บทที่ 1161 ทำได้เพียงแค่พึ่งพาเขา…
ยิ่งไปกว่านั้น หากกู้ซีจิ่วมีความรู้สึกดีต่อตี้ฝูอีมาตลอด ก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องเลวร้ายสำหรับโม่เจ้า เช่นนี้เมื่อเขาสวมรอยเข้าใช้ร่างตี้ฝูอี กู้ซีจิ่วก็น่าจะยอมรับได้ เขาใช้กายเนื้อของตี้ฝูอีร่วมอภิรมย์กับนางอีกครั้งได้…
โม่เจ้าหมายตากายเนื้อของตี้ฝูอีมานานแล้ว แต่การครอบครองนั้นไม่ง่ายเลย ต้องทรมานให้ร่างกายและพลังวิญญาณของตี้ฝูอีอ่อนแอลงจนถึงที่สุด เขาถึงจะใช้การได้…
ทว่าตี้ฝูอีก็เป็นถึงร่างเทพเซียน หากเขาจะครอบครองร่างได้อย่างสมบูรณ์และออกคำสั่งได้ดังใจ อย่างน้อยต้องใช้เวลาปรับตัวสองปีขึ้นไป ดังนั้นต่อให้ตอนนี้เขาใช้ร่างโคลนนิ่งที่มีปัญหาเช่นนี้หรือเช่นนั้น เขาก็ไม่ค่อยขัดใจเสียเท่าใด…
ความคิดที่เขาจะเข้าสวมรอยใช้กายเนื้อของตี้ฝูอีเป็นความลับ ความคิดนี้เกิดขึ้นภายในใจของเขาเท่านั้น แม้แต่หลงฟั่นก็ไม่รู้ เขาก้มลงมองร่างกายของตนเอง มุมปากกระตุกยิ้มเย้ยหยัน ข้อบกพร่องของร่างโคลนนิ่งนี้เกรงว่าหลงฟั่นจะจงใจทำขึ้นมา เพื่อให้เขาไปจากหลงฟั่นไม่ได้ ทำได้เพียงแค่พึ่งพาตนเท่านั้น…
……
ยามพลบคํ่า พวกหมอที่โม่เจ้าส่งออกไปเก็บสมุนไพรกลับมาถึงในที่สุด ทำภารกิจได้อย่างสำเร็จราบรื่น เก็บสมุนไพรที่โม่เจ้าสั่งมาได้ทั้งสามชนิด
โม่เจ้าเกิดความรู้สึกคับข้องใจต่อหลงฟั่น ย่อมไม่ประสงคให้หลงฟั่นหลอมโอสถที่สำคัญเยี่ยงนี้ เคราะห์ดีที่หมอคนนั้นก็เป็นปรมาจารย์การหลอมโอสถ เป็นลูกมือของหลงฟั่นภายในวังใต้พิภพแห่งนี้อยู่บ่อยครั้ง อาจเพราะเป็นคู่แข่งร่วมอาชีพ โดยปกติความสัมพันธ์ของหมอคนนี้กับหลงฟั่นก็ไม่นับว่าดีเท่าใดนัก คอยขัดแข้งขัดขากันตลอด เวลานี้ ไม่ง่ายเลยที่โม่เจ้าจะเห็นความสำคัญเขา เขาย่อมต้องฉกฉวยโอกาสเลียแข้งเลียขาครั้งนี้เอาไว้ ทำดีต่อหน้า อาสาหลอมโอสถให้โม่เจ้า
โม่เจ้าย่อมยินดีเป็นที่สุด ตบบ่าของอีกฝ่ายเพื่อแสดงออกถึงความเชื่อมั่น และให้ความสำคัญ การกระทำเช่นนี้ของเขาทำให้หมอคนนี้นํ้าตาเอ่อคลอลืมความเหนื่อยล้าจากการเก็บสมุนไพรมาทั้งวัน เปิดเตาหลอมโอสถในห้องของตัวเองทันที
โม่เจ้ามองดูอยู่ตรงนั้นอย่างใจเย็น ทักษะการหลอมโอสถของหมอคนนั้นไม่ธรรมดาเลย เตาแรกก็หลอมโอสถระดับสามออกมาได้ถึงสองเม็ด
โอสถระดับสามของยาชนิดนี้ก็มีฤทธิ์ในด้านนั้น
หมอคนนั้นมอบโอสถสองเม็ดให้แก่โม่เจ้าด้วยความเคารพ โม่เจ้าหยิบขึ้นมาหนึ่งเม็ด และยื่นไปที่ริมฝีปากของหมอคนนั้น “หลี่สวงลำบากเจ้าแล้ว ยาเม็ดนี้คือรางวัลของเจ้า”
หมอคนนั้นตกตะลึงเล็กน้อย เขารู้ว่าท่านเจ้ายังไม่วางใจ หมายมั่นให้เขาทดลองยา ดังนั้นเขาจึงกล่าวคำขอบคุณแล้วกลืนกินยาเม็ดนั้นอย่างไม่ลังเลใจ ผ่านไปครึ่งชั่วยาม ยาเริ่มออกฤทธิ์ หมอคนนั้นตั้งชันเป็นเสาคํ้าฟ้า ตรงเป้ากางเกงตั้งขึ้นมาเป็นกระโจมอันน้อย
โม่เจ้าเหลือบมอง ‘กระโจม’ ของอีกฝ่าย มองใบหน้าหล่อเหลาที่แดงระเรื่ออย่างมีสุขภาพดี ในที่สุดก็วางใจ กลับไปห้องตัวเองแล้วกินยาอีกเม็ดลงไป ผลลัพธ์คือเมื่อผ่านไปหนึ่งชั่วยาม ในที่สุดส่วนนั้นของเขาเริ่มมีอาการร้อนรุ่ม ดูเหมือนจะคึกคักขึ้นมาเล็กน้อย…
เห็นได้ชัดว่ายานี้ออกฤทธิ์เห็นผล ถึงแม้จะไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ทว่าดีหรือร้ายก็คือใช้การได้แล้ว!
เขากินยาของหลงฟั่นตั้งมากมายขนาดนั้นก็ไม่อาจบรรลุผลสำเร็จถึงขั้นนี้ได้!
นี่เป็นแค่โอสถระดับสาม หากหลอมระดับห้า ระดับหกออกมาได้ บางทีโรคแอบแฝงของเขาอาจรักษาให้หายขาดได้!
บางทีห้องหอวันมะรืนอาจไม่ทำให้เขาเสียเวลาเปล่าแล้วกระมัง!
เขาเรียกตัวหมอคนนั้นมาทันที สั่งให้หลอมโอสถต่อไป หมอคนนั้นย่อมตกปากรับคำ เพียงแต่เตาหลอมโอสถของเขาไม่ค่อยดีนัก สามารถหลอมโอสถได้สูงสุดเพียงระดับห้า อีกทั้งหากหลอมร้อยเตาอาจจะได้โอสถระดับห้าแค่เพียงเม็ดเดียว…