Skip to content

ฤทัยเทวา 10

Cover Rt For Web

Chapter 10

ตกน้ำ!

“มหินธา! เจ้าคนเขลาเบาปัญญา หากเจ้าไม่ใช่น้องของข้าล่ะก็…ข้าคงฆ่าเจ้าเสียให้หายแค้น!” มหิศวรตวาดลั่น หน้าตาถมึงทึง แววตาเกรี้ยวกราดดุดัน

“พี่มหิศวร ได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วยเถิด” มหินธาละล่ำละลักพูด ตัวสั่นเทารีบคลานเข้าไปกอดขาพี่ชาย มหิศวรมองน้องชายอย่างคลั่งแค้น “ข้าส่งเจ้าไปรับใช้ไอ้ราชาพนมไพศาลเพื่อให้เจ้าหาโอกาสขโมยมณีนพเก้าจากมัน ข้าอุตส่าห์ช่วยเจ้าทุกอย่าง ช่วยขจัดขวากหนามต่างๆ ให้แก่เจ้า จนเจ้าได้เป็นถึงปุโรหิต อีกเพียงแค่นิดเดียวแท้ๆ เจ้าก็จะสามารถขโมยมณีนพเก้าจากมันได้แล้ว แล้วเหตุใดเจ้าจึงกระทำนอกเหนือคำสั่งของข้า ก่อการกบฎยึดอำนาจ แล้วดูซิ! ทุกอย่างพังพินาศหมดแล้ว!”

มหินธาตัวสั่นงันงกรีบพร่ำขอโทษ “ข้าขออภัย ข้าผิดไปแล้วพี่มหิศวร ทั้งหมดเป็นเพราะไอ้หมื่นหาญจ้ะพี่ มันยุยงให้ข้าทำเช่นนี้จ้ะ มันว่าหากข้าเป็นราชาแล้ว ข้าก็จะได้ครอบครองทุกสิ่งทุกอย่างรวมทั้งมณีนพเก้าที่พี่ต้องการด้วยจ้ะ”

เขารีบโยนความผิดไปให้ผู้อื่น ขอเพียงแค่พี่ชายให้อภัย ต่อให้ต้องกล่าวโทษใครเขาทำได้

“ไอ้น้องโง่เขลา!” มหิศวรตวาดใส่พร้อมกับสะบัดขาออกจากการเกาะกุมของน้องชาย พร้อมกับใช้ขุมพลังมหาศาลยกร่างของมหินธาขึ้นไปลอยคว้างอยู่กลางอากาศ

“เหวอ…พี่มหิศวร…ได้โปรดปล่อยข้าลงไปเถิด ข้ากลัวแล้ว อย่าทำอะไรข้าเลย ได้โปรด…” มหินธาร้องลั่น ไหว้ประหลกๆ อย่างหวาดกลัว มหิศวรตวัดมือขึ้นๆ ลงๆ ทำให้ร่างของมหินธาลอยขึ้นๆ ลงๆเช่นกัน

“เหวอ…พี่มหิศวร! ได้โปรดอภัยให้ข้าด้วยเถิด” มหินธาพร่ำขออภัย มหิศวรตวาดใส่อย่างโกรธจัด “ไอ้น้องโง่!…แล้วเป็นเช่นไรล่ะห๊า! เจ้าจะฆ่าไอ้ราชาพนมไพศาลกับเจ้าชายก็ยังทำพลาด ถึงเจ้าฆ่าพวกมันได้ เจ้าคิดหรือว่าราชาอัคนีแห่งหิรัญคีรีจะปล่อยให้เจ้ารอดไปได้ มันเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับเจ้าชายวัชระมันจะต้องตามล้างแค้นให้น้องร่วมสาบานของมันแน่ ถ้าหากว่าข้าต้องการยึดอำนาจเป็นราชาแห่งพนมนคร ข้าคงกระทำไปนานแล้ว ไม่ต้องยุ่งยากส่งเจ้าไปเป็นขี้ข้าไอ้ราชาพนมไพศาลหรอก แค่ราชาไร้น้ำยานั่นข้าจะฆ่ามันเสียก็ง่ายเพียงแค่พลิกฝ่ามือ แต่ที่ข้าต้องอดทนรอมาหลายปีเช่นนี้ก็เพราะข้าไม่ต้องการจะสู้รบกับไอ้ราชาอัคนี แค่เจ้าลักมณีนพเก้ามาเสียโดยที่พวกมันจับมือใครดมไม่ได้ ทุกอย่างก็จะเป็นไปตามแผนอย่างที่ข้าวางไว้ แต่นี่เจ้าทำเสียแผนหมดสิ้นแล้ว เจ้าจะให้ข้าทำเช่นไรกับเจ้าดี มันถึงจะสาสมกับความโง่เขลาเบาปัญญาของเจ้าห๊า! มหินธา!”

