Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1049

บทที่ 1049 ต่อสู้

ยังคงเป็นหลงซือเย่ที่โยนวัวเป็นๆ ตัวนั้นลงไปในธารลึก ส่วนเขาก็ซ่อนตัวรออยู่ริมธาร สำหรับสัตว์ร้ายเทพสัชฌะแล้ววัวสองขาก็คืออาหารโอชะ

อย่างหนึ่งที่ยากจะต้านทานได้ ดังนั้นหลังจากวัวหล่นลงไปในธารนํ้าลึกก็มีละอองนํ้าขนาดใหญ่สาดกระเซ็นขึ้นมาอย่างรวดเร็วยิ่ง หัวสีเงินแวววาวหัวหนึ่งโผล่ขึ้นมา…

วัวสองขาตื่นตระหนก พยายามว่ายกลับฝั่งสุดชีวิต!

หัวสีเงินแวววาวหัวนั้นอ้าปากที่เต็มไปด้วยเขี้ยวออก ในนํ้าเกิดกระแสนํ้าวนมหึมาขึ้น วัวสองขาตัวนั้นพุ่งไปทางกระแสนํ้าวนอย่างมิอาจควบคุมร่างกายได้!

ยามที่วัวสองขาตัวนั้นกำลังจะถูกกระแสนํ้าวนกลืนกินเข้าไป หลงซือเย่ไปปรากฏตัวขึ้น โบกมือคราหนึ่ง เชือกสีเขียวเส้นหนึ่งลอยออกไป ตรงเข้า พันลงบนร่างวัวลากให้ลอยขึ้นสู่ฝั่งในทันใด!

เนื้ออ้วนพีที่กำลังจะถึงปากถูกคนฉกชิงไป สัตว์ร้ายเทพสัชฌะย่อมเดือดดาลอย่างยิ่ง แสงเงินส่องวาบ กระโจนขึ้นมา…

กู้ซีจิ่วยืนบนต้นไม้ที่อยู่ห่างออกไป ถึงแม้จะอยู่ไกล แต่สายตาของเธอดีเยี่ยม ยังคงมองเห็นรูปลักษณ์ของสัตว์ร้ายเทพสัชฌะตัวนี้อย่างชัดเจน คล้ายมังกรเจียวยิ่งนัก ร่างกายใหญ่โตเหมือนช้าง ทว่าใหญ่กว่าช้างหลายเท่านัก หางคล้ายแส้ยาวเส้นหนึ่ง ทั่วทั้งร่างเป็นสีเงินแวววาว เมื่อแสงอาทิตย์ส่องกระทบ จะเกิดแสงจ้าแยงตา

สัตว์ร้ายตัวนี้พกพากลิ่นอายดุร้ายมาด้วย ทันทีที่โผล่พ้นนํ้า ก็ทำให้อุณหภูมิรอบข้างลดฮวบลงทันที ละอองนํ้าในอากาศก็ควบตัวทันที เกิดหมอกหนาขึ้นริมธารลึก และผ่านไปเพียงครู่เดียวหมอกก็หนาแน่นราวกับแพรไหมที่ฉีกไม่ขาด กู้ซีจิ่วอยู่ห่างถึงเพียงนี้ก็ยังถูกแรงกดดันที่แฝงอยู่ในอากาศกดทับจนหายใจไม่ออกอยู่บ้าง

เธอมองเย่หงเฟิงที่อยู่ข้างกายแวบหนึ่งตามสัญชาตญาณ ไม่ผิดจากที่เธอคาดไว้ ใบหน้าเฉิดฉันของเย่หงเฟิงแดงก่ำก่อน จากนั้นก็ขาวซีด ยืนโงนเงนจะล้มมิล้มแหล่อยู่ตรงนั้น เห็นได้ชัดยิ่งนักว่าวรยุทธ์ของเธอต่ำเกินไปรับแรงกดดันนี้ไม่ไหว ดูเหมือนเธอคิดจะใช้วิชาตัวเบาถอยให้ห่างอีกนิด แต่มือกลับสั่นสะท้านเท้าอ่อนยวบเคลื่อนไหวไม่ได้เลย ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง เธอก็แทบจะกระอักเลือดอออกมาแล้ว

