บทที่ 1227 นางก็…ก็หนีไปเองเลย…
คล้ายเกรงว่าเธอจะหลบหนีไป จึง ล้อมเธอไวก้ ลายๆ
“ประมุขของพวกเราต้อนรับเจ้าอย่างมีไมตรี ทว่าเจ้ากลับทำร้ายองค์หญิงของพวกเรา!”
“พวกมนุษย์ล้วนเป็นไม่รู้ดีรู้ชั่วเช่นนี้กันหมดหรือ?”
“เหตุใดต้องทำร้ายองค์หญิงของพวกเราด้วย? เจ้ารู้ไหมว่าองค์หญิงของพวกเราไม่อาจบาดเจ็บได้?”
“จับนางไว้! อย่าให้นางหนีไปได้!”
กู้ซีจิ่วเอ่ยอย่างเยียบเย็น “วางใจเถอะ ข้าไม่หนีหรอก!”
แล้วเหลือบมองสนมนางนั้นแวบหนึ่ง “เจ้าไม่คิดจะมอบคำอธิบายให้ชาวเผ่าของเจ้าหน่อยหรือ?”
สนมนางนั้นอ้า ปากค้าง “อะ…อธิบายอะไร?”
กู้ซีจิ่วยิ้ม กล่าวอย่างเฉยชา “เจ้าไม่ต้องอธิบายก็ได้ แต่เรื่องนี้พอนํ้าลดตอจะผุดขึ้นมาง่ายดายยิ่งนัก! วางใจเถอะ ข้าไม่หนีหรอก! อีกสองชั่วยามให้หลัง ข้าจะกลับมาทวงความเป็นธรรม!”
ร่างกายส่องแสงวาบ หายไปจากจุดเดิม
ฝูงชนตกตะลึง
ผู้ใดก็นึกไม่ถึงว่ากู้ซีจิ่วจะมีทักษะเช่นนี้ด้วย มองอย่างโง่งมกันไปชั่วขณะ!
สนมนางนั้นร้อนรนแล้ว รีบออกคำสั่ง “นางหนีไปได้ไม่ไกลหรอก รีบไปตามหาเร็ว!”
ฝูงชนกระจายตัวออกไป พากันไปตามหา
สนมนางนั้นครุ่นคิดครู่หนึ่ง รีบไปตามหาเช่นกัน
ตามความคิดของชาวเงือกเหล่านี้ เหตุผลที่จู่ๆ กู้ซีจิ่วก็อันตรธานหายไปน่าจะเป็นเพราะใช้วิชาพรางกายหลบหนีไป ด้วยระดับการบำเพ็ญที่ตํ่าต้อยถึงเพียงนั้นของนาง ต่อให้ใช้วิชาพรางกายก็ยืนหยัดได้ไม่นาน มากสุดก็หนึ่งเค่อ…
อีกอย่างภายในวังนี้ก็มีกลไกอยู่ทุกหนทุกแห่ง เส้นทางมากมายวกวนเสมือนเขาวงกต ถ้ามิใช่ผู้ที่อาศัยอยู่ที่นี่มานานหลายปีหากว่าไม่มีคนนำทาง ไม่มีทางหนีออกไปจากวังเงือกได้
สนมนางนี้ยังค่อนข้างมีอิทธิลลในตำหนักเงือกอยู่ สามารถเรียกระดมพลได้ไม่น้อย แต่ทุกคนค้นหาไปทั่ววังอย่างละเอียดปานร่อนด้วยตะแกรงแล้ว ก็ไม่เห็นแม้แต่มุมชุดของกู้ซีจิ่ว!
ไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว เวลาก็ผ่านไปหนึ่งชั่วยามแล้ว
สองมือของสนมนางนั้นยังคงว่างเปล่าเช่นเดิม คนทั้งหมดที่ออกไปค้นหาล้วนกลับมาแล้ว ไม่พบร่องรอยของสตรีผู้นั้นเลย
สนมนางนั้นตื่นตระหนกแล้ว ที่นี่คือใต้มหาสมุทรลึก หากว่ากู้ซีจิ่วทะเล่อทะล่าออกไปจากอาณาจักรเงือก เข้าไปในมหาสมุทร แรงดันนํ้ามหาศาลสามารถบดขยี้นางได้อย่างสมบูรณ์!
นางไม่มีวิธีแล้ว ไม่กล้ากระทำโดยพลการอีก ตัดสินใจไปหาประมุขเงือกที่ตำหนักนํ้าแข็ง…
เพิ่งจะวิ่งเข้าประตูไป ก็เกือบชนกับตี้ฝูอีที่ก้าวออกมาอย่างร้อนรนแล้ว เป็นตี้ฝูอีที่สะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง ทำให้นางยืนอยู่ที่เดิมอย่างมั่นคง ตี้ฝูอีถามเข้าประเด็นทันที “พระสนมจะวิ่งไปไหน? ซีจิ่วล่ะ?”
สนมนางนั้นตะลึงงัน ตอบอย่างตะกุกตะกัก “แม่นางกู้นาง…นางกลัวอาญาจึงหนีไปแล้ว…”
สีหน้าตี้ฝูอีแปรเปลี่ยนทันที “นางไปแล้ว?!”
“ช…ใช่เจ้าค่ะ พวกท่านจากมาได้ไม่นาน นางก็…ก็หนีไปเองเลย…”
“นางไม่ได้กลัวอาญาจึงหนีไป!” นํ้าเสียงของตี้ฝูเยียบเย็นลง
“หลังจากข้ามา พวกเจ้าเล่นงานนางใช่ไหม?!”
“มะ…ไม่ใช่เจ้าค่ะ…” อำนาจรอบกายตี้ฝูอีแข็งแกร่งเกินไป ทำให้สนมนางนั้นติดอ่างไปเสียดื้อๆ
“เกิดอะไรขึ้น?” หลานเหยากวงก็เดินออกมาจากในห้องแล้ว ขมวดคิ้วมองสนมรักของบ้านตน
สนมนางนั้นโผเข้า ใส่อ้อมอกเขา “ฝ่าบาท!”
หลานเหยากวงพยุงนางให้ยืนตรงๆ “เจ้าว่าอะไรนะ? แม่นางกู้ไปแล้ว?”
สนมนางนั้นถึงได้เล่าเรื่องที่หลังจากพวกหลานเหยากวงจากไป กู้ซีจิ่วก็หายไปทันทีออกมา
แน่นอนว่านางไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องที่ข้าราชบริพารชาวเงือกล้อมกู้ซีจิ่วไว้ และถ้อยคำทั้งหมดที่กู้ซีจิ่วกล่าวไว้ ก็บอกเพียงว่ายามที่กู้ซีจิ่วจะจากไปได้พูดว่า ‘อีกสองชั่วยามให้หลังจะกลับมา’
หลานเหยากวงรู้สึกเพียงว่าเส้นเลือดที่หน้าเต้นตุบๆ แล้ว อดไม่ได้ที่จะมองไปทางตี้ฝูอีแวบหนึ่งอย่างขออภัย “พี่หวง ขออภัยด้วย ท่านพาคู่หมั้นมาที่นี่เป็นครั้งแรกก็…ผู้น้องจะส่งคนออกไปตามหาโดยขยายขอบเขตให้กว้างขึ้น จะต้องตามหานางกลับมาได้แน่นอน อันที่จริง นางไม่จำเป็นต้องหนีไปเพราะเกรงอาญาเลย…”