บทที่ 1119 เจ้ามานี่ซิ
เธอเป็นถึงนักฆ่า เชี่ยวชาญการสังเกตสีหน้าและคำพูดเป็นที่สุด สายตาก็โหดเหี้ยมยิ่งนัก หลังจากเธอกวาดสายตาดูอย่างละเอียด หัวใจยังคงเต้นระรัว!
เธอเห็นคนของโม่เจ้าแล้ว!
โดยปกติลูกน้องพวกนั้นของโม่เจ้าจะไม่ออกมาเดินเพ่นพ่าน พวกเขาไม่ได้แปลงโฉมแม้แต่น้อย เพียงแต่เปลี่ยนอาภรณ์เป็นแบบธรรมดาของชาวบ้านเท่านั้น มีการแต่งตัว หลากหลายรูปแบบ พ่อค้าขายของหาบเร่ นักเลงหัวไม้เดินเตร็ดเตร่ ชายฉกรรจ์บนถนนที่กำลังสนทนาพาที…
พวกเขาเหมือนกำลังทำธุระของตัวเองแต่สายตาคอยจดจ้องไปทางภัตตาคารที่ตี้ฝูอีอยู่เนืองๆ พวกเขาทำเหมือนไม่จงใจ กลับปิดกั้นเส้นทางหลบหนีรอบด้านของภัตตาคารไว้หมดแล้ว เห็นได้ชัดว่าจงใจปิดล้อม
กู้ซีจิ่วสอดส่องสายตามองดูรอบๆ ‘ตอนนี้โม่เจ้านั่นไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ไหนกันแน่? แล้วจะปรากฏตัวออกมาในรูปแบบไหน?’
กู้ซีจิ่วเป็นกังวลจนวุ่นวายใจ ถึงแม้รู้อยู่แล้วว่าด้วยความฉลาดของตี้ฝูอี อย่างไรก็ต้องวางกับดักไว้ในละแวกนี้บ้าง แต่เธอมองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นคนของเขา จึงยังไม่ค่อยวางใจ สถานการณ์ตอนนี้เหมือนวันก่อนวันพายุมรสุมโหมกระหนํ่า ดูเหมือนคลื่นลมสงบ แต่ความจริงเต็มไปด้วยจิตสังหาร พร้อมที่จะถาโถมเข้าใส่ตลอดเวลา!
“เห็นอะไรบ้างไหม?” หลงฟั่นพลันโผล่มาด้านหลังเธอ เอ่ยด้วยนํ้าเสียงเยือกเย็น
กู้ซีจิ่วไม่หันหน้าไปมอง ขยับ ปากเหมือนจะพูดอะไร แต่เสียงของเธอเบาเกิน ไป หลงฟั่นไม่ได้ยิน “เธอพูดอะไร?”
“หลงฟั่น วันนี้คุณพาฉันมาดูละครอะไรกันแน่? ทำไมถึงยังไม่เริ่มอีก?” คำพูดนี้ของกู้ซีจิ่วแทบจะตะโกนก็ว่าได้ แน่นอนเสียงเธอยังไม่มีทางดังได้ แต่อย่างน้อยคนในห้องนี้ต่างก็ได้ยินกันหมด
ความจริงแล้วใจเธอยังมีความหวังเล็กน้อย หวังให้ตี้ฝูอีที่อยู่ฝั่งตรงข้ามได้ยินคำพูดของเธอสักหน่อย…
หากแต่เธอทำได้เพียงตะโกนประโยคนี้ เนื่องจากฝ่ามือของหลงฟั่นวางอยู่ตรงตำแหน่งด้านหลังหัวใจเธอ “ถ้าตะโกนอีกฉันจะฆ่าเธอซะ!”
“ชิ ก็คุณฟังไม่ได้ยินก่อนไม่ใช่หรือไง” กู้ซีจิ่วเหยียดหยาม
ในขณะที่สองคนกำลังวุ่นกันอยู่นั้น ประตูของห้องอันโอ่อ่าก็ถูกเคาะเบาๆ สองที เมื่อหลงฟั่นขานรับ เสมียนร้านพาหญิงสาวผู้หนึ่งเดินเยื้องย่างเข้ามา ยิ้มประจบสอพลอก่อนเอ่ยถาม “นายท่านต้องการฟังผีผาเพื่อความเพลิดเพลินหรือไม่ขอรับ? แม่นางผู้นี้เป็นนักเล่นผีผาที่มีชื่อเสียงมากของที่นี่ เล่นผีผาได้ยอดเยี่ยมเป็นที่สุด…”
การบริการของนักดนตรีหญิงในภัตตาคารแบบนี้เป็นเรื่องที่เห็นจนชินตา แต่หลงฟั่นก็ไม่ไว้วางใจ เขาไม่อยากให้มีใครมารบกวน ขณะกำลังจะบอกปัด กู้ซีจิ่วก็เอ่ยปากเสียแล้ว “หลานรัก ปู่ไม่ได้ดูละคร ได้ฟังบทเพลงบรรเลงผีผาก็ยังดี”
แม้ว่าเสียงของเธอไม่ดัง ดีร้ายเสมียนร้านที่อยู่ห่างไปไม่ไกลก็ยังพอได้ยิน พลันเผยรอยยิ้มบนใบหน้า “ท่านผู้อาวุโสใคร่ฟัง ผีผาที่แม่นางผู้นี้เล่นยอดเยี่ยมจริงๆ ขอรับ”
ในเมื่อท่านปู่พูดเช่นนี้ หลงฟั่นหลานรักย่อมไม่อาจขัดข้อง เขาใจเต้นวูบหนึ่ง มองดูแม่นางคนนั้น การแต่งกายของนางสะอาดหมดจด ผมสีหมึกยาวระเอว รูปโฉมประณีตงดงาม ผิวพรรณซีดขาวไปบ้าง บุคลิกค่อนข้างเย็นชา นางกอดผีผาตัวหนึ่งไว้ในอ้อมอก ยืนก้มหน้าเล็กน้อย งดงามเยือกเย็นดังบุปผางามสะท้อนในสายธาร กิริยาดังต้นหลิวลู่ลม
หลงฟั่นเอ่ย “เจ้ามานี่ซิ ให้ข้าดูผีผาของเจ้าสักหน่อย”
สตรีผู้นั้นก้าวเดินไปข้างหน้าตามคาด แต่ไม่รู้ว่าสะดุดอะไรเข้า จึงเดินโซเซโผไปทางหลงฟั่น!
หลงฟั่นยื่นมือไปประคองนาง “เหตุใดจึงเลินเล่อเช่นนี้?”
เขาให้นางยืนอย่างมั่นคง พร้อมถือโอกาสรับผีผามา
กู้ซีจิ่วยิ้มเยาะในใจ เมื่อกี้สตรีผู้นั้นไม่ใช่เลินเล่อสะดุดล้มลงไปหรอก ทว่าเป็นแผนการของหลงฟั่น คาดว่าเจ้านั่นคิดจะทดสอบวรยุทธ์ของนางสักหน่อย ช่างระวังตัวเสียจริง!