มหินธาตัวสั่นงกๆ รีบพร่ำบอกอย่างหวาดกลัว “ขอโอกาสให้ข้าได้แก้ตัวเถิดนะพี่ จะให้ข้าทำอะไรข้ายอมทั้งนั้น ได้โปรดอภัยให้ข้าเถิด พี่มหิศวรอภัยให้ข้าด้วยเถิดนะพี่จ๋า”

มหิศวรมองน้องชายอย่างสมเพช “เห็นแก่ที่เจ้าเป็นน้องของข้า ข้าจะอภัยให้เจ้าสักครั้ง แต่เจ้าจะต้องกลับไปหาทางลักมณีนพเก้ามาให้ได้ หากเจ้าทำไม่สำเร็จ…ข้าจะฆ่าเจ้าทิ้งเสีย”

แล้วเขาก็ปล่อยน้องชายลงสู่พื้น พลั่ก!

“โอ๊ย!” มหินธากระแทกพื้นจุกจนร้องไม่ออก แล้วมหิศวรก็หันไปหยิบไม้เท้าสีดำสนิทจากแท่นบูชาเจ้าแม่กาลีพลางชี้ไม้เท้าไปที่ร่างของน้องชาย “ข้าจะแปลงกายให้เจ้าเป็นนางกำนัลเพื่อที่เจ้าจะได้ลอบเข้าไปในวังได้อย่างสะดวก”

ทันใดนั้นเองก็ปรากฎกลุ่มควันสีดำลอยออกมาจากปลายไม้เท้าแล้วพุ่งเข้าหาร่างของมหินธาทันที ครั้นพอควันสีดำจางลงก็ปรากฎร่างของนางกำนัลสูงวัยแทนที่ร่างกำยำของมหินธา มหิศวรมองร่างนั้นอย่างพอใจพลางพูดอย่างเหี้ยมโหดว่า “หากเจ้ายังทำพลาดอีก ข้าจะฆ่าเจ้าซะ…จงจำไว้ให้ดี ไอ้น้องโง่เขลา!”

มหินธาไหว้ประหลกๆ ละล่ำละลักรีบพูดว่า “ข้าจะไม่ทำพลาดอีกแล้วจ้ะพี่ ข้าจะเอามณีนพเก้ามาให้พี่ให้จงได้จ้ะ”

แล้วมหิศวรก็หันไปหยิบห่อผ้าสีดำจากหน้าแท่นบูชามายื่นให้น้องชายพลางบอกว่า “นี่คือผงนิทรา หากเจ้าสบโอกาสเมื่อไหร่เจ้าจงเอาผงนิทรานี้โรยใส่กองไฟ ผู้ใดสูดดมควันจากผงนี้เข้าไปมันก็จะหลับไปทันที”

“จ้ะพี่” มหินธายื่นมือไปรับห่อผ้าแล้วรีบเอาเหน็บเอวไว้ แล้วมหิศวรก็ชี้ไม้เท้าไปที่ร่างของมหินธาอีกครั้ง “ข้าจะแบ่งพลังพระเวทให้เจ้าไว้สักเล็กน้อยก็แล้วกัน”

แล้วควันสีดำก็พวยพุ่งออกจากปลายไม้เท้าลอยละลิ่วพุ่งตรงเข้าไปในตัวของมหินธาทันที มหินธาเกร็งกระตุกประดุจถูกไฟฟ้าช็อตไปทั้งร่าง “อึก!…อึก!…”

พอมหิศวรลดไม้เท้าลง มหินธาก็ทรุดลงไปกองกับพื้นทันที ตุบ!

