บทที่ 1002 เป็นกู้ซีจิ่วที่เขารู้จักผู้นั้นหรือ?
เมื่อเช็ดมือให้เขาสะอาดแล้ว พลันเงยหน้าขึ้น ยื่นมือไปลูบหัว สัมผัสถึงความสำเร็จได้เมื่อศีรษะที่อยู่ใต้ฝ่ามือคล้ายจะแข็งทื่อไปแวบหนึ่ง ตี้ฝูอีน่าจะไม่เคยถูกผู้อื่นสัมผัสอย่างรักใคร่เอ็นดูเช่นนี้มาก่อน…
มุมปากของกู้ซีจิ่วหยักขึ้นนิดๆ อย่างอดไว้ไม่อยู่ จิตใจข่มกลั้นความสุขเอาไว้ไม่ได้
“อื้อ ข้าเป็นเด็กดี” ตี้ฝูอีเอียงศีรษะถูไถบ่าเธออย่างว่าง่าย ไม่ได้นึกถึงว่าตัวเขาเตี้ยทว่าเก้าอี้สูง เมื่อเอียงร่างเช่นนี้เก้าอี้ก็ทรงตัวไม่อยู่ ล้มลงทันที ส่วนศีรษะเขาก็ซุกเข้าไปในอ้อมแขนเธอพอดิบพอดี หน้าผากเกยอยู่บนอก…
กู้ซีจิ่วตัวแข็งทื่อทันที ก่อนลากเขาออกมา “เจ้า…”
ตี้ฝูอีมองเธอด้วยสีหน้าไร้เดียงสา “เก้าอี้มันลื่นน่ะ…”
การล้มเมื่อครู่ของเขาชนเข้ากับโต๊ะอย่างมิอาจเลี่ยงได้ ถ้วยโถโอชามบนโต๊ะสั่นสะเทือนจนเกิดเสียงดังกราว นํ้าแกงในอาหารมากมายหกออกมา ไหลนองไปครึ่งโต๊ะ เห็นได้ชัดยิ่งนักอาหารโต๊ะนี้ส่วนใหญ่ไม่อาจกินได้แล้ว
หรงเช่อพูดไม่ออก
สีหน้าหลงซือเย่ก็ไม่ค่อยดีเช่นกัน เขาลุกขึ้นอย่างสง่างาม เอ่ยเสียงเรียบว่า “ไปพบผู้ป่วยก่อนเถิด!”
เขาก็ไม่มีแก่ใจจะกินอาหารมื้อนี้ต่อแล้วเหมือนกัน
….
ภายในโรงหมอ หรงเจียหลัวถูกมัดไว้บนเตียงเหมือนบ๊ะจ่าง บนร่างคือสายโซ่ที่หนาเท่าหัวแม่มือ โซ่เส้นนี้ถูกสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ ปลุกเสกพลังวิเศษลงไป ยิ่งดิ้นรนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งรัดแน่นขึ้นเท่านั้น ทว่าเขากลับดิ้นรนอย่างเอาเป็นเอาตาย เสียงโซ่ดังแกรกกราก ทำให้หัวใจคนหวาดหวั่น และที่ข้างเตียง จิ้งจอกดำกำลังเดินวนไปวนมาปานบดโม่ เขาเป็นองครักษ์ส่วนพระองค์ของหรงเจียหลัว ยามนี้ผู้เป็นนายกลายเป็นเช่นนี้เขาหัวใจเขาร้อนรนปานโดนไฟเผา ทว่าไม่มีหนทางสักนิดเลย ทำได้เพียงปลอบประโลมอย่างไร้ประโยชน์ “องค์รัชทายาท พระองค์อดทนไว้สักครู่นะพะย่ะค่ะ องค์ชายแปดไปเชิญเจ้าสำนักหลงแล้ว เขาจะต้องมีหนทางรักษาโรคประหลาดของพระองค์ได้แน่นอน พระองค์ทนหน่อยนะพะย่ะค่ะ”
แต่คนที่อยู่บนเตียงฟังไม่เข้าใจเลย มีเสียงร้องฮื่อแฮ่ดังออกมาจากปาก เล็บมือแหลมคมดุจใบมีดที่ถูกมัดแนบกายไว้ยืดๆ หดๆ อยู่ตรงนั้น
ในที่สุดด้านนอกก็มีเสียงเคลื่อนไหวแล้ว
“เจ้าสำนักหลง พี่ชายของข้าอยู่ที่นี่…” เป็นเสียงขององค์ชายหรงเช่อ ในที่สุดเขาก็เชิญเจ้าสำนักหลงมาได้แล้ว!
จิ้งจอกดำเปิดประตูแล้วแทบจะโผออกไปเลย ยังไม่ทันเห็นตัวคนชัดเจน ก็ลงไปคุกเข่าให้หลงซือเย่ที่เพิ่งเข้าประตูมาแล้ว “เจ้าสำนักหลง ขอท่านโปรดช่วยเหลือองค์รัชทายาทของพวกเราด้วยเถิด!”
หลงซือเย่โบกมือให้เขาลุกขึ้น “ข้าจะเข้าไปดูอาการก่อน ซีจิ่ว เจ้าก็มาด้วยสิ”
จิ้งจอกดำถึงได้พบว่านอกจากหรงเช่อกับหลงซือเย่แล้ว ยังมีคนอีกสามคนอยู่ด้วย เป็นโฉมงามสองนางกับเด็กน้อยอีกหนึ่งคน
ซีจิ่ว?
เป็นกู้ซีจิ่วที่เขารู้จักผู้นั้นหรือ?
กู้ซีจิ่วที่องค์รัชทายาทคะนึงถึงอยู่ไม่สร่างซาใช่ไหม?
กู้ซีจิ่วที่เคยรักษาโรคแอบแฝงขององค์รัชทายาทให้หายดีใช่หรือเปล่า?
จิ้งจอกดำอดไม่ได้ที่มองโฉมงามทั้งสองให้มากขึ้นอีกแวบหนึ่ง เขาโง่งมไปเสียแล้ว!
กู้ซีจิ่วในความทรงจำของเขาเป็นสาวน้อยผอมแห้ง ใบหน้ามีปานแดง แต่สองนางที่อยู่เบื้องหน้านี้กลับเป็นโฉมงามผู้เลิศลํ้าทั้งคู่ แถมรูปโฉมยังมีความคล้ายคลึงกันถึงแปดเก้าส่วนอีก ในบรรดาพวกนางผู้ใดเล่าที่เป็นกู้ซีจิ่ว?
กู้ซีจิ่วตบไหล่เขาคราหนึ่ง “จิ้งจอกดำ เจ้าผอมลงมากนะ!”
แล้วเข้าห้องไปทันที
จิ้งจอกดำนํ้าตาคลอในทันใด แม่นางกู้ยังจดจำเขาได้!
แต่เมื่อสังเหตเห็นว่ามือของกู้ซีจิ่วจูงเด็กมาด้วย ก็ตกตะลึงทันที!
มิใช่กระมัง?
ลูกของนางโตขนาดนี้แล้วหรือ?
แต่แล้วก็นึกอยากตบตัวเองสักฉาด เด็กคนนี้ดูเหมือนจะแปดเก้าขวบแล้ว ส่วนกู้ซีจิ่วจะนับรวมอย่างไรก็เพิ่งย่างสิบเจ็ดปีเท่านั้น ไหนเลยจะมีลูกโตขนาดนี้ได้?
สมองตนเลอะเลือนไปแล้วจริงๆ…
ผ่านไปสองปี ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็ได้พบหน้าหรงเจียหลัวอีกครั้ง ทว่าเกือบจะจำเขาไม่ได้แล้ว!
——————————————————————
[1] จูเก๋อเลี่ยง หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในนามขงเบ้ง ตัวละครในวรรณกรรมจีน อิงประวัติศาสตร์เรื่องสามก๊ก ที่มีตัวตนอยู่จริง ในประวัติศาสตร์ยุุคสามก๊ก