั้น ในสถานการณ์เช่นนี้ สังเกตการณ์ความเปลี่ยนแปลงทุกอย่างห่างๆ เช่นนี้จะดีกว่า

เพราะไม่ว่าจะเป็นใครที่ได้ครองอำนาจ นางก็ยังคงเป็น ไทฮองไทเฮา ความจริงประการนี้ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนได้

สายพระเนตรของพระนาง ฉายแววเฉียบขาด

(มามา แปลว่า นางกำนัลส่วนตัวของไทเฮา)

การเลือกเช่นนี้ของพระนาง ช่างตรงกับคำโบราณที่ว่า ‘ในวังหลวงไม่มีญาติมิตรที่แท้จริง’ เสียจริงๆ ภายในตำหนักอันลึกลํ้านี้จิตใจของทุกคนต่างถูกบิดเบือนและสนใจแต่ตนเองและอำนาจของตนเองเพียงเท่านั้น

เมื่อรับรู้ถึงการตัดสินใจของไทเฮาจากคำพูด มามาก็ทำได้เพียงถอนหายใจและถอยไปอยู่ข้างๆ อย่างเงียบๆ

ไม่นาน นอกตำหนักฉือเสียงก็ได้ถูกทหารเฝ้าเอาไว้ คนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า ไม่เพียงแค่ตำหนักฉือเสียง แต่หลายตำหนักของบุคคลสำคัญก็ถูกควบคุมไว้เช่นเดียวกัน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version