แล้วมหิศวรก็พูดเสียงเหี้ยมว่า “เจ้าไปได้แล้ว จำเอาไว้ให้ดี…หากเจ้าทำไม่สำเร็จ…เจ้าตาย!”

มหินธารีบยกมือไหว้ประหลกๆ พร้อมกับพูดว่า “จ้ะพี่ ข้าจะไม่ทำให้พี่ผิดหวังอีกแล้วจ้ะ”

มหิศวรโบกมือไล่อย่างเอือมระอา “รีบๆไปได้แล้ว”

มหินธารีบร่ายพระเวท พลัน! ควันสีดำก็พวยพุ่งขึ้นจากพื้นล้อมรอบตัวเต็มไปหมด พอควันจางหาย เขาก็อันตรธานหายไป

ณ เรือนรับรองหลวง

แพรพรรณกำลังเลือกเก็บดอกบัวกับมณีรัตนาที่ท่าน้ำริมสระบัวข้างเรือนรับรองหลวง มณีรัตนาชี้ไปที่ดอกบัวหลวงสีชมพูซึ่งกำลังแย้มกลีบ

“พี่พรรณจ๊ะดอกนั้นด้วยจ้ะ” เด็กหญิงบอกพลางรับดอกบัวจากหญิงสาวมาถือไว้ พอส่งดอกบัวให้มณีรัตนาแล้วแพรพรรณก็หันไปเอื้อมเก็บดอกบัวดอกที่เด็กหญิงชี้ มณีรัตนาอยากจะช่วยเก็บบ้างจึงนั่งคุกเข่ากับพื้นกระดานท่าน้ำแล้วเอื้อมมือไปหมายจะเด็ดดอกบัวที่กำลังแย้มบานอยู่ตรงหน้า แพรพรรณเห็นเข้าพอดีก็บอกว่า “น้องรัตนาเดี๋ยวตก…”

เธอพูดยังไม่ทันขาดคำ เด็กหญิงก็พลัดตกจากท่าน้ำ “ว๊าย!”

ตูม! ร่างน้อยกลมป้อมตกลงไปในน้ำทันที

“น้องรัตนา!” แพรพรรณตกใจ รีบกระโดดลงไปช่วย ตูม!

“พี่พรรณช่วยด้วย!” มณีรัตนาร้องเสียงหลงตะเกียกตะกายอยู่ในน้ำ พลัน! ก็ปรากฏแสงสีเขียวมรกตรอบๆ ตัวเด็กหญิง แล้วรัศมีสีมรกตนั้นก็แผ่ออกกว้างดันมวลน้ำให้แยกตัวจากร่างน้อยกลมป้อมที่กำลังตะเกียกตะกายอย่างตกใจ

“เอ๊ะ!” ทั้งมณีรัตนาและแพรพรรณมองปรากฎการณ์ประหลาดนั้นอย่างฉงน แล้วร่างน้อยกลมป้อมก็หล่นตุบ! ลงไปนั่งจมโคลนก้นสระ

“อ่ะ! อะไรกันนี่!?” แพรพรรณตกใจ พอตั้งสติได้เธอก็รีบแหวกว่ายเข้าไปหาเด็กหญิง พอถึงตัวเด็กหญิง เธอก็มองปรากฎการณ์ประหลาดอย่างงุนงง

“นี่มันอะไรกันเนี่ย!? ทำไมน้ำแหวกเป็นช่องอย่างนี้ล่ะ?” เธอมองไปรอบๆ ตัวมณีรัตนาอย่างประหลาดใจ

“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?” มณีรัตนาก็มองไปรอบๆ ตัวเองอย่างงุนงงปนประหลาดใจ

“ข้าว่าพวกเจ้าขึ้นมาก่อนเถิด” น้ำเสียงทุ้มกังวานตรัสขึ้น ทั้งสองตกใจ “อุ๊ย!”

“อุ๊ย!”

