Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1051

บทที่ 1051 ย่อมผ่อนคลายเป็นธรรมดา

จะมีอะไรจะดีเท่าการได้กินอาหารตัวเดียวอีกล่ะ!

จะปล่อยให้ตัวอื่นมาไม่ได้!

แม้แต่หลงซือเย่ที่โจมตีมันอยู่มันก็ไม่สนใจแล้ว เริ่มไล่ล่าวัวตัวนั้นอย่างตั้งใจ!

นั่นคือวัวที่กู้ซีจิ่วปล่อยออกมาในยามคับขัน ยามนี้เป็นช่วงความเป็นความตาย มันย่อมรีดเค้นพละกำลังทั้งหมดออกมาสุดชีวิต กีบเท้าทั้งสองกางเหยียดวิ่งหนีอย่างว่องไวยิ่ง

สัตว์ร้ายเทพสัชฌะตัวนั้นตามติดไม่ปล่อย อันที่จริงมันเคยพ่นละอองนํ้าแข็งใส่วัวตัวนั้นหลายครั้งแล้ว หากเป็นยามปกติทั่วไปวัวตัวนั้นไม่มีทางหลบหนีการโจมตีด้วยละอองนํ้าแข็งของมันพ้น ถูกแช่แข็งรอให้มันไปเขมือบอยู่ตรงนั้นไปนานแล้ว แต่ด้านหลังมันยังมีหลงซือเย่ที่ไล่ตามมันไม่ยอมปล่อยอยู่ ทุกครั้งที่มันพ่นละอองนํ้าแข็งออกมาล้วนถูกหลงซือเย่สำแดงกระบวนท่าขัดจังหวะ ด้วยเหตุนี้จึงทำได้เพียงวิ่งแข่งกับวัวตัวนี้…

วัวสองขาตัวนี้เป็นสัตว์ป่า หากมันตกอยู่ในอันตรายมันย่อมวิ่งเข้าสู่ป่าลึกตามสัญชาตญาณ

หนึ่งวัว หนึ่งสัตว์ร้าย หนึ่งมนุษย์วิ่งไล่ล่ากันอุตลุด มุ่งหน้าเข้าสู่ส่วนลึกของป่าทึบ ออกห่างจากธารนํ้าลึกแห่งนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ…

นี่ก็คือผลลัพธ์ที่กู้ซีจิ่วต้องการ ความเร็วในการวิ่งของสัตว์ร้ายเทพสัชฌะตัวนี้ไม่นับว่าว่องไวสักเท่าใด อีกทั้งเสียงคำรามก็ไม่นับว่าดัง สัตว์ร้ายที่

ร่างกายใหญ่โตมโหฬารถึงเพียงนี้ ทว่าเสียงคำรามที่เปล่งออกมากลับเบาปานเสียงนกร้อง เมื่อวิ่งเข้าสู่ส่วนลึกของป่า ต่อให้มันอยากกู่ร้องเรียกพวกพ้องขึ้นมาอีก ก็จะถูกเสียงร้องคำรามของสัตว์อื่นๆ ในป่ากลบไว้

แผนที่กู้ซีจิ่วดีดลูกคิดรางแก้วไว้ไม่เลวเลย กล่าวได้ว่าไม่มีทาง พลาด แต่ทุกเรื่องล้วนเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ เย่หงเฟิงก็คืออุบัติเหตุข้อนั้น กู้ซีจิ่วได้ยินเสียงกรีดร้องของเธอแว่วมาจากที่ไกลๆ!

กู้ซีจิ่วมองไปตามเสียง เห็นเย่หงเฟิงอยู่บนต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากสัตว์ร้ายเทพสัชฌะตัวนั้น ทิศทางที่สัตว์ร้ายเทพสัชฌะตัวนั้นวิ่งไปคือทิศทางนั้นที่เธออยู่ วรยุทธ์ของเธอต่ำต้อยใจก็ไม่กล้า ถูกไอพลังไร้รูปลักษณ์บนร่างสัตว์ร้ายเทพสัชฌะตัวนั้นกดทับทันที สั่นไปทั้งตัวปานตะแกรงร่อน วิ่งไม่ออก หลับตากรีดร้องอยู่ตรงนั้น…

