Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 460

บทที่ 460

ร่วมเป็นร่วมตาย 5

กู้ซีจิ่วเหลือบมองมันแวบหนึ่ง

เจ้าตัวนี้รู้ทั้งรู้แต่ยังจงใจถามหรือไม่? ในภาพมายามันยังปลอมเป็นหลงซือเย่มาล่อลวงเธออยู่เลย! ยามนี้กลับแสร้งทำเป็นไม่รู้จักเขาซะแล้ว!

เจ้าหอยยักษ์เหมือนจะรับรู้อะไรได้ “เจ้านาย พิษมายาของข้าทำให้คนลุ่มหลงในภาพมายาได้จริงๆ สิ่งที่ปรากฎในภาพมายาคือจิตมารของผู้ที่ถูกขัง มีเพียงผู้ที่ถูกขังเท่านั้นที่เห็น ความจริงแล้ว…ความจริงแล้วข้ามองไม่เห็นหรอก หลังจากผู้ที่ถูกขังโดนจิตมารของตนทำให้อ่อนแรง ข้าถึงสามารถฉวยโอกาสปลอมแปลงเข้าไปได้ แต่ก็ทำได้เพียงฉวยโอกาสเข้าไปเขมือบอีกฝ่ายเท่านั้น มองไม่เห็นว่าที่แท้แล้วจิตมารของเขาหรือนางคืออะไร”

เป็นเช่นนี้หรอกหรือ?

กู้ซีจิ่วเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

เจ้าหอยยักษ์เขยิบเข้าไปใกล้เธอ “ข้าโป้ปดเจ้านายไม่ได้ สิ่งที่ท่านเห็นในตอนแรกล้วนเป็นจิตมารของท่านและคนหรือสิ่งมีชีวิตที่ท่านสนใจ…”

ล้วนเป็นจิตมารหรือ?

เช่นนั้นหรือว่าร่างเปลือยของตี้ฝูอีที่เธอเห็นก็คือจิตมารของเธอด้วย?

บ้าน่า คงไม่ใช่แบบนั้นหรอก! เธอจะสนใจร่างเปลือยของตี้ฝูอีได้ยังไงกัน?!

เงาร่างตี้ฝูอีแวบขึ้นมาในใจ ขณะเดียวกันคำพูดทั้งหมดยามเขาจะจากไปก็แวบขึ้นมาในใจด้วยเช่นกัน…

มุมปากกู้ซีจิ่วพลันกระตุก เงาร่างตี้ฝูอีถูกซัดเข้าไปในส่วนลึกของสมอง

“เจ้านาย ที่แท้แล้วเขาเป็นใคร?” เจ้าหอยยักษ์ไม่บรรลุเป้าหมายไม่ยอมเลิกรา

“เจ้าสำนักถามสวรรค์ หลงซือเย่”

เจ้าหอยยักษ์อ้าฝากว้าง “เขาก็คือหลงซือเย่หรือ? ซวยแล้ว ข้าเคยกินศิษย์หลานของเขาไปตั้งหลายคน!”

กู้ซีจิ่วเงียบงัน

เจ้าหอยยักษ์คล้ายยังไม่หนำใจ “ยามศิษย์หลานของเขาจะตาย ล้วนร่ำร้องเป็นเสียงเดียวกันว่าบรรพจารย์ของพวกเขาจะต้องล้างแค้นให้พวกเขา แล้วเอ่ยนามของเขาออกมา ยามนั้นข้ายังอยากพบเขามาตลอด นึกไม่ถึงว่าวันนี้จะได้พบแล้ว ข้านึกว่าเขาเป็นตาแก่มาโดยตลอด ไม่คิดเลยว่าจะยังหนุ่มแน่นดูดีถึงเพียงนี้ ดูดีเหมือนทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นั้น…”

มันยังคงพูดเรื่องที่ไม่ควรพูดจริงๆ!

กู้ซีจิ่วไม่พูดไม่จา ปล่อยให้มันพูดพล่ามอยู่ตรงนั้น ไม่แยแสมัน

“เจ้านาย หลงซือเย่ผู้นี้ก็เป็นจิตมารของท่านหรือ? ตอนนี้จิตใจท่านดูว้าวุ่นมาก เพียงแต่ข้าแคลงใจนัก คนผู้นี้ดูเป็นสุภาพชนเปี่ยมคุณธรรม ช่วยเหลือท่านและร่วมต่อสู้ แถมยามต่อสู้พวกท่านทั้งสองก็ประสานงานสอดคล้องกันอย่างยิ่ง ข้าเห็นว่าพวกท่านทั้งสองสมกันมาก ราวกับคู่สร้างคู่สม ระหว่างท่านกับเขามีเรื่องเข้าใจผิดกันใช่หรือไม่? ข้าคิดว่าพวกท่านควรจะคุยกันดีๆ…”

กู้ซีจิ่วยังคงไม่พูดไม่จาเช่นเดิม

“เจ้านาย ยาลูกกลอนที่เขามอบให้ในตอนท้ายน่าจะเป็นฟื้นฟูพลังวิญญาณจริงๆ เขาคงจะหวังดีกับท่านจริงๆ มิได้มีเจตนาร้ายแฝงไว้มิใช่หรือ?”

ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็เหลืออด ชักดาบออกมาชี้มัน “เจ้าจะจบได้หรือยัง? ถ้ายังไม่หุบปากอีกข้าจะเชือดเจ้าแล้วตุ๋นซะ!”

เจ้าหอยยักษ์หุบฝาแล้ว ไม่กล้าพูดเหลวไหลอีกเลย

ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็ได้รับความสงบ เธอพริ้มตาลงนิดๆ เข้าสู่สมาธิ

ใช่แล้ว เธอรู้ว่ายาลูกกลอนเม็ดนั้นที่หลงซือเย่มอบให้เป็นของดี แต่เธอเชื่อถือเขาไม่ได้อีกแล้ว เมื่อพบเขานอกจากความระแวงก็ยังคงเป็นความระแวดระวัง

เธอถึงขั้นเคยสงสัยว่าศพพิษสองตัวนั้นเป็นหลงซือเย่จงใจส่งมา ด้วยคิดจะต้อนเธอให้เข้าสู่สภาวะคับขันแล้วเขาค่อยเป็นผู้กล้ามาช่วยสาวงาม…

หากมิใช่ว่าเห็นเขาเกือบสิ้นชีพใต้กรงเล็บศพพิษทั้งสองจริงๆ เธอคงไม่เชื่อเด็ดขาดว่าเขามิใช่ผู้บงการศพพิษ

หลงซือเย่ปรากฎตัวหนนี้ดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บอะไรภายในอย่างสาหัส พลังยุทธ์ถดถอยเป็นอันมาก

แต่ครึ่งปีก่อนยามเขาแยกกับเธอไปเขาก็ยังดีๆ อยู่เลยนี่นา ครึ่งปีมานี้กู้ซีจิ่วได้ยินข่าวคราวของเขาบ้างเป็นครั้งคราวว่าเขากักตนอยู่ตลอด เมื่อออกจากการกักตนพลังยุทธ์ก็ควรจะก้าวหน้าขึ้นมิใช่หรือ? เหตุใดจึงถดถอยเล่า?

หรือเขาจงใจทำเป็นอ่อนแอต่อหน้าเธอ? รึว่าเขาเหน็ดเหนื่อยเกินไปจากการหาวิธีคืนชีพให้เย่หงเฟิงจนถูกธาตุไฟเข้าแทรกเสียแล้ว?

ที่แท้แล้วเย่หงเฟิงฟื้นคืนชีพได้หรือไม่?

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version