พอเงยหน้ามอง ก็เห็นราชาอัคนียืนอยู่บนท่าน้ำ

“อุ๊ย! พระองค์”

“อุ๊ย! คุณ…”

ทั้งสองอุทานพร้อมกัน แล้วราชาอัคนีก็คุกเข่ากับพื้นกระดาน พลางยื่นมือไป

“ส่งมือมาซิ” เขาสั่งพร้อมกับมองเหมือนเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติ แพรพรรณรีบอุ้มตัวมณีรัตนาส่งขึ้นไป “เอ้า! อึ๊บ!”

มณีรัตนายื่นมือไป ทันทีที่มือใหญ่แตะกับมือน้อยกลมป้อม พลัน! ก็ปรากฏรัศมีสีแดงทับทิมจากมือของราชาอัคนี แล้วรัศมีสีแดงทับทิมก็ปะทะกับรัศมีสีเขียวมรกตจากตัวมณีรัตนาลั่น เปรี๊ยะ!

รัศมีสีเขียวมรกตเลือนหายไป พร้อมๆ กับมวลน้ำคืนตัวกลับมาดังเดิม ซู่!

“ว๊าย!” มณีรัตนาตกใจ! คว้ามือใหญ่หมับ!

ราชาอัคนีรีบคว้าร่างน้อยกลมป้อมขึ้นมา แพรพรรณก็ตกใจเช่นกันที่จู่ๆ มวลน้ำก็กลับคืนมา ร่างบางอรชรจึงถูกมวลน้ำกลืนหายไปพร้อมๆ กับเสียงร้องของตัวเอง เธอรีบถีบตัวขึ้นสู่ผิวน้ำตามสัญชาตญาณการเอาตัวรอด ซ่า!

เรือนร่างอรชรลอยคอขึ้นมาเหนือผิวน้ำ ราชาอัคนีโล่งใจที่เห็นหนุ่มน้อยลอยคอขึ้นมา “เฮ้อ…”

แพรพรรณรีบว่ายน้ำโผไปเกาะพื้นกระดานท่าน้ำเอาไว้

“เฮ้อ…นี่มันเกิดอะไรขึ้นละเนี่ย” เธอพึมพำกับตัวเอง

“เจ้าก็ขึ้นมาเถอะ” ราชาอัคนีบอก เขาวางเด็กหญิงลง จากนั้นก็ยื่นมือไปให้หนุ่มน้อย แพรพรรณไม่ยอมจับมือเขา เพราะยังจำภาพที่มือใหญ่เปล่งแสงสีแดงออกมาได้ติดตา เธอมองจ้องมือข้างนั้นอย่างเกรงๆ แล้วเธอก็ใช้สองแขนโหนตัวขึ้นไปนั่งบนท่าน้ำ ตุบ!

ราชาอัคนีหดมือกลับ พลางแย้มยิ้มบางๆ ให้หนุ่มน้อย มณีรัตนาโผเข้าไปหาทันทีแพรพรรณทันที

“พี่พรรณ เหตุใดน้ำจึงแหวกออกเช่นนั้นล่ะจ๊ะ?” เด็กหญิงถามอย่างงุนงง

“เอ่อ…” แพรพรรณเองก็งงเหมือนกัน ไม่รู้ว่าจะตอบยังไง ราชาอัคนีเห็นหนุ่มน้อยส่ายหน้า เขาจึงบอกว่า “ที่น้ำแหวกออกได้เป็นเพราะอิทธิฤทธิ์แห่งนาคราช”

ทั้งสองได้ยินเช่นนั้นก็นึกถึงเกล็ดนาคราชที่ได้รับมา

“อ๋อ…หม่อมฉันเข้าใจแล้วล่ะเพคะ” มณีรัตนาพยักหน้ารับรู้แล้วก้มลงมองฝ่ามือตัวเอง “เป็นเพราะเกล็ดนาคราชนี่เอง”

ราชาอัคนีมองที่ฝ่ามือเล็กกลมป้อมอย่างสงสัย แล้วถามว่า “เหตุใดเจ้าจึงมีเกล็ดนาคราชล่ะแม่หนูน้อย?”

