Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1127

บทที่ 1127 ละครพลิกผัน 2

เธอใจเต้นแวบหนึ่ง หรือว่าสองคนนี้กำลังประชันกันอย่างไม่รู้ตัวอยู่?

บรรเลงบทเพลงไปได้ครึ่งหนึ่ง ตี้ฝูอีก็ดีดต่อไปไม่ได้แล้ว นิ้วมือเขาชะงัก สายผีผาจึงถูกปลายนิ้วเขาเกี่ยวจนขาด โชคดีที่เขาชักมือกลับอย่างรวดเร็ว มิเช่นนั้นเกรงว่าคงถูกบาดนิ้วแล้ว

โม่เจ้าก็หยุดบรรเลงเช่นกัน ดูเหมือนเขาจะยังไม่หนำใจ “ทำไมไม่ดีดต่อ?”

ตี้ฝูอีมองผีผาของเขา “สายขาดแล้วเจ้าค่ะ”

พลางเริ่มขึ้นสายผีผาอีกครั้ง

โม่เจ้ายิ้มอย่างสง่างามแวบหนึ่ง ไม่สนใจเขาอีก

….

ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม อุณหภูมิในรถร้อนขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมองจากที่ไกลๆ สามารถมองเห็นควันจากภูเขาไฟลูกนั้นลอยโขมงขึ้นมาแล้ว

ตี้ฝูอีมองภูเขาไฟลูกนั้นลอบถอนหายใจคราหนึ่ง หลายวันก่อนเขาเคยตามรอยหลงซือเย่มาถึงสถานที่แห่งนี้แล้ว ซํ้ายังพบร่างโคลนนิ่งร่างนั้นของเย่หงเฟิงด้วย อันที่จริงยามนั้นเขาก็รู้สึกเช่นกันว่าในภูเขาไฟลูกนี้อาจมีปริศนาอะไรอยู่ ด้วยเหตุนี้จึงส่งสายลับมาสืบค้นสถานที่แห่งนี้ดูรอบหนึ่งแล้ว ไหนเลยจะคาดคิดว่าพวกเขาจะอยู่ใต้ลาวาภูเขาไฟ…

หลงฟั่นผู้นี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ!

เป็นอัจฉริยะคนหนึ่ง

“ซีจิ่ว พวกเราถึงบ้านแล้ว” โม่เจ้าที่นั่งอยู่ข้างกายกู้ซีจิ่ว ยื่นมือไปหมายจะพยุงเธอลุกขึ้น

“ให้บ่าวทำเถอะเจ้าค่ะ” สตรีบรรเลงผีผาก้าวเข้ามาอย่างกระตือรือร้น

โม่เจ้าก็ไม่ยื้อแย่งกับผู้อื่น ผลักกู้ซีจิ่วที่อยู่ในอ้อมอกไปทางสตรีบรรเลงผีผานางนั้นจริง ๆ “ได้ ระวังด้วยล่ะ”

วินาทีนั้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันขึ้น!

เวลาเดียวกับที่โม่เจ้าผลักกู้ซีจิ่วไปด้านหน้า คมมีดที่เปรียบดังอสรพิษก็พุ่งออกมาด้วย พุ่งตามกู้ซีจิ่วหมายจะแทงเข้าที่ทรวงอกของสตรีบรรเลงผีผา!

วรยุทธ์เขาสูงส่ง อีกทั้งครั้งนี้เป็นการจู่โจมอย่างกะทันหันด้วย ระยะทางก็ใกล้กันถึงเพียงนี้ ตามที่เขาคำนวณไว้ตี้ฝูอีต้องหลบไม่พ้น!

จะต้องแทงทะลุทรวงอกของอีกฝ่ายได้แน่นอน!

นึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะตื่นตัวยิ่งนัก ถึงแม้เรื่องจะเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่ความสามารถในการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินกลับแกร่งกล้าเหนือธรรมดา ร่างกายโค้งงอปานคันธนู คมมีดสีเขียวเจิดจ้าเล่มนั้นจึงแทงเฉียดอกเขาไป!

การโจมตีท่านี้ของโม่เจ้ากรีดแทงผ่านอากาศปานฟ้าผ่า ไม่โดนแม้แต่สาบเสื้อของอีกฝ่าย

เรื่องครานี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เปลี่ยนแปลงว่องไวจนกู้ซีจิ่วก็นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเช่นนี้ เนื่องจากทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเกินไป แทบจะในชั่วพริบตาเท่านั้น การลอบกัดและปฏิกิริยาตอบสนองต่อการลอบกัดก็นับว่าเป็นการแข่งขันอย่างหนึ่ง

ผ่านไปอีกชั่วพริบตาหนึ่ง โม่เจ้าก็โอบเธอไว้ในอ้อมแขนแล้ว คมมีดสีเขียวในมือจ่ออยู่ที่ลำคอระหงของเธอ เขามองตี้ฝูอีที่กระเด้งตัวขึ้นมา ยิ้มอย่างผิดหวังยิ่งแวบหนึ่ง “ตี้ฝูอี ปฏิกิริยาตอบสนองของเจ้าช่างรวดเร็วจนน่าตะลึงจริงๆ ถึงขนาดนี้แล้วก็ยังทำร้ายเจ้าไม่ได้”

ความจริงเปิดเผยออกมาจนสิ้นแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะกลับตาลปัตรเช่นนี้

ตี้ฝูอีถอนหายใจ ทราบว่าตนถูกจับได้แล้ว เขาก็ตรงไปตรงมาเช่นกัน ไม่เสแสร้งแกล้งทำอีกต่อไป พลันกอดอกกล่าวขึ้นว่า “เจ้ามองข้าออกได้อย่างไร?”

โม่เจ้าหรี่ตาลงนิดๆ เมื่อเห็นกลิ่นอายของคนผู้นี้แข็งแกร่งขึ้นมาในชั่วพริบตาก็ยิ้มแวบหนึ่ง “ตี้ฝูอี เจ้าฉลาดมาก ชำนาญการใช้แผนซ้อนแผนถึงเพียงนี้ เพียงแต่เจ้าเป็นจิ้งจอก ข้าเองก็มิใช่ไก่อ่อนเช่นกัน ทักษะการแสดงของเจ้ายอดเยี่ยมนัก แต่ทักษะการแสดงของลูกน้องเจ้ายังด้อยอยู่บ้าง ซํ้ายังเผยพิรุธเล็กๆ น้อยๆ อีก ยกตัวอย่างเช่นเขาถูกอูอู๋เหยียนแทงอย่างง่ายดาย ถึงแม้อู้อู๋เหยียนจะวางยาพิษเขาล่วงหน้าแล้ว แต่ข้ารู้สึกอยู่เสมอว่าด้วยความฉลาดเฉลียวและฝีมือของเจ้า ต่อให้ติดกับไปชั่วขณะหนึ่ง ก็คงขับพิษออกมาได้ทันที ผลคือเขาไม่ทำ…”

โม่เจ้าเปิดโปงแผนการของตี้ฝูอี ซํ้ายังใจดียิ่งนักคลายข้อสงสัยให้เขาอย่างยินดีด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version