สัตว์ร้ายเทพสัชฌะตัวนั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นจำพวกยำเกรงผู้แข็งแกร่งรังแกผู้อ่อนแอ มันถลึงดวงตาเล็กๆ แวบหนึ่ง พุ่งไปทางเย่หงเฟิงทันที คิดจะกินเจ้ามนุษย์กะจ้อยร่อยผู้นี้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน ส่วนหลงซือเย่ที่อยู่ด้านหลังมัน อยู่ห่างออกไปหลายสิบลี้ ไม่อาจมาช่วยเหลือได้ทันกาลในชั่วขณะ…

กู้ซีจิ่วสบถเสียงต่ำคราหนึ่ง เคลื่อนย้ายไปยังต้นไม้ใหญ่ต้นนั้นทันที ชิงไปถึงก่อนที่สัตว์ร้ายเทพสัชฌะตัวนั้นจะพุ่งทะยานไปถึง กอดเย่หงเฟิงไว้แล้วเคลื่อนย้ายจากไปอีกครั้ง!

เธอเกือบจะถูกฟันแหลมคมที่ยื่นออกมาของสัตว์ร้ายเทพสัชฌะตัวนั้นแล้ว หากเธอช้าไปแม้แค่วินาทีเดียวไม่เพียงแต่จะช่วยเหลือผู้อื่นไม่ได้เท่านั้น ยังต้องเอาชีวิตน้อยๆ ของตัวเธอเองไปสังเวยอีกด้วย!

ต่อให้เป็นเช่นนี้ สายลมกรรโชกที่เกิดขึ้นยามสัตว์ร้ายเทพสัชฌะตัวนั้นมาถึงก็เปรียบเสมือนมีดนํ้าแข็ง กรีดเสื้อผ้าบนร่างเธอขาดวิ่น…

การกระทำของเธอเป็นการฉกเนื้อจากปากเสือโดยแท้ ช่วยเหลือผู้อื่นอย่างไม่คิดชีวิต ทุกอย่างนี้ล้วนอยู่ในสายตาของหลงซือเย่ทั้งสิ้น เขาก็ไม่ทราบ

เช่นว่าเป็นห่วงเย่หงเฟิงหรือกู้ซีจิ่วกันแน่ ใบหน้าหล่อเหล่าซีดขาวในชั่วพริบตา เพียงแต่เขาก็ยังตกตะลึงไปครู่หนึ่งเช่นกัน จากนั้นก็โจมตีเข้าที่ศีรษะของสัตว์ร้ายเทพสัชฌะอย่างรุนแรง

บัดนี้มาถึงส่วนลึกของป่าแล้ว เขาไม่หวั่นเกรงว่าเจ้าสัตว์ตัวนี้จะเรียกพวกพ้องมาอีกแล้ว ย่อมผ่อนคลายเป็นธรรมดา ถึงขั้นที่สู้อย่างเต็มที่ได้แล้ว!

และเพียงครู่เดียวก็ทำให้สถานการณ์พลิกผันได้ เขาราวกับคลายผนึกได้แล้วซัดสัตว์ร้ายเทพสัชฌะตัวนั้นจนมืนงงสับสนทิศทาง

กู้ซีจิ่วพาเย่หงเฟิงมาปล่อยไว้บนต้น ไม้ใหญ่ที่ใบไม้เขียวชอุ่มดกเป็นพุ่ม เธอหงุดหงิดยิ่งนัก “เย่หงเฟิง มิใช่ว่าเจ้ารออยู่บนต้นไม้ใหญ่ทางทิศตะวันตกหรอกหรือ? เหตุใดถึงวิ่งมาทางทิศใต้นี้ได้?!”

เย่หงเฟิงหดตัวลงเล็กน้อย แทบจะร้องไห้แล้ว “บนต้นไม้ที่ข้ารออยู่ก่อนหน้านี้ จู่ๆ ก็มีงูเหลือมตัวหนึ่งเลื้อยมา ข้ากลัวก็เลยหนีมาทางนี้ คาดไม่ถึงว่าสัตว์ร้ายเทพสัชฌะตัวนี้จะวิ่งเข้ามา…”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version