Skip to content

ราชินีพลิกสวรรค์ 255

ตอนที่ 255

แผนการของเจียงเฮ่า

แน่นอนว่าเจียงหลีไม่รู้เรื่องที่เฟิงสิงอวิ๋นไปพบลู่เจี้ย

หลังจากกลับมาที่สถาบัน คนที่นำราชโองการมากลับไปแล้ว ส่วนราชโองการยังอยู่ ตอนที่เจียงหลี มาถึง ลู่เสวียนและเจียงเฮ่าตกใจเบิกตาโต พวกเขามองราชโองการที่วางบนโต๊ะ

เมื่อเห็นเจียงหลีกลับมาแล้ว ทั้งสองก็ลุกขึ้นพร้อมกันแล้วดาหน้าเข้าไปหานาง

“ซ้อเล็ก เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม”

“อาหลี เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”

ทั่งสองถามอย่างเป็นห่วง

เจียงหลีส่ายหน้า “ข้าไม่เป็นอะไร”

หลังจากปลอบสองคนนั้นแล้ว สายตาของนางก็เหลือบไปเห็นราชโองการที่วางบนโต๊ะ

สายตาที่รู้สึกถึงสิ่งนั้นของนาง เจียงเฮ่าจึงพูดเจียงทุ้ม “คนอ่านราชโองการรอไม่ไหวจึงกลับไปก่อน อาหลี ฮ่องเต้ซีเฉียนผู้นี้ ทำไมจู่ๆ ถึงจัดงานเลี้ยงให้เจ้า”

“ราชโองการว่าอย่างไรบ้าง” เจียงหลีเชิดคางแหลมขึ้น

ไม่รอให้เจียงเฮ่าพูด ลู่เสวียนก็รีบแทรกขึ้นมาก่อน “ราชโองการบอกว่า เจ้าเป็นผู้มีพรสวรรค์หายาก เขาดีใจแทนสถาบนไป๋หยวนที่มีคนมีพรสวรรค์เช่นนี้ ความสำเร็จของเจ้าไม่เพียงแต่ส่งผลให้สถาบันไป๋หยวนเท่านั้น แต่ยังทำให้ซีเฉียนมีชื่อเสียงอีกด้วย ตังนั้นก็เลยจัดงานเลี้ยงฉลองให้กับเจ้า”

เจียงหลียกยิ้มมุมปาก “เรื่องใหญ่ขนาดนี้ถูกเปิดเผยแล้ว”

“อาหลี เจ้ารู้เรื่องภายในมาใช่ไหม รัชทายาทซีเฉียนพาเจ้าไปด้วยเรื่องอะไร” เจียงเฮ่าถามอย่างเป็น ห่วง

เหตุผลก็คือการติดตามน้องสาวของเขา เขาสามารถทำหน้าที่ของพี่ชายในการปกป้องนางได้ อย่างไร ก็ตามหลังจากช่วงเวลานี้ เจียงเฮ่าพบว่าน้องสาวของเขาเติบโตอย่างรวดเร็วเกินเอื้อม ความปรารถนา ของเขาที่จะปกป้องน้องสาว ดูเหมือนจะอยู่ไกลออกไป

ความรู้สึกนี้ทำให้หัวใจของเขาสับสนและเจ็บปวด

โดยเฉพาะวันนี้ เขารู้ว่ารัชทายาทซีเฉียนให้คนมาตามเจียงหลีไป เขาก็กังวลใจอีกครั้งแต่ก็ทำได้เพียง รอคอยอยู่ที่นี่ ไม่มีประโยชน์เลยสักนิด

“อาหลี พี่ชายเจ้ามันไม่ได้เรื่อง” เจียงเฮ่ารู้สึกผิดมาก

เจียงหลีอ้าปาก กลืนคำพูดที่กำลังจะพูดลงไป “ทำไมถึงไม่ได้เรื่องล่ะเจ้าคะ”เดิมทีนางไม่อยากบอก เรื่องนี้ให้สองคนที่อยู่ตรงหน้าได้ยิน เกรงว่าพวกเขาจะวู่วามหลงกลเข้าไปในแผนของฮ่องเต้ซีเฉียน

แต่คำพูดของเจียงเฮ่ากลับให้นางตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงภายในจิตใจของพี่ชาย

“พี่ปกป้องเจ้าไม่ได้ ช่างไร้ประโยชน์” เจียงเฮ่าก้มหน้า

เจียงหลีเอ่ยยิ้มๆ “พี่ชายข้าเป็นถึงว่าที่หลิงหวง ทำไมถึงจะไม่มีประโยชน์”

