บทที่ 456
ร่วมเป็นร่วมตาย 1
หลงซือเย่วางนางไว้บนเนินดินอ่อนนุ่ม กล่าวเรียบๆ ประโยคหนึ่ง “เจ้าขับพิษอยู่ตรงนี้ดีๆ ข้าจะไปจัดการกับพวกเขา!”
เขาพลันยืดกายขึ้น เข้าร่วมการต่อสู้
หลงซือเย่เป็นผู้บำเพ็ญพลังวิญญาณขั้นเก้า เมื่อเขาลงมือย่อมไม่เหมือนกับกู้ซีจิ่ว เกิดเสียงลมโหมฟ้าผ่ากลางสนามรบ…
กู้ซีจิ่วนิ่งงัน
ยาของหลงซือเย่มีฤทธิ์น่าอัศจรรย์นัก เจ้าหอยยักษ์ฟื้นตัวก่อน เปลือกหอยที่ดำคลํ้าเพราะถูกพิษค่อยๆ กลายเป็นสีชมพูตามปกติ
เมื่อครู่ยามหลงซือเย่ช่วยเธอโครจรพลังย่อยยา กู้ซีจิ่วก็รู้แล้วว่ายาลูกกลอนเม็ดนี้ไม่มีพิษ แถมยังมีฤทธิ์ขจัดพิษได้อย่างน่าอัศจรรย์ เธอย่อมไม่งี่เง่าขย้อนยาออกมาอีก กู้ซีจิ่วนั่งอยู่ที่นั่นอาศัยฤทธิ์ยา ลูกกลอนขับพิษในร่างออกมา ไม่เกินชั่วระยะเวลาหนึ่งเค่อ พิษในร่างกายเธอก็ถูกขับออกไปหมด
เพิ่งขจัดพิษเสร็จร่างกายเธอย่อมอ่อนแอเป็นธรรมดา เคลื่อนไหวไม่ได้ไปชั่วขณะ
เจ้าหอยยักษ์กลิ้งมาอยู่ข้างเท้าเธอ เด็กน้อยที่อยู่ด้านในโผล่ออกมามองเธออย่างหวาดผวา “เจ้านาย ท่านไม่เป็นไรแล้วกระมัง?”
กู้ซีจิ่วพยักหน้า
เด็กน้อยที่อยู่ข้างในหอยยักษ์ถึงแม้รูปโฉมจะน่ารัก ทว่าถ้อยคำที่เอ่ยออกมากลับห้าวห่ามสมชายนัก “มารดามันเถอะ ที่แท้เจ้าสองคนนี่เป็นตัวอะไรกันแน่?! พิษร้ายกาจเหลือเกิน!”
กู้ซีจิ่วเงียบงันไร้ว่าจา สายตาจับจ้องสนามรบ
เธอยังเข้าใจเกี่ยวดับโลกใบนี้น้อยเกินไป ยังแยกแยะสายพันธุ์สิ่งมีชีวิตทั้งหมดไม่ได้
หรงเหยียนและกู้เทียนฉิงในยามนี้ไม่ใช่มนุษย์แล้วแน่นอน เหมือนผีดิบแต่ก็ไม่ใช่ผีดิบ คล้ายหุ่นเชิดแต่ก็มิใช่หุ่นเชิด สังหารไม่ตาย ทำลายไม่สิ้นซาก แถมยังมีไอแค้นท่วมท้นอีก!
