บทที่ 1181 ต่อสู้
เธอตอบอย่างคล่องปาก “ผมยาวเกินไป สู้ไม่ถนัด”
ตี้ฝูอีเงียบงัน
ทั้งสองคน หนึ่งถาม หนึ่งตอบอย่างโจ้งแจ้งไร้ซึ่งความกริ่งเกรง กลุ่มคนตีวงล้อมเข้ามาอีกครั้ง ทว่าไม่มีผู้ใดบุ่มบ่ามลงมือแล้ว…
ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้ชื่อเสียงเกรียงไกร ยามนี้ต่อให้เขาบาดเจ็บอยู่ แต่ผู้ใดจะทราบได้ว่าที่แท้แล้วอาการบาดเจ็บของเขาหนักหนาถึงขั้นไหน?
อูฐที่ผอมโซก็ยังตัวโตกว่าม้า[1] ยิ่งไปกว่านั้นคือข้างกายเขายังมีกู้ซีจิ่วอยู่อีกคน แม่นางผู้นี้เพิ่งลงมืออย่างเหี้ยมหาญเหนือธรรมดาไป ทำให้ทุกคนตกตะลึง ถึงอย่างไรเธอก็เป็นเจ้าสาวที่โม่เจ้ารักถนอมประคองไว้กลางฝ่ามือ อีกทั้งโม่เจ้าไม่ได้บอกว่าไม่แยแสว่าจะเป็นหรือตาย พวกเขาจึงต้องลงมืออย่างพะว้าพะวง ดังนั้นในยามนี้ผู้ใดก็ไม่คิดจะออกหน้าเป็นแกนนำอีก
ที่นี่อยู่ใต้ดินลึก อีกทั้งอยู่ท่ามกลางลาวาภูเขาไฟ ถ้าไม่มีพาหนะพิเศษ สองคนนี้ก็หนีออกไปไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงรับชมอย่างสุขสันต์ไปก่อน
โม่เจ้าที่ถูกกู้ซีจิ่วโจมตีครานั้นถึงแม้จะยังไม่ตาย แต่ถึงอย่างไรก็แทงถูกจุดสำคัญ เขาใช้พลังวิญญาณห้ามเลือด แต่การแทงของกู้ซีจิ่วโหดเหี้ยม
เกินไป เลือดจึงไม่อาจหยุดไหลได้ทันที ที่สำคัญกว่านั้นคือมันเจ็บปวดอย่างยิ่ง!
เจ็บจนเบื้องหน้าเขามืดมัวเป็นพักๆ…
เพียงแต่เขาก็ไม่ได้เป็นกังวลจนเกินไป ร่างกายที่ใช้การไม่ได้ร่างนี้เขาไม่ต้องการแล้ว!
เขาพิงเสาต้นหนึ่ง จ้องมองคนทั้งสองที่ถูกลูกน้องล้อมไว้ มุมปากหยักยิ้มเยียบเย็น “ไม่รู้จักความเป็นความตายเสียเลย!”
เขามองกู้ซีจิ่วดวงตาฉายแววเร่าร้อนแวบหนึ่ง นางยืนอยู่ตรงนั้น ดุจต้นสนในฤดูหนาวที่ยืนต้นตระหง่านท้าสายลม เย็นชา เฉียบแหลม เด็ดขาด บุคลิกแปรเปลี่ยนไปทั้งหมด แตกต่างจากกู้ซีจิ่วที่โง่เขลาทึ่มทื่ออย่างสิ้นเชิง นางที่เป็นแบบนี้สิถึงจะเป็นคนที่เขาชมชอบอย่างแท้จริง…
แต่น่าเสียดายที่พอนางมีสติสัมปชัญญะแจ่มแจ้งแล้ว ความเจิดจ้าของนางไม่ได้ผลิบานเพื่อเขา ในสายตาและในหัวใจของนางมีเพียงตี้ฝูอีที่อยู่ข้างกายนางคนนั้นเพียงผู้เดียวมาโดยตลอด ไม่มีผู้ใดอีก นิ้วมือของโม่เจ้ากำเข้าหากันคราหนึ่ง ต่อให้โดนบุปผาดอกนี้ทิ่มแทงมากเพียงใด ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ต้องหาทางเด็ดนางมาไว้ในมือให้ได้ ยอมให้นางเหี่ยวเฉาโรยราในมือเขา ดีกว่าปล่อยให้นางไปเบ่งบานอยู่ข้างกายชายอื่น…
ในวินาทีนี้เองเขาได้ตัดสินใจแล้ว เมื่อจับกุมกู้ซีจิ่วได้อีกครั้ง เขาจะไม่ลบความทรงจำของนางแล้ว แค่จะสกัดจุดนางไว้แล้วบังคับครอบครองนางเสียแล้วค่อยว่ากัน จากนั้นก็จะทำลายวรยุทธ์ทั้งหมดให้นางเป็นสวะไร้พลัง จองจำนางไว้ข้างกาย เช่นนี้บุคลิกของนางจะไม่เปลี่ยนไปและไม่เป็นอันตรายอันใดอีก…
ส่วนตี้ฝูอี เขาจะล่ามตรวนสลายวิญญาณไว้บนร่างเขาสิบเส้น ทำให้พลังวิญญาณของเขาสลายหายไปอย่างสมบูรณ์จากนั้นก็ใช้ทัณฑ์ทรมานบังคับให้เขาทำพันธะสัญญาวิญญาณกับเขา ให้ยินยอมมอบสังขารของตนออกมา มอบความหฤหรรษ์ให้เขาด้วยตัวเองอีกครั้ง กระตุ้นให้เขาจิตใจแตกสลายอย่างสมบูรณ์!
ทำให้เขาก่อเรื่องไม่ได้อีกต่อไป!
แผนการของโม่เจ้ายอดเยี่ยมมาก เขามองการโต้ตอบกันของสองคนนั้นด้วยสายตาเยียบเย็น ราวกับมองปลาบนเขียงสองตัวที่ไม่รู้จักความเป็นความตาย…
จากนั้นก็แบ่งสติออกมาตามหาที่อยู่ของหลงฟั่น หากเป็นเมื่อก่อน เขาบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้ ไม่ต้องให้เขาพูด หลงฟั่นก็จะวิ่งเข้ามารักษาเขาด้วยตัวเองแล้ว แต่ตอนนี้เขากลับยืนอยู่ในมุมหนึ่ง เม้มปากมองทุกอย่างที่เกิดขึ้นดวงตาดำสนิทคู่นั้นดั่งบึงลึกที่ไร้ซึ่งระลอกคลื่นใดๆ
รูปโฉมของหลงฟั่นอันที่จริงสง่างามยิ่งนัก เป็นสง่างามแบบที่ดึงดูดล่อลวงใจคนได้ ยามนี้เขายืนอยู่ตรงนั้นอย่างเยือกเย็น มุมปากหยักขึ้นบางๆ เสมือนไม่เกี่ยวข้องกับโลกนี้ เงามืดทะมึนพาดผ่านนัยน์ตาของโม่เจ้าแวบหนึ่ง ดูเหมือนหลงฟั่นจะเอาใจออกห่างเขาแล้วสินะ!
บางทีเขาอาจจงใจเล่นตัวก็ได้…
ยามนี้โม่เจ้าคร้านจะสนใจเขา สายตาหันเหกลับมาที่ร่างพวกกู้ซีจิ่วทั้งสองอีกครั้ง ทันใดนั้นก็ปรบมือไม่กี่ครั้ง