Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1097

บทที่ 1097 เจ้าจะบังคับนาง?

เย่หงเฟิงในคราวนี้ก็เป็นนางที่แฝงร่างปลอมตัวไป นางคือผู้สืบทอดของตระกูลเคล็ดคาถา เชี่ยวชาญการใช้อาคม ดังนั้นเมื่อติดตามอยู่ข้างกายหลงซือเย่ นางจึงใช้วิชานี้กับโอสถพิศวงของหลงฟั่นควบคุมหลงซือเย่ได้…

โม่เจ้าหัวเราะเบาๆ “อู๋เหยียน นี่เจ้าจะบีบบังคับข้าหรือ?”

ฝ่ายอู๋เหยียนชะงักไปเล็กน้อย “อู๋เหยียนได้ข่าวใหญ่ยิ่งมาสามารถทำให้ท่านเจ้าสมปรารถนาได้ แต่อู๋เหยียนอยากทราบข่าวคราวของหลงซือเย่หวัง ว่าท่านเจ้าจะบอกกล่าวเจ้าค่ะ”

“อู๋เหยียน เจ้าช่างบังอาจนัก!” นํ้าเสียงโม่เจ้าเย็นชาลง

“ท่านเจ้า ครานี้อู๋เหยียนแฝงตัวอยู่ในหมู่ศัตรู ไม่ว่าท่านเจ้าจะทำสำเร็จหรือไม่ อู๋เหยียนก็คงไม่อาจกลับไปเกิดใหม่ได้อีก อีกทั้งหลงซือเย่เป็นสิ่งยึดมั่นของอู๋เหยียน…”

“เขาสบายดี! ในเมื่อข้ารับปากเจ้าแล้วย่อมรักษาสัญญาไว้ชีวิตเขา”

“อู๋เหยียนอยากได้ยินเสียงของเขาสักเล็กน้อยเจ้าค่ะ”

“บังอาจ! นี่เจ้าไม่ไว้วางใจข้าหรือ!?”

“มิกล้า นี่คือความปรารถนาสุดท้ายของอู๋เหยียน” อูอู๋เหยียนไม่ยอมลดละ

โม่เจ้านิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง “ช่างเถิด เห็นแก่ที่เจ้าซื่อสัตย์จงรักภักดีทำงานให้ข้า ข้าจะให้เจ้าฟังเสียงเขาสักหน่อยก็แล้วกัน”

ร่างเขาวูบไหว หายตัววับไปจากห้อง และพลันปรากฏกายอีกครั้งที่ห้องคุมขัง

หลงซือเย่ภายในห้องคุมขังนั่งซึมเซื่องอยู่ตรงนั้น บนตัวมีกุญแจขังวิญญาณอันหนักอึ้ง ต่อให้มีพลังวิญญาณลํ้าลึกกว่านี้ก็ไม่สามารถออกมาได้ เขาเงยหน้า เมื่อได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว ดวงตาคมกริบมองโม่เจ้าแวบหนึ่งก่อนก้มหน้าดังเดิม

“เจ้าสำนักหลง คงทราบว่าข้าเป็นใคร?”

หลงซือเย่หลุบตาลงคล้ายภิกษุชราเข้าฌาน ไม่สนใจเขาสักนิด

โม่เจ้ายิ้มพลางกางพัดจีบ โบกไปมาอย่างเอ้อระเหย “เจ้าสำนักหลงคงไม่มีทางจำข้าไม่ได้จริงๆ หรอกกระมัง ท่านยังเคยไปตรวจรักษาให้ข้าเลย”

รอยยิ้มดุจบุปผาบานยามวสันต์ของเขา ใครเห็นเป็นต้องใหลหลง แต่หลงซือเย่ทำเหมือนไม่ได้ยินยังคงไม่สนใจ

โม่เจ้าทอดถอนใจ ในที่สุดก็ต้องงัดไม้ตายออกมา “อีกไม่กี่วันข้าจะได้ร่วมหอลงโรงกับซีจิ่วแล้ว เจ้าไม่ยินดีกับข้าหน่อยหรือ?”

หลงซือเย่ลืมตาขึ้นฉับพลัน แววตาเสมือนอัสนี “เจ้าจะบังคับนาง?!”

เนื่องจากทนทุกข์ทรมานมาหลายวัน เสียงของเขาจึงแหบแห้ง แต่ยังคงไพเราะน่าฟัง

รอยยิ้มของโม่เจ้าอ่อนโยนยิ่งขึ้น “ได้อย่างไรกัน? เรื่องนี้ข้าไม่มีทางบังคับขืนใจใคร เช่นนั้นน่าเบื่อจะตาย? ข้าจะทำให้นางยินยอมแต่งกับข้าเอง”

“ฝันไปเถิด!” หลงซือเย่หลับตาลงอีกครั้ง ด้วยความเข้าใจที่เขามีต่อกู้ซีจิ่ว เธอสูญเสียความทรงจำในชาตินี้ไปแล้ว และไม่อาจพึงใจใครอีกง่ายๆ เรื่องจะชอบพอคนที่อยู่ตรงหน้านี้ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง ยามนี้อยากให้เธอยินยอมแต่งงานด้วยยิ่งเป็นเรื่องเพ้อฝันของคนสติฟั่นเฟือน

นํ้าเสียงของโม่เจ้านุ่มนวล “ฝันไปงั้นรึ? ยังไม่เคยมีสิ่งใดที่ข้าปรารถนาแล้วไม่ได้มา อย่างช้าครึ่งเดือน ข้าต้องได้ร่วมหัวจมท้ายกับนาง เรื่องนี้ต้องยกความดีความชอบให้เจ้าเมื่อถึงเวลาข้าจะเชิญเจ้ามาดื่มเหล้ามงคลสักแก้ว”

“เจ้าจะใช้ยากับนาง?!”

โม่เจ้าเงยหน้าพลางยิ้ม “เรื่องนั้น…วิธีของข้า ไม่เพียงแต่ใช้ยาอย่างเดียว”

หลงซือเย่กระชับกำปั้นแน่น “หากเจ้ารักนางด้วยใจจริง ก็หาหนทางทำให้นางรักเจ้า ไม่ใช่ใช้วิธีเลวทรามตํ่าช้าเช่นนี้ เจ้าเป็นถึงท่านเจ้าผู้ทรงเกียรติ เหตุใดจึงป่าเถื่อนเช่นนี้ได้?”

โม่เจ้าหรี่ตามองเขา “หลงซือเย่ดูเหมือนในใจเจ้าจะมีแต่กู้ซีจิ่ว เจ้าไม่สนใจเย่หงเฟิงแล้วหรือ?”

หลงซือเย่ชะงักงันก่อนยิ้มเยาะ “สนใจ? ข้าไม่เคยสนใจนาง! นางทำให้ข้าทำผิดพลาดครั้งใหญ่หลวง น่าเสียดายที่ข้าไม่ได้สังหารนางด้วยตัวเอง…”

โม่เจ้า ถอนใจ “นางใช้วิชากับตัวยาเพื่อควบคุมเจ้าก็จริง แต่ยานั้นเพียงขยายจิตมารของเจ้าอย่างไร้ขีดจำกัดเท่านั้น เจ้ากล้าพูดหรือไม่ว่าเจ้าไม่มีความคิดจะสังหารกู้ซีจิ่วแล้วให้นางฟื้นคืนชีพอีกครั้งในร่างที่เจ้าสร้างขึ้น?”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version