เธอจึงทำได้เพียงเรียกพวกมันว่าศพพิษเป็นการชั่วคราว
เห็นอยู่ชัดเจนว่าสองตัวนี้พุ่งเป้ามาที่เธอ คิดจะกระโจนเข้ามาเล่นงานเธอตลอดเวลา เพียงแต่ถูกหลงซือเย่ขัดขวางไว้
ในที่สุดสายตาของกู้ซีจิ่วก็ตกลงบนร่างหลงซือเย่ ดูเหมือนร่างกายเขาจะบาดเจ็บสาหัส สีหน้าซีดขาวอยู่ตลอด เสื้อคลุมสีขาวบนร่างเปรอะโลหิตไปทั่ว ไม่รู้ว่าเป็นของเขาหรือของสัตว์ตัวอื่น…
แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ ศพพิษสองตัวนั้นก็ยังฝ่าวงล้อมการโจมตีด้วยพลังวิญญาณของเขาไม่ได้ในชั่วระยะเวลาสั้นๆ
ถึงอย่างไรหลงซือเย่ก็ใช้ชีวิตในโลกนี้มาร้อยกว่าปีแล้ว แถมยังมีประสบการณ์โชกโชน ประกอบกับเขาเป็นหมอเทวดาอับดับหนึ่ง ย่อมรู้จักสิ่งมีพิษมากมายบนโลกใบนี้
เพียงแต่ศพพิษเช่นนี้เขาก็ยังไม่เคยพบ จึงหาจุดอ่อนของพวกมันไม่พบในเวลาสั้นๆ
ศพพิษสองตัวนี้ไม่เกรงกลัวเปลวไฟ ไม่เกรงกลัวพิษใดๆ ไม่เกรงกลัวคาถาอาคม ไม่กลัวแม้กระทั่งการแหลกสลาย…
หลังจากหลงซือเย่หั่นพวกเขาออกเป็นชิ้นๆ รอบกายพวกเขาจะมีไอหมอกสีม่วงดำล้อมรอบ จากนั้นพวกเขาจะคืนสภาพเดิมอย่างรวดเร็ว กำลังรบยังคงเปี่ยมล้นเช่นเดิม
เป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้การแน่ แต่ว่ากู้ซีจิ่วก็คิดวิธีกำจัดพวกมันในเวลาสั้นๆ ไม่ได้เช่นกัน
หลังจากเธอกลับมาเคลื่อนไหวได้ตามปกติ ก็รีบไปดูเพรียกวายุทันที เพรียกวายุก็โดนพิษจนปากซีดขาวไปหมดแล้ว ดวงตากำลังจะสิ้นแสง
กู้ซีจิ่วรีบป้อนยาลูกกลอนแก้พิษให้มันหลายเม็ด แต่เห็นได้ชัดว่าไม่ตรงกับอาการ
หลงซือเย่คงจะสนใจการเคลื่อนไหวของเธออยู่ตลอด จึงโยนยาลูกกลอนอีกเม็ดหนึ่งให้ในยามนี้
กู้ซีจิ่วป้อนยาลูกกลอนให้เพรียกวายุ จะเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ต้องช่วยชีวิตมันให้ได้
เมื่อกู้ซีจิ่วช่วยชีวิตเพรียกวายุ ย่อมอยู่ห่างจากสนามรบไม่มาก
ศพพิษสองตัวนั้นคงจะสัมผัสกลิ่นอายเธอได้ หมอกสีม่วงดำทะลักออกมารอบกาย กำลังรบก็ปะทุขึ้นอีกขั้นภายในชั่วพริบตา
‘เจ้านาย ดูเหมือนพวกมันจะอาศัยไอแค้นในการผสานร่าง ยิ่งไอแค้นหนาแน่นเท่าไหร่ กำลังรบก็แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น!’ หยอกนภา มองเส้นสนกลในออกแล้ว
‘ใช่แล้ว แถมไอแค้นของพวกมันยังมุ่งมาที่ข้าอีกด้วย’ กู้ซีจิ่วสรุปผลได้มากขั้น
ตอนที่เธอถูกพิษเมื่อกี้ เห็นได้ชัดว่าไอแค้นบนร่างศพพิษสองตัวนั้นลดลงไปไม่น้อย การเคลื่อนไหวก็เชื่องช้าลงบ้าง แต่หลังจากเธอฟื้นตัว ศพพิษสองตัวนั้นก็แข็งแกร่งขึ้นอีกครั้งทันที!