บทที่ 515
ข้าเชื่อนาง 6
มุมปากกู้ซีจิ่วกระตุกแวบหนึ่ง ไม่มีวัฒนธรรมช่างน่ากลัวจริงๆ! เจ้าหอยยักษ์ที่ไม่มีวัฒนธรรมยิ่งน่ากลัวกว่า! ต่อไปคงต้องบังคับให้มันอ่านหนังสือซะบ้าง…
เจ้าหอยยักษ์บอกกล่าวความไม่เป็นธรรมออกมาเรื่อยๆ มันอ้าฝากลับคือร่างเดิมให้กู้ซีจิ่วมองเนื้อหอยที่อ่อนนุ่มของมัน “เจ้านาย พวกเขางัดเปลือกข้า ใช้เข็มแทงข้า ใช้ดาบกรีดข้า อีกทั้งยังเอาเหล็กมานาบข้าด้วย! พวกเขาถึงขั้นคิดจะกะเทาะเปลือกข้าด้วย!”
เจ้าหอยยักษ์ตัวนี้ดูเหมือนจะได้รับความลำบากไม่น้อยเลยจริงๆ เนื้อหอยอันนุ่มนิ่มของมันเต็มไปด้วยรอยเข็ม แม้กระทั่งครีบหอยยังถูกนาบจนหนังลอกเป็นชั้นๆ…
ดูน่าสยดสยองยิ่งนัก
ที่แท้สำนักศึกษาที่ดูสูงส่งก็มีบทลงโทษที่ต่ำช้าเช่นนี้อยู่ บทลงโทษที่ต่ำช้าไม่ต่างจากในโลกมนุษย์
สีหน้ากู้ซีจิ่วเขียวคลํ้าแล้ว!
ในชีวิตนี้ของเธอมีคนหรือสิ่งมีชีวิตที่ใส่ใจอยู่ไม่มากนัก แต่ถ้าใส่ใจแล้ว ถูกเธอนับว่าเป็นพวกพ้องของเธอแล้ว เธอก็จะปกป้องให้ถึงที่สุด! ไม่ยอมให้ได้รับความอัปยศอดสูเด็ดขาด!
เธอมองกู้ฉานโม่อย่างเย็นชา “อาจารย์ใหญ่ผู้สูงส่งของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ทำได้เพียงลงมือกับหอยที่ไร้ความผิดตัวหนึ่งงั้นหรือ?! ถ้าหากฆาตกรไม่ใช่มัน อาจารย์ใหญ่กู่จะต้องมอบคำอธิบายให้แก่ข้า!”
กู่ฉานโม่นิ่งงัน
เขาก็ไม่ยอมเช่นกัน เขายังคงเชื่อมั่นว่าหอยตัวนี้คือฆาตกร “ได้ ถ้าฆาตกรไม่ใช่มัน อาจารย์ใหญ่เช่นข้าจะมอบคำอธิบายให้แก่เจ้า แต่ถ้าใช่เล่า?”
“หากว่าเป็นมันจริงๆ ข้าจะมอบมันให้อาจารย์ใหญ่กู่ด้วยมือตน จะตุ๋นหรือจะย่างข้าก็จะไม่คัดค้านเลย! แต่ถ้าไม่ใช่ อาจารย์ใหญ่กู่จะมอบคำอธิบายให้ข้าอย่างไร?”
กู่ฉานโม่ก็ยอมทุ่มสุดตัว “ถ้าหากไม่ใช่มัน ข้าผู้เป็นอาจารย์ใหญ่ จะยอมรับโทษแบบเดียวกับมัน!”
ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ที่เล่นหมากรุกกับตัวเองมาตลอดเอ่ยขึ้นมาอย่างเฉยเมย “เพิ่มของกู้ซีจิ่วเข้าไปด้วย”
ฝูงชนงงงวย
ทุกคนไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองไปชั่วขณะ
น้ำเสียงท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เฉยชา “นางถูกล่ามด้วยโซ่สะกดมารอยู่ในคุกสะกดมาร 3 วัน หากนางเป็นผู้ถูกปรักปรำ กู่ฉานโม่ เจ้าต้องรับโทษทัณฑ์เช่นเดียวกับนาง”
เขาใช้นิ้วคีบตัวหมากเคาะกระดานหมากรุกเบาๆ “แต่วรยุทธ์ของเจ้าสูงกว่านางมาก หากเจ้าเพียงแค่รับโทษเช่นเดียวกับนางจะแสดงความจริงใจของเจ้าออกมาไม่ได้ เช่นนั้นพอถึงเวลาเจ้าก็ถูกขังอยู่ในนั้นสัก 30 วันเถอะ”
กู่ฉานโม่ตะลึง
“เช่นนั้นหากฆาตกรเป็นพวกนางล่ะขอรับ?” กู่ฉานโม่ทำใจกล้าถามออกมา
“ไม่ใช่พวกนาง” น้ำเสียงท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เรียบเรื่อย “ศิษย์ของเปิ่นจุนไม่ว่าจะเป็นบุคลิกหรือนิสัย เปิ่นจุนตรวจสอบด้วยตัวเองจนแน่ชัดแล้ว นางไม่ทำเรื่องเช่นนี้แน่ ส่วนหอยตัวนี้…นางบอกว่าไม่ใช่มันก็แปลว่าไม่ใช่มัน”
กู่ฉานโม่พูดไม่ออก
ในใจกู้ซีจิ่วพลันอุ่นวาบขึ้นมา!
ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เชื่อเธอ! เชื่อเธอที่เคยพบหน้ากันเพียงหนเดียว!
ถึงเขาจะบอกว่าเขาเคยตรวจสอบเธอแล้ว แต่หัวใจเธอก็ยังรู้สึกอบอุ่นเพราะวาจานี้ของเขา
ยามที่เธอถูกรุมชี้นิ้วใส่ ถึงได้ทราบว่าความวางไว้ใจจากใครสักคนสำคัญเพียงใด…
เธอมองเขาอีกครั้งอย่างอดใจไว้ไม่อยู่ ทว่าสายตาของเขาเคลื่อนกลับไปอยู่ที่กระดานหมากแล้ว…
เจ้าหอยยักษ์ใช้ฝาหอยหนีบมุมชุดกู้ซีจิ่วเบาๆ “เจ้านาย ข้าเจ็บ…”
สายตากู้ซีจิ่วมองไปที่กู่ฉานโม่ ยื่นมือออกไปหาเขา “คืนของข้ามา!”
ข้าวของเธอล้วนถูกยึดไปจนหมด รวมถึงยารักษาโรคด้วย
ยามนี้กู่ฉานโม่ก็ไม่หวั่นเกรงว่านางจะเล่นเล่ห์แล้ว จึงคืนข้าวของให้นาง
กู้ซีจิ่วยังไม่จบเรื่อง มอบยาให้เจ้าหอยยักษ์ พลางเอ่ยถาม “แล้วลู่อู๋กับเพรียกวายุล่ะ? พวกมันอยู่ที่ไหน? จะคืนให้ข้ายามใด?”
กู่ฉานโม่ตอบ “วางใจได้ สองตัวนั้นได้รับการดูแลอย่างดี รอเรื่องนี้เสร็จสิ้น ข้าจะคืนให้เจ้าโดยไม่บุบสลาย”
………………………….
ในที่สุดทูตส่างซั่นและทูตเฉิงเอ้อก็กลับมาแล้ว พวกเขาต่างคนต่างนำผลการตรวจสอบของตนมาด้วย