มณีรัตนาเงยหน้าขึ้นแล้วก็ทูลเล่าว่า “เกล็ดนาคราชนี้ ท่านมธุราชนาคาเป็นผู้มอบให้หม่อมฉันเพคะ”

“อืม…เป็นเช่นนี้เองรึ” ราชาอัคนีตรัสแล้วก็คิดในใจว่า ‘สองคนนี่เกี่ยวข้องกับนาคราชเช่นไรหรือข้าสงสัยจริง?’

แพรพรรณลุกขึ้นยืนแล้วก็รีบกราบทูลว่า “ขอบพระทัยเพคะที่ทรงช่วยน้องรัตนา”

“พวกเจ้าไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ข้าตกใจยิ่งนักที่เห็นแม่หนูน้อยตกน้ำ สระบัวนี้แม้จะไม่ลึกมากแต่สำหรับเด็กตัวเล็กๆ อย่างแม่หนูนี่อันตรายยิ่งนักเชียว” ราชาอัคนีตรัสพลางลูบหัวเด็กหญิงอย่างเอ็นดู แล้วว่า “พวกเจ้าเก็บดอกบัวจะเอาไปทำอะไรหรือ?”

เขามองดอกบัวที่หล่นกระจัดกระจาย

“หม่อมฉันจะเก็บไปใส่แจกันในห้องเพคะ” มณีรัตนากราบทูลแล้วก็ก้มลงเก็บดอกบัวที่หล่นอยู่บนพื้นกระดานขึ้นมา แพรพรรณก็ก้มลงช่วยเก็บอีกคน ครั้นพอเธอยืดตัวขึ้น ภาพหนุ่มน้อยหน้าหวานถือดอกบัวไว้เต็มอ้อมแขนก็สะกดราชาอัคนีให้ตะลึงต่อความงามพิสุทธิ์นั้น

พลัน! ภาพหนึ่งก็วูบขึ้นมาในใจ หญิงสาวร่างบางอรชร…ผมดำขลับยาวสยายเต็มแผ่นหลัง…สวมอาภรณ์แปลกตา…ถือดอกไม้ไว้ในมือข้างหนึ่ง

ดวงตาคมกล้าจ้องมองใบหน้าหนุ่มน้อยเขม็ง ‘อืม…ใบหน้าเช่นนี้ช่างเหมือนกันเหลือเกิน เจ้าหนุ่มคนนี้ช่างเหมือนสตรีนางนั้นยิ่งนัก…’

ความคิดหยุดลงเมื่อเสียงหวานใสถามว่า “เอ่อ…ทำไมฝ่าบาททรงมองหม่อมฉันแบบนี้ล่ะเพคะ?”

ดวงตาคู่สวยสบตากับดวงตาคมกล้าอย่างสงสัย ‘โหย…จ้องเอาๆ นี่จะจ้องอีกนานไหมอ่ะ เอ…หรือว่าหน้าฉันเปื้อนโคลนล่ะมั้ง’

เธอคิดในใจ จนลืมนึกไปว่าเมื่อกี้นี้เธอลงไปลอยคออยู่ในน้ำแต่พอขึ้นมา กลับไม่เปียกน้ำซักหยด มณีรัตนาเองก็เช่นกัน เนื้อตัวเสื้อผ้าแห้งสนิท ราชาอัคนีรีบละสายตาจากหนุ่มน้อยพลางตรัสว่า “ไม่มีอะไรหรอก แค่พวกเจ้าปลอดภัยไม่เป็นไรก็ดีแล้ว พวกเจ้าเอาดอกบัวไปเก็บก่อนเถอะ แล้วจงตามข้าไปเข้าเฝ้าราชาพนมไพศาลด้วยกันเถิด เมื่อสักครู่นี้ทรงมีรับสั่งให้พวกเจ้าไปเข้าเฝ้า”

“อ๋อค่ะ” แพรพรรณพยักหน้ารับแล้วก็นึกสงสัยในใจว่า ‘เอ…เรียกไปพบทำไมนะ?’

