Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1258

บทที่ 1258 ผู้ล่วงลับ พี่ชาย?

ด้วยเหตุนี้เจ้าหอยยักษ์จึงถูกฟาดจนได้สติ มันก้มหน้ามอง พลันตกใจจนหลั่งเหงื่อเย็นเฉียบท่วมร่าง รีบหุบปากทันที

ลู่อู๋น้อยถึงแม้จะตัวเล็ก ทว่าเรี่ยวแรงกลับไม่น้อยเลยจริงๆ มันกลัวว่าเจ้าหอยยักษ์จะเขมือบเจ้านายเข้าไปจริงๆ จึงทำเกินเหตุไปชั่วขณะ ใช้หางม้วนตัวเจ้านายออกมาทันที วางลงบนศิลาเขียวก้อนหนึ่ง

กู้ซีจิ่วไม่รู้ตัวเลยว่าเกือบไปเยือนประตูยมโลกมารอบหนึ่งแล้ว ยังคงหลับใหลอยู่

ในป่าทมิฬแห่งนี้เหน็บหนาวยิ่งนัก เธอนอนอยู่บนศิลาเขียวรู้สึกหนาวอยู่บ้าง ร่างขดเข้าหากันเป็นลูกบอลเล็กๆ ลูกหนึ่ง

เพรียกวายุเกรงว่าเธอจะหนาว จึงก้าวเข้าไปฟุบลงข้างกายเธอ ใช้กีบเท้าเกี่ยวเธอเข้าสู่อ้อมอก คู้ตัวโอบเธอไว้ตรงกลาง ใช้หน้าท้องให้ความอบอุ่นเธอ

ส่วนลู่อู๋น้อยก็มุดเข้าไปในอ้อมแขนกู้ซีจิ่ว หางทั้งเก้าที่ขนยาวปุกปุยเป็นทรงใบพัด คลุมลงบนร่างผู้เป็นนาย…

หลับใหลไปจนถึงเที่ยงคืน สายฝนก็โปรยปรายลงมา เจ้าหอยยักษ์จึงอ้าฝาออก ให้พวกเพรียกวายุเข้ามา จากนั้นมันก็หุบฝาลง เหลือช่องว่างไว้เพียงหนึ่งฉื่อ ให้ทุกตัวที่อยู่ด้านในมีอากาศหายใจ

ลำบากลำบนกันอยู่รอบหนึ่ง สัตว์เลี้ยงทั้งสามล้วนอ่อนล้ายิ่งนัก เจ้าหอยยักษ์ก็สร่างเมาแล้ว ทั้งสามตัวทำงานประสานกันมากว่าสองปีแล้ว ต่างฝ่ายต่างรู้ใจกันยิ่งนัก ด้วยเหตุนี้จึงแบ่งหน้าที่กันครู่หนึ่ง เจ้าหอยยักษ์เฝ้ายามกลางคืน อีกสองตัวนอนเป็นเพื่อนข้างกายกู้ซีจิ่ว

สายฝนคละเคล้ากับสายลมกรรโชกโหมกระหน่ำอยู่ในป่า มีฟ้าแลบ ฟ้าผ่าตามๆ กันมา

ในอดีตเจ้าหอยยักษ์มักจะอาศัยอยู่ใต้ดิน หลังจากติดตามกู้ซีจิ่ว ก็อาศัยอยู่ในเรือนของมนุษย์ ถึงแม้จะออกไปล่าสัตว์อยู่บ่อยๆ แต่พอเหนื่อยก็จะหาถํ้าเพื่อพักผ่อนเสมอ โดยเฉพาะยามที่มีฝืนฟ้าคะนอง มันยิ่งจะนอนหมอบอยู่ในถํ้าไม่ยอมออกไป

ยามนี้มันอยู่บนทุ่งกว้างถูกบังคับให้เผชิญกับพายุฝนโหมกระหน่ำ เหนือศีรษะมีฟ้าร้องน่าครั่นคร้าม มันจึงค่อนข้างใจเสาะ สุดท้ายมันก็ทนไม่ไหวจริงๆ ใช้วิชาดำดินมุดลงไปใต้ดินทันที

