Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1098

บทที่ 1098 เจ้าอยากจะพูดอะไรกันแน่?

หลงซือเย่หน้าซีดเผือด ไม่พูดอะไร บางทีเขาอาจเคยมีความคิดเช่นนี้ในก้นบึ้งหัวใจของตนก็เป็นได้?

โม่เจ้าถอนใจเบาๆ “แม้อูอู๋เหยียนจะมุ่งร้ายต่อเจ้า แต่เป็นสามีภรรยากันวันเดียว ความสัมพันธ์ลึกซึ้งไปแสนนาน จะดีร้ายอย่างไรเจ้ากับนางก็เคยมีสัมพันธ์กัน อีกทั้งนางรักเจ้าด้วยความจริงใจ…”

หลงซือเย่ตัดบทเขา “ความรักของนางทำให้ข้าขยะแขยงนัก! หากวันนี้เจ้ามาเพื่อพูดเรื่องนี้โดยเฉพาะก็รีบออกไปซะ!”

โม่เจ้ายืนกอดอก มุมปากโค้งยิ้มเกินหยั่ง สายสัมพันธ์ของเขากับอู๋เหยียนใช้วิชามนตราชนิดหนึ่ง วิชานี้อยู่ในวิญญาณ หากต้องการติดต่อกันก็เพียงแค่ร่ายคาถา แน่นอนสำหรับอูอู๋เหยียนแล้ว วิชานี้สิ้นเปลืองพลังวิญญาณยิ่งนัก หากไม่มีเรื่องด่วน นางจะไม่ติดต่อโม่เจ้า ต่อให้ติดต่อมาก็คงพูดรวบรัดคำสองคำ ทุกครั้งไม่เกินหนึ่งนาที

เมื่อใช้เคล็ดวิชานี้ หากทั้งสองฝ่ายต้องการจะทำให้อีกฝั่งได้ยินการเคลื่อนไหวรอบตัวได้อูอู๋เหยียนจึงได้ยินบทสนาของโม่เจ้ากับหลงซือเย่ชัดเจนแจ่มแจ้ง

“อู๋เหยียน คราวนี้เจ้าได้ยินเสียงเขาแล้วใช่ไหม? รู้สึกอย่างไรบ้าง?” สุ้มเสียงของโม่เจ้าฟังดูยินดีในทุกข์ของผู้อื่น

อีกฝั่งนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง “เป็นไปตามคาด อู๋เหยียนไม่มีอะไรจะพูดอีก! หวังเพียงท่านเจ้าจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับอู๋เหยียน จะละเว้นชีวิตเขาไปตลอด ให้เขาได้มีชีวิตต่อไป”

เสียงของโม่เจ้าเย็นชา “ลุ่มหลงงมงาย! วางใจเถอะ เรื่องที่ข้ารับปากเจ้าไม่มีทางคืนคำ! ตอนนี้เจ้าแจ้งข่าวใหญ่ที่เจ้าบอกได้แล้วกระมัง?!”

“เหยียนนั่วคือตี้ฝูอี” อูอู๋เหยียนเผยข่าวใหญ่น่าตะลึงออกมาอย่างราบเรียบ

โม่เจ้ากล่าว “…เจ้าพูดอีกรอบ!”

“เหยียนนั่วคือตี้ฝูอี ข้าน้อยเห็นมากับตา ได้ยินมากับหู เขาไม่ได้ระแวดระวังข้าน้อย บอกฐานะของเขาออกมาตรงๆ แจ้งว่าเขาธาตุไฟเข้าแทรกจึง กลายเป็นเด็ก แต่ไม่อยากผิดนัดกับกู้ซีจิ่วอีกจึงปลอมตัวเป็นอิงเหยียนนั่วมาอยู่ข้างกายนาง เพียงแต่ไม่อยากให้นางรู้เท่านั้น คราวนี้หากไม่ใช่เพราะข้าน้อยคอยเร่งให้เขาไปหาตี้ฝูอี เขาคงยังไม่ยอมบอกความจริงเป็นแน่ นอกจากนี้เขายังคืนร่างเดิมให้ข้าน้อยได้ยลโฉมด้วยเจ้าค่ะ”

โม่เจ้านิ่งอึ้ง เขาใช้เวลาครึ่งนาทีเต็มวิเคราะห์ข่าวนี้ จิตใจพลันหมองเศร้า เคยมีศัตรูที่เขาปรารถนาจะปลิดชีวิตมาโดยตลอดผู้หนึ่งสูญเสียวรยุทธ์แล้วปลอมตัวเป็นเด็กน้อยวนเวียนไปมาต่อหน้า แต่เขากลับมีตาหามีแววไม่ เพิกเฉยต่อเด็กคนนั้นไปเสีย หากเขาลงมือเสียตั้งแต่ตอนนั้น ตี้ฝูอีได้แตกดับคามือของเขาแน่!

โอกาสที่สุดแสนวิเศษขนาดนั้น เขากลับปล่อยหลุดลอยไปได้!

มันช่างเหลือทนนัก…

โม่เจ้ากดเลือดที่จะกระอักไว้ในลำคอ เขาชะงักงันครู่หนึ่ง รู้สึกว่าเรื่องน่ารำคาญแบบนี้ไม่อาจกวนใจเขาคนเดียวได้ เขาจึงมองไปทางหลงซือเย่ “หลงซือเย่ เจ้าเกลียดชังตี้ฝูอีหรือไม่?”

หลงซือเย่แน่นิ่ง หลุบตาไม่ตอบ

เกลียดหรือไม่?

ก็ต้องเกลียดเป็นแน่ หากไม่ใช่ตี้ฝูอี หญิงอันเป็นที่รักคงไม่เปลี่ยนท่าทีไป หากไม่ใช่เพราะตี้ฝูอี กู้ซีจิ่วอาจอยู่ครองคู่ชู้ชื่นกับเขาแล้ว…

หลงซือเย่เอ่ยเบาๆ “เกลียดแล้วอย่างไร? ต่อให้ข้าเกลียดเขาก็ไม่มีทางร่วมมือกับเจ้า! เส้นทางแตกต่างไม่อาจร่วมทางกัน!”

โม่เจ้ายิ้มบางๆ “หากเจ้ามีโอกาสจัดการเขาได้อย่างง่ายดายเจ้าจะลงมือหรือไม่?”

หลงซือเย่กล่าวตอบ “…เจ้าอยากจะพูดอะไรกันแน่?”

โม่เจ้าถอนใจ “เจ้าเคยมีโอกาสอยู่ตรงหน้า ลงมือส่งเดชก็ปลิดชีพเขาได้ น่าเสียดายก็แต่เจ้ามีตาไม่มีแววปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version