แล้วเธอก็หันไปบอกกับมณีรัตนาว่า “น้องรัตนาจ๊ะ พวกเรารีบเอาดอกบัวไปเก็บกันเถอะ”

“จ้ะพี่พรรณ” มณีรัตนาพยักหน้าแล้วก็ย่อตัวลงถวายความเคารพราชาอัคนี จากนั้นร่างเล็กกลมป้อมก็วิ่งไปทันที แพรพรรณเดินตามไป แต่อารามรีบร้อนทำให้เธอเผลอเหยียบน้ำที่กระเซ็นเปียกบนพื้นกระดาน เรือนร่างบางอรชรจึงลื่นพรึ่ด!

“อ่ะ!” เธอตกใจหลับตาปี๋

“ระวัง!” ราชาอัคนีถลันเข้าช่วย ทันทีที่แตะต้องถูกตัวหนุ่มน้อยก็เกิดรัศมีสีเขียวมรกตปะทะกับรัศมีสีแดงทับทิม เปรี๊ยะ!

แล้วรัศมีสีเขียวมรกตก็จางหายไป พร้อมกันนั้นท่อนแขนแข็งแกร่งก็รัดหมับรอบเอวเล็กบางแล้วกระชากเรือนร่างเล็กผอมบางพยุงไว้ไม่ให้ล้มหงายหลังได้ แผ่นหลังนวลปะทะกับอกกว้าง

“อุ๊ย!”

“เจ้าไม่เป็นไรนะ” ราชาอัคนีถามพร้อมกับก้มลงมองหนุ่มน้อยในอ้อมแขน แพรพรรณตกใจรีบส่ายหน้าตอบ “อ่ะ…ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณค่ะ”

ด้วยความตกใจทำให้เธอเผลอตัวพูดอย่างเคยชิน พอตั้งสติได้เธอก็รีบเบี่ยงตัวออกจากอ้อมแขนของราชาหนุ่ม จังหวะที่รีบร้อนเบี่ยงตัวออกทำให้ท่อนแขนแข็งแกร่งกระทบกับหน้าอกนุ่ม

“หืม…” ราชาอัคนีรู้สึกว่าท่อนแขนของเขาไม่ได้กระทบกับแผ่นอกราบเรียบดังเช่นที่ควรจะเป็น กลับรู้สึกว่าแขนกระทบกับเนื้อนุ่มอวบใหญ่

“อุ๊ย!” แพรพรรณตกใจ เธอรีบก้มหน้าหลบตาวิ่งจากไป ราชาอัคนีมองตามหนุ่มน้อยไปอย่างงุนงง “เอ…เมื่อกี้นี้เหตุใดข้าถึงรู้สึกเหมือนว่าแขนของข้ากระทบถูกอกของสตรีได้ล่ะ?”

เขาก้มลงมองแขนตัวเองอย่างแน่ใจว่าความรู้สึกเมื่อกี้นี้ไม่ได้อุปทานไปเองแน่ๆ คิ้วขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย มองตามร่างของหนุ่มน้อยซึ่งผลุบหายเข้าไปในเรือนรับรองหลวงอย่างหมายมั่นในใจ “ข้าจะต้องรู้ให้ได้ว่ามันคืออะไรกันแน่?”

แพรพรรณวิ่งเข้าไปในห้องหน้าแดงก่ำ “โอย…หัวใจจะวาย”

ก็ตั้งแต่เกิดมาจนโตเป็นสาว เธอยังไม่เคยแนบชิดกับชายใดเช่นนี้มาก่อน นอกจากคุณพ่อและพี่ชายแล้วก็อย่าหวังเลยว่าจะมีชายคนใดได้ถูกเนื้อต้องตัวเพราะคุณแม่พร่ำสอนนักหน้าให้รักนวลสงวนตัว

“มีอะไรหรือจ๊ะพี่พรรณ?” มณีรัตนาหันไปมองอย่างสงสัยที่เห็นพี่พรรณวิ่งเข้ามา แพรพรรณรีบปฏิเสธ “ไม่มีอะไรหรอกจ้ะน้องรัตนา”

เธอบอกพลางวางดอกบัวไว้บนตั่งแล้วก็พูดว่า “พี่ว่าพวกเรารีบไปกันเถอะจ้ะ”

มณีรัตนาพยักหน้า “จ้ะ”

จากนั้นทั้งสองคนก็เดินไปเข้าเฝ้าราชาพนมไพศาล

กลางอุทยานหลวง ท่ามกลางสุมทุมพุ่มไม้ดอกหลากสี จู่ๆ ก็ปรากฎควันสีดำพวยพุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน พอควันสีดำจางหายก็ปรากฎร่างของนางกำนัลสูงวัยท่าทางลุกลี้ลุกลน ดวงตาหลุกหลิกกวาดตามองไปรอบๆ อย่างระวังตัว ครั้นพอไม่เห็นใครอยู่ในบริเวณนั้น มหินธาก็เดินออกจากพุ่มไม้แล้วตรงไปยังตำหนักหลวงทันที

“นั่นใครกัน! ท่าทางลับๆ ล่อๆ” ขุนท้าวแจ่มศรีเรียกเสียงดัง มหินธาสะดุ้งโหยง! “โอ๊ะ!”

“เจ้าเป็นใคร ใยจึงมาทำลับๆ ล่อๆ แถวตำหนักหลวง” ขุนท้าวแจ่มศรีจ้องเขม็ง มหินธารีบก้มหน้าหลบตาแล้วพูดกลบเกลื่อนว่า “อุ๊ยตาย…ข้าตกใจหมดเลยเจ้าค่ะ ที่แท้ก็ท่านขุนท้าวแจ่มศรีคนงามนี่เอง”

แล้วเขาก็รีบบอกว่า “คือพระมเหสีใช้ให้ข้ามาเก็บดอกไม้เจ้าค่ะ”

ขุนท้าวแจ่มศรียิ่งจ้องเขม็ง “เจ้าเป็นนางกำนัลของพระมเหสีหรือ ไยข้าจึงไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน แล้วเสียงของเจ้าไยเป็นเช่นนั้นเล่า ช่างแหบห้าวดุจเสียงบุรุษยิ่งนัก”

มหินธารีบเผ่น “ข้าขอตัวก่อนนะเจ้าค่ะท่านขุนท้าว ประเดี๋ยวพระมเหสีจะทรงรอนานเจ้าค่ะ”

เขารีบเดินลัดเลาะขึ้นตำหนักไป ขุนท้าวแจ่มศรีมองตามอย่างสงสัย “เอ…พระมเหสีทรงรับนางกำนัลใหม่หรือ เหตุใดข้าจึงไม่เคยรู้เลย แล้วนางกำนัลหน้าตาอัปลักษณ์สุ้มเสียงก็ห้าวดั่งบุรุษเช่นนี้ทรงรับเข้ามาได้เช่นไรกัน ช่างเป็นนางกำนัลที่อัปลักษณ์ยิ่งนัก”

ส่วนมหินธาพอหลบขึ้นไปบนตำหนักได้ก็รีบหาที่ซ่อนตัวพลางลอบมองว่าขุนท้าวตามมาหรือไม่

“ฮึ่ม…อีแก่นี่เสือกสอดรู้สอดเห็นจริงเชียว” เขาคำรามลอดไรฟันพร้อมกับแอบมองอย่างลุกลี้ลุกลน

“ถวายบังคมพะย่ะค่ะเจ้าพี่” น้ำเสียงของเจ้าชายวัชระดังขึ้นหน้าตำหนักทำให้มหินธารีบหลบขวับ!

“ถวายบังคมเพคะฝ่าบาท” ขุนท้าวแจ่มศรีกราบทูล

“ไม่ต้องมากพิธี ข้าไม่ชอบ” ราชาอัคนีตรัสพลางทำหน้าเบื่อหน่าย แพรพรรณและมณีรัตนารีบทำความเคารพเจ้าชายวัชระ “ถวายบังคมเพคะ”

แล้วทั้งสองก็หันไปไหว้ขุนท้าวแจ่มศรี ขุนท้าวรับไหว้แล้วก็ยิ้มให้ทั้งสองคน ราชาอัคนีเห็นว่าทักทายกันจบแล้วก็เร่งว่า “รีบไปเข้าเฝ้าองค์ราชาและพระมเหสีเถิด ข้ายังมีกิจต้องเร่งสะสางอีกมาก”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version