เย่หงเฟิงผู้นี้คือคนที่หลงซือเย่ใส่ใจ กู้ซีจิ่วย่อมปล่อยให้เธอเกิดอุบัติเหตุไม่ได้ จึงใช้วิชาเคลื่อนย้ายพาตัวเธอไปทันที ถอยห่างไปสองลี้ ที่นี่แรงกดดัน ในอากาศน้อยลงมาก ในที่สุดเย่หงเฟิงก็หายใจสะดวกแล้ว สามารถยืนอย่างมั่นคงบนไม้ใหญ่ต้นนี้ได้

โชคดีที่หมอกหนาไม่ได้กระจายมาทางนี้อีก แต่ม้วนตลบไปยังทิศทางอื่น เห็นได้ชัดว่าหลงซือเย่จะใช้วัวสองขาเป็นเหยื่อล่อ หลอกล่อให้สัตว์ร้ายเทพสัชฌะตัวนั้นออกห่างจากธารลึก จากนั้นจะได้ลงมืออย่างสะดวก ป้องกันไม่ให้ดึงดูดพรรคพวกของมันมา สัตว์ร้ายชนิดนี้ตัวเดียวก็รับมือได้ยากยิ่งนักแล้ว หากมีตัวที่สองตลอดจนอีกหลายตัวโผล่มาอีก เช่นนั้นทุกคนก็ทำได้เพียงเผ่นหนีเท่านั้น

สัตว์ร้ายเทพสัชฌะดุร้ายปานมังกรเจียว แทบไม่มีศัตรูทางธรรมชาติ เลยไม่รู้จักด้วยซํ้าว่าความกลัวคือสิ่งใด เมื่อเห็นอาหารอันโอชะที่โปรดปรานจะไล่ล่าอย่างไม่ตายไม่เลิกรา ดังนั้นจึงถูกหลงซือเย่ล่อให้วิ่งมายังพื้นที่โล่งขนาดใหญ่ที่อยู่ห่างไกลอย่างง่ายดายยิ่ง

กู้ซีจิ่วถอนหายใจด้วยความโล่งอก

การเดินทางครั้งนี้นับว่าค่อนข้างราบรื่น พวกเขาเตรียมวัวเป็นๆ สองตัวไว้เผื่อว่ามีสัตว์ร้ายเทพสัชฌะหลายตัวโผล่มาในคราวเดียวก็หลบหนีไปก่อน รอให้เวลาผ่านไประยะหนึ่งค่อยไปเอาวัวตัวที่สองมาลองอีกครั้ง

ครั้งนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะมีโชคยิ่งนัก ลงมือครั้งแรกก็เป็นไปตามที่พวกเขาคาดการณ์ไว้ มีสัตว์ร้ายเทพสัชฌะออกมาเพียงตัวเดียว

พื้นที่ที่หลงซือเต่อสู้กับสัตว์ร้ายเทพสัชฌะตัวนั้นอยู่ห่างจากพวกกู้ซีจิ่วค่อนข้างไกล กู้ซีจิ่วสั่งให้เย่หงเฟิงรออยู่ตรงนี้ เธอจะเข้าไปสังเกตการณ์ต่อสู้ ดูว่าช่วยอะไรได้ไหม เย่หงเฟิงในยามนี้ก็ว่าง่ายเช่นกัน พยักหน้าตอบรับ

กู้ซีจิ่วเคลื่อนย้ายไปยังจุดที่อยู่ใกล้สนามต่อสู้ที่สุด หมอกหนาม้วนตลบขึ้นมาปานหม้อเดือด มีเสียงต่อสู้แว่วออกมาจากด้านในเป็นครั้งคราว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version