เจียงเฮ่ายกยิ้มแต่รอยยิ้มนั้นดูฝืนๆ

เจียงหลียกมือขึ้นแตะหน้าอกเขา “ปลุกจิตวิญญาณขึ้นมา ข้ารอวันที่พี่ได้ขึ้นเป็นหลิงหวง ให้ข้าได้โอ้ อวดเต็มที่”

เจียงเฮ่าเงยหน้าขึ้นมองน้องสาว

ดวงตาที่สดใสคู่นั้น แววตาที่จริงใจและเชื่อใจ เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพยักหน้าหนักแน่น “อาหลี วางใจเถอะพี่จะพยายามฝึกฝนได้ขึ้นเป็นหลิงหวงโดยเร็วที่สุด!”

“ได้!” เจียงหลียิ้ม

“นี่ พวกเจ้าสองพี่น้องช่วยหยุดอารมณ์อ่อนไหวก่อนได้ไหม พูดเรื่องสำคัญสิ” ลู่เสวียนมองอย่างนึก อิจฉา

ทำไมพี่ชายบ้านอื่นถึงได้ดีอย่างนี้ ทำไมพี่ชายเขาถึงชอบหลอกใช้เขานัก

เจียงเฮ่ารีบเอ่ยขึ้น “ใช่ พูดเรื่องสำคัญดีกว่า อาหลี รัชทายาทตามหาเจ้าเพราะอะไร”

เจียงหลีมองเห็นถึงความจริงใจของทั้งสองก็ไม่คิดปิดบังอีก เล่าให้พวกเขาฟังเกี่ยวกับการสมรู้ร่วมคิด ในงานเลี้ยงและแผนการของรัชทายาท

“เจ้าเฉียนจวิ้นไร้ยางอายจริงๆ ฮ่องเต้ซีเฉียนก็ป่าเถื่อน” ลู่เสวียนพูดอย่างกรุ่นโกรธ

เจียงเฮ่าขมวดคิ้วแล้วถามอย่างเคร่งเครียด “อาหลี เจ้าคิดจะทำอย่างไร งานเลี้ยงนี่ไม่ต้องไป พวกเรา จะไม่ให้โอกาสเขาได้เปิดปาก”

“ไป ต้องไปแน่นอน” เจียงหลีพูดอย่างหนักแน่น

“ซ้อเล็ก พี่เฮ่าพูดถูก เจ้าไปแล้วก็เหมือนเปิดโอกาสให้ฮ่องเต้ซีเฉียนได้พูด เจ้าไม่ไป เราค่อยหา เหตุผลมาอ้าง เขาก็ทำอะไรไม่ได้ ถึงอย่างไรเราก็ไม่ใช่คนซีเฉียน แม้จะเป็นถึงฮ่องเต้ก็ไม่มีสิทธิ์ทำ กับเราเช่นนี้” ลู่เสวียนเอ่ยเตือนเช่นกัน

“การหนีปัญหาไม่สามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้ อีกอย่างยังให้พวกเขาได้คิดแผนการต่อ เขากล้าเอ่ยขึ้นมา ข้าก็จะปฏิเสธต่อหน้า ดูสิว่าใครจะก้าวขาลงยากกว่ากัน” เจียงหลีหัวเราะอย่างนึกสนุก

“เรื่องนี้นอกจากให้เขาเปลี่ยนใจคิดปล่อยเจียงหลี เช่นนั้นก็มีเพียงล้มราชวงศ์ซีเฉียนเท่านั้นถึงจะถอน รากถอนโคนได้” เจียงเฮ่าเอ่ยเสียงเรียบ

เขาเงยหน้ามองเจียงหลีแต่กลับเจอรอยยิ้มในดวงตาของนางที่เฉียบคม

“ใช่ โค่นราชวงศ์ซีเฉียน แต่ทำชั่วข้ามคืนไม่ได้ ข้าไปก็เพี่อแสดงท่าที ไม่อยากให้คนนอกคิดว่าคน ของราชวงศ์จยาเชียนอย่างเราเกรงกลัวราชวงศ์ซีเฉียนอย่างพวกเขา” เจียงหลียิ้มเย็นชา

ตอนนี้ราชวงศ์จยาเชียนอยู่ในแผ่นดินหนานฮวง ชื่อเสียงก้องไกล แต่ยังอันตรายมิต่างอะไรกับการเอา ก้อนหินออกจากกองไฟ

ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้นางจะต้องไม่ให้โอกาสราชวงศ์ซีเฉียนในการโจมตีราชวงศ์จยาเชียน!

“เช่นนั้น อีกสามวันข้าจะไปกับเจ้า” ลู่เสวียนพูดตามตรง

“ไม่กี่วันนี้ ข้าจะไปเจรจากับเฉียนจวิ้นสักหน่อย” จู่ๆ เจียงเฮ่าก็เอ่ยขึ้นอยากเยือกเย็น

เจียงหลีขมวดคิ้ว “พี่จะทำอะไร”

เจียงเฮ่ายกยิ้ม “ไม่ได้ทำอะไร ในสถาบันสามารถไปท้าทายบนสังเวียนได้มิใช่รึ ข้าจะไปประลองกับ องศ์ชายรองสักหน่อย”

“อุบ ฮ่า!” เจียงหลีอดหัวเราะไม่ได้ “อย่าตีจนตายล่ะ”

เฉียนจวิ้นเป็นหลิงเจี้ยงทักษะประเภทช่วยเหลือ จะไปเป็นคู่ต่อสู้บนสังเวียนกับเจียงเฮ่าได้อย่างไร

“ได้” เจียงเฮ่าพยักหน้าแล้วเดินออกไป

ลู่เสวียนก็รีบวิ่งตามเขาไป

เจียงหลีไม่ได้ออกไปด้วย นางหยิบหนังสือราชโองการขึ้นมา ไม่เปิดอ่านแล้วโยนทิ้งเข้าเตาไฟในห้อง ทันที

“องค์ชาย อีกสามวัน องค์ชายจะทูลเรื่องอภิเษกต่อหน้าธารกำนันจริงๆ หรือเพคะ” โจวยวนรีบตาม ขึ้นมาประกบข้างกายเฉียนจวิ้น

เฉียนจวิ๋นคิดว่านางกำลังหึงจึงเผยรอยยิ้มโอบนางเข้าหาอ้อมกอด “อีม แต่เจ้าไม่ต้องห่วง นี่เป็นเพียง แผนการช่วงหนึ่งเท่านั้น รอข้าขึ้นครองบัลลังก์เมื่อไหร่ก็จะถึงคราวตายของเจียงหลีแน่ แล้วเจ้าก็จะได้ เป็นสนมแสนรักของข้า”

สนมแสนรัก แต่หาใช่ฮองเฮาไม่ เพียงเพราะสถานะของโจวยวนตอนนี้ที่ยังไม่คู่ควร

โจวยวนอิงแอบอ้อมอกของเฉียนจวิ้น แววตาหมองหม่นเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “องค์ชายไม่ต้อง กังวล ถึงอย่างไร ยวนเอ๋อร์เป็นคนคิดแผนการนี้เอง แม้จะยังรู้สึกเศร้า แต่ก็ไม่อยากให้พระองค์พลาด เรื่องสำคัญ แต่ยวนเอ๋อร์มีคำขอเล็กๆ น้อยๆ ได้หรือไม่เพคะ”

นางเงยหน้าขึ้น แววตาที่หมองหม่นเปลี่ยนเป็นอ้อนวอน “งานเลี้ยงอีกสามวัน ยวนเอ๋อร์ไปได้หรือไม่ เพคะ”

“ไป ต้องไปแน่นอน ยวนเอ๋อร์อยากไปข้าก็จะพาเข้าวังเอง” ท่าทางของนางทำเอาเฉียนจวิ้นคันยุบยิบ ในใจทนไม่ไหว และกำลังจะประทับริมฝีปากอบอุ่น กลับได้ยินเสียงเรียกชื่อดังมาจากสังเวียนในสถาบัน

“เจียงเฮ่าท้าทายเฉียนจวิ้น เฉียนจวิ้นจะตกลงท้าทายหรือไม่”

เฉียนจวิ้นขมวดคิ้วผละออกจากโจวยวน

โจวยวนรีบเอ่ยขึ้น “พระองค์เป็นประเภททักษะช่วยเหลือ เจียงเฮ่าคนนั้นเป็นประเภททักษะโจมตี พระองค์อย่าไปเลยเพคะ”

“ไม่ต้องไปอย่างนั้นหรือ” เฉียนจวิ้นมีสีหน้าดุดันขึ้นมา “หากข้าไม่ไป คนทั้งโลกก็จะคิดว่าข้ากลัว เขาน่ะสิ!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version