บทที่ 1180 บุปผาพิฆาตที่แสนเย็นชา
เนื่องจากถึงอย่างไรกู้ซีจิ่วก็เป็นเจ้าสาวในวันนี้ ดังนั้นเริ่มแรกที่สองพี่น้องลงมือ จึงยังเหลือหนทางถอยให้เธออยู่ พยายามจับเป็นเธอ ไม่เล่นงานให้ถึงตาย พวกเขาสองคนสอดประสานไร้ช่องว่าง เมื่อสำแดงกระบวนท่าออกมาก็ดุเดือดไม่เป็นสองรองใคร แสงทักษะสว่างเจิดจ้า จนแยงตาผู้คน ไม่ทราบว่ามีวีรบุรุษมากน้อยเพียงใดที่เคยเสียเปรียบครั้งใหญ่ด้วยนํ้ามือของพวกเขา ตกตายสิ้นชีพไป
พวกเขานึกว่าสามารถจบการต่อสู้ได้ภายในหนึ่งเค่อ จะทำให้กู้ซี้จิ่วบาดเจ็บแล้วจับเป็น จากนั้นค่อยจับตัวตี้ฝูอีที่ยืนพิงเสาชมเรื่องครื้นเครงอยู่ด้านข้าง กลับนึกไม่ถึงว่าสิ่งที่พวกเขาคาดเดาไว้ในตอนต้นกลับไม่จบลงอย่างที่คาดไว้ การต่อสู้จบลงภายในหนึ่งเค่อจริงๆ เพียงแต่ท้ายที่สุดแล้วผู้ที่นอนเป็นศพอยู่บนพื้นคือสองพี่น้องคู่นั้น
ในการต่อสู้ครั้งนี้กู้ซีจิ่วที่ดูนุ่มนิ่มบอบบางเพียงแต่ผมยุ่งเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนอื่นไม่บุบสลายเลย เธอถึงขั้นที่ยังสวมชุดแต่งงานที่รุ่มร่ามชุดนั้นอยู่เลย มงกุฎหงส์อันนั้นที่เดิมทีสวมอยู่บนศีรษะเธอถูกเธอถอดทิ้งไปแล้ว นี่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เธอดึงไข่มุกทั้งหมดออกมาจากมงกุฎหงส์ซ่อนไว้ในแขนเสื้อ ในสถานการณ์คับขัน ไข่มุกเหล่านี้ได้กลายเป็นอาวุธลับทำร้ายคนของเธอ ตอนที่ต่อสู้เมื่อครู่นี้ เธอสบช่องดีดไข่มุกออกไปสองเม็ด เม็ดหนึ่งพุ่งทะลุอกของพี่ชายดาบยักษ์ เม็ดหนึ่งระเบิดดวงตาของน้องชายลูกตุ้มดาวตก…
กระบวนท่าที่เธอสำแดงไม่ฉูดฉาดบาดตา แต่ข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดก็คือความเร็ว!
สายฟ้าแลบก็ไม่เพียงพอจะใช้อธิบายความเร็วของเธอ ยามที่สู้อยู่เมื่อครู่นี้ ฝูงชนที่มุงดูอยู่เห็นเพียงภาพติดตาที่เธอเดินผ่านเท่านั้น…
ยามที่สองพี่น้องคู่นั้นทรุดลงบนพื้น สิ้นชีพนัยน์ตาเบิกโพลง ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์แทบจะกลั้นหายใจกันหมด สายตาที่มองกู้ซีจิ่ว
แปรเปลี่ยนอย่างสิ้นเชิง
หลายวันมานี้กู้ซีจิ่ววิ่งไปวิ่งมาอยู่ในตำหนักใต้ดินแห่งนี้มาโดยตลอด ทุกวันจะร้องเรียก ‘พี่โม่’ ‘พี่โม่’ อยู่ไม่ขาดปาก ดูสดใสไร้เดียงสา น่ารักยิ่งนัก
เดิมทีทุกคนนึกว่านางเป็นเพียงบุปผาเปราะบางดอกหนึ่ง กลับนึกไม่ถึงว่าพอความทรงจำของนางกลับมาจะกลายเป็นบุปผาพิฆาตที่แสนเย็นชาดอกหนึ่ง!
การต่อสู้ครั้งนี้กู้ซีจิ่วปลิดชีพไปสามคน มีสองคนที่ท้าประลองกับเธอ และมีอีกคนที่ฉวยโอกาสตอนเธอต่อสู้พัวพันไปที่ด้านหลังเสาหมายจะลอบโจมตีตี้ฝูอี ถูกกู้ซีจิ่วเห็นเข้า พายุหมุนลูกหนึ่งวนผ่าน สังหารคนผู้นั้นตายคาที่!
ยามที่ธุลีตกถึงพื้น กู้ซีจิ่วก็ยืนอยู่ข้างกายตี้ฝูอีแล้ว ไอสังหารบนร่างแผ่อบอวล ยามที่เธอหันกลับไปมองตี้ฝูอีกลับถามด้วยนํ้าเสียงอ่อนโยน “ท่านเป็นยังไงบ้าง? เมือกี้ไอ้สารเลวนั่นได้ทำร้ายท่านหรือไม่?”
ตี้ฝูอีส่ายหน้า “ไม่เลย เจ้ากลับมาได้ทันเวลายิ่งนัก”
กู้ซีจิ่วโล่งอก เธอเสยผมที่ยาวปรกหน้าผากออก ขมวดคิ้วเล็กน้อย เส้นผมนี้ยาวสยายและรุงรังเกินไป ต่อสู้ไม่ค่อยสะดวก เธอหาสิ่งที่จะมัดรวบมัน ขึ้นไม่ได้ในตอนนั้น…
เธอมุ่นคิ้วคราหนึ่ง เงื้อมือขึ้นอย่างว่องไว กระบี่ยาวส่องประกาย เส้นผมยาวสยายถูกตัดจนสั้นเรียบร้อยแล้ว…
เธอลงมือรวดเร็ว อีกทั้งไม่ได้ถือเรื่องทรงผม จึงใช้กระบี่ตัดในฉับเดียว เรือนผมที่เดิมทียาวระเอวถูกเธอตัดจนสั้นเท่าติ่งหู ทุกคนตะลึงงันอ้าปากค้าง รวมถึงตี้ฝูอีที่อยู่ข้างกายเธอด้วย…
อันว่าเรือนร่างและเกศา บุพการีประทานให้ ในยุคนี้ยังไม่อนุญาตให้ตัดผมตามใจชอบ การตัดผมบ้างก็ว่าเป็นการตัดสัมพันธ์ บ้างก็ว่าเป็นปลงผมออกบวช การกระทำเช่นนี้ของกู้ซีจิ่วเห็นได้ชัดว่าน่าตื่นตะลึงนัก ทำให้คนทั้งหลายตกใจ แม้แต่นักพิณที่ดีดพิณอยู่ตลอดด้วยไม่กล้าหยุดนางนั้นก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ
ตี้ฝูอีมองเส้นไหมดำขลับในมือนาง จากนั้นก็มองนาง “นี่เจ้าทำอะไร?”
กู้ซีจิ่วม้วนเส้นผมที่ตัดออกมา เก็บไว้ในแขนเสื้อ นี่ก็สามารถใช้เป็นอาวุธลับได้เหมือนกัน ยามนี้ไม่ว่าสิ่งใดเธอก็ไม่อยากสิ้นเปลืองทั้งสิ้น