Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1045

บทที่ 1045 เจ้าจัดการตัวเองให้ดีเถอะ

กู้ซีจิ่วเลิกคิ้ว “มาหาข้าทำไม? เจ้าคิดจะให้ข้าไปเกลี้ยกล่อมเขาให้รับผิดชอบเจ้างั้นหรือ?”

“เมื่อคืนยามที่เขาเสพสมกับข้า ทว่าเรียกชื่อของเจ้า!”

นํ้าเสียงเย่หงเฟิงรันทดหดหู่ เจือความดุเดือดรางๆ ไว้ “เขาเห็นข้าเป็นเจ้า! เขาแค่ใช้ข้าเป็นตัวแทนของเจ้า!”

กู้ซีจิ่วนิ่งงัน

“กู้ซีจิ่วความจริงแล้วข้าริษยาเจ้ายิ่งนัก ได้รับความชอบจากผู้คนมากมายถึงเพียงนี้ ส่วนข้า…นับตั้งแต่ยามที่ข้าลืมตาขึ้นมาบนโลกใบนี้ ก็ทราบว่าตนเป็นเพียงตัวแทนที่ตอกย้ำความเศร้าหมองเท่านั้น เขารับข้าเป็นศิษย์เพราะข้าเหมือนเจ้า คนเหล่านั้นที่สำนักถามสวรรค์ก็ทราบกันถ้วนหน้าว่าข้าเหมือนเจ้า ล้วนทราบว่าข้าเป็นตัวแทนของเจ้า สายตาที่มองข้าเต็มไปด้วยความเวทนา…เจ้าทราบความรู้สึกเช่นนั้นหรือ ไม่? ไม่ว่าเจ้าจะมุมานะเพียงใด ใช้ชีวิตเป็นตัวเองเช่นไร แต่ทุกคนล้วนเห็นเจ้าเป็นเพียงตัวแทน! เจ้ารู้ไหมว่ามันทุกข์ทรมานมากแค่ไหน?”

เย่หงเฟิงกำหมัดแน่น นํ้าเสียงยิ่งพูดยิ่งดุเดือด และโศกเศร้าขึ้นเรื่อยๆ “ข้าชอบเขา…ชอบเขาจนคลั่งแล้ว! แต่ยามที่เขามองข้าราวกับมองคนอีกผู้หนึ่งอยู่ เขามักจะเรียกชื่อข้าผิดอยู่เสมอ ปฏิบัติต่อข้าอย่างเดี๋ยวอบอุ่นเดี๋ยวเย็นชา…ดังนั้นกู้ซีจิ่ว ข้ารู้จักเจ้ามาตั้งนานแล้ว เนื่องจากข้าได้ยินชื่อนี้จากปากของเขาจนหูแทบด้านแล้ว! เขาสอนวิชายุทธ์ให้ข้าถ่ายทอดวิชาแพทย์ให้ข้า ข้ามานะเล่าเรียน คิดว่ามานะแล้วจะก้าวตามเขาทัน คิดว่ามานะแล้วจะได้รับคำชมจากเขา แต่เจ้ารู้ไหมว่าคำชมของเขาคืออะไร? เขาบอกว่าไม่เลว เกือบจะฉลาดได้ครึ่งหนึ่งของเจ้าแล้ว…”

กู้ซีจิ่วเงียบงัน นิ้วมือที่บิดกิ่งหลิวอยู่จู่ๆ ก็ค่อนข้างหนักอึ้ง

เธอรู้ว่าหลงซือเย่ชอบตน แต่ไม่นึกเลยว่าเขาเข้าขั้นที่เกือบจะถูกธาตุไฟเข้าแทรกเช่นนี้แล้ว แต่ท้ายที่สุดแล้ว ตนมีแต่ทำให้เขาผิดหวัง ไม่อาจตอบรับได้แม้สักครึ่งส่วน เมื่อคืนเป็นวันเกิดของเขา เขาคงนึกว่าเธอจะจำได้ แต่นึกไม่ถึงว่าเธอจะลืมเลือนไปเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว ด้วยเหตุนี้เขาถึงได้ฉุนเฉียวหาเรื่องสารพัดเช่นนั้น และเมื่อคืนเขาที่อยู่ในสภาวะเมามายได้จับผลัดจับผลูมีสัมพันธ์กับเย่หงเฟิง เขาต้องได้รับความสะเทือนอย่างหนักหนาเสียใจยิ่งนัก ดังนั้นจึงไม่มา…

“เจ้ามาพูดเรื่องพวกนี้กับข้า ที่แท้มีจุดประสงค์ใด?” กู้ซีจิ่วตัดบทเธอตรงๆ

“ในเมื่อเจ้าไม่รักเขาก็อยู่ให้ห่างจากเขาซะ! ดีที่สุดคืออย่าได้มาปรากฏตัวต่อหน้าเขาตลอดกาล มิฉะนั้นแล้วสิ่งที่เจ้าจะนำพาให้เขาก็มีเพียงความทุกข์ทนรวดร้าว! บางทีเมื่อเวลาผ่านไปเขาอาจค่อยๆ ปล่อยวางเจ้าได้ แล้วยอมรับข้า …” ในที่สุดเย่หงเฟิงก็เอ่ยจุดประสงค์ของตัวเองออกมาแล้ว

กู้ซีจิ่วไร้วาจา

เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่กู้ซีจิ่วไม่ได้โต้แย้งเย่หงเฟิงต่อ

กาลเวลาเยียวยาทุกสิ่งได้ บางทีคงมีแต่ต้องหายหน้าไปสักพักถึงจะทำให้หัวใจที่บอบช้ำของเขาค่อยๆ ทุเลาลงได้ เพียงแต่ความรักมิใช่การซื้อขาย และมิใช่เธอปล่อยวางเพียงคนเดียวแล้วจะสำเร็จได้

กู้ซีจิ่วเอ่ยเรียบๆ ว่า “ข้าไม่รั้งอยู่ที่นี่นานเกินไปหรอก…เจ้าจัดการตัวเองให้ดีเถอะ”

พลางหันหลังจากไป

หลังจากเธอขึ้นอาคารมาก็ไปดูที่ห้องตี้ฝูอีก่อนสักแวบหนึ่ง ตี้ฝูอีกำลังนั่งสมาธิฝึกฝนอยู่ เข้าสู่สภาวะหลงลืมตัวตนแล้ว มีแสงสีรุ้งจางๆ โอบล้อมหมุนวนอยู่ กู้ซีจิ่วไม่กล้ารบกวนเขา จึงนั่งมองอยู่ด้านข้าง ทันใดนั้นก็พบว่าตี้ฝูอีดูเหมือนจะโตขึ้นนิดหน่อย!

เดิมทีดูเหมือนเด็กแปดเก้าขวบ ยามนี้กลับ ดูคล้ายเด็กอายุราวสิบขวบแล้ว หัวใจเธอเต้นรัวขึ้นมา!

บางทีถ้าเขาฝึกฝนด้วยตัวเองเช่นนี้อาจจะฟื้นฟูเป็นปกติได้กระมัง?

มองจากท่าทีของตี้ฝูอี ไม่ถึงสองชั่วยามเขาคงไม่เสร็จสิ้น เพื่อหลีกเลี่ยงข้อสงสัยกู้ซีจิ่วจึงไม่กล้ารั้งอยู่ที่ห้องเขานาน เธอค่อยๆ ย่องออกไปอีกครั้ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version