เมื่อก่อนมันเดินทางใต้ดินด้วยการขุดโพรง แต่แบบนั้นความเร็วค่อนข้างเชื่อช้าอยู่บ้าง ทั้งวันก็เคลื่อนไปไม่ถึงสองลี้ ดังนั้นหลังจากมันติดตามกู้ซีจิ่ว ตี้ฝูอีก็สอนวิชาดำดินชุดหนึ่งให้มัน วิชานี้ทำให้มันเคลื่อนที่ผ่านใต้ดินอย่างรวดเร็วได้ มีประโยชน์ยิ่งนัก

แต่เจ้าหอยยักษ์มีจุดอ่อนที่ร้ายแรงยิ่งอยู่ข้อหนึ่ง ประสาทสัมผัสด้านทิศทางของมันเลวร้ายมาก เป็นจอมหลงทางตัวหนึ่ง

เมื่อก่อนมันฝังตัวอยู่ใต้ดินไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว รอให้เหยื่อมาหาถึงที่ ไม่จำเป็นต้องแยกแยะทิศทางเลย ต่อมาก็ไปล่าสัตว์กับเพรียกวายุและลู่อู๋น้อยอยู่เสมอ ลู่อู๋น้อยถึงแม้จะตัวเล็ก เป็นลูกสัตว์ตัวหนึ่ง ทว่าประสาทสัมผัสด้านทิศทางกลับแข็งแกร่งนัก เจ้าหอยยักษ์ติดตามมัน ไม่มีวันหลงทางเด็ดขาด

แต่ตอนนี้ เพรียกวายุกับลู่อู๋น้อยหลับหมดแล้ว หลังจากเจ้าหอยยักษ์ดำดินลงไป ด้วยรังเกียจว่าพื้นดินส่วนนั้นมีก้อนหินมากเกินไป จะขูดเปลือกมันให้เจ็บได้ ดังนั้นมันจึงมุดไปยังจุดที่ดินอ่อนนุ่มเสียเลย

หลังจากดำดินไปได้สักพัก มันรู้สึกว่าพื้นดินตรงนี้ไม่เลวเลย จึงหยุดลง อ้าฝาออกมองทั้งสามที่อยู่ด้านใน จากนั้นมันก็มองอย่างโง่งมอยู่บ้าง

ใต้ดินนี้ไม่มีอากาศ ตัวมันไม่เป็นไร แต่ทั้งสามที่อยู่ในเปลือกของมันล้วนต้องหายใจ!

ในเปลือกของมันเดิมทีก็มีอากาศน้อยอยู่แล้ว เมื่ออยู่ด้านในก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจให้มากหน่อย ดังนั้นตอนนี้ในเปลือกจึงมีคาร์บอนไดออกไซด์มาก อ็อกซิเจนน้อย กู้ซีจิ่วยังเมาอยู่ เธอไม่ได้ตื่นขึ้นมา แต่ใบหน้าเฉิดฉันค่อนข้างแดงกํ่าแล้ว ปีกจมูกกระเพื่อม เห็นได้ชัด ว่าหายใจค่อนข้างลำบาก

ส่วนเพรียกวายุเนื่องจากตัวใหญ่ ต้องการอ็อกซิเจนปริมาณมาก ขณะนี้จึงเวียนหัวแล้ว

ลู่อู๋น้อยกลับโดดผลุงขึ้นมา แต่ก็โงนเงนอยู่ในเปลือกหอยของมัน เสมือนเมาสุราก็มิปาน ร้องแง้วๆ แอ้วๆ ใส่เจ้าหอยยักษ์คำรบหนึ่ง ให้มันรีบกลับขึ้นสู่ผิวดิน…

ตอนนี้พวกมันอยู่ลึกลงไปใต้ดิน บนล่างซ้ายขวาล้วนเป็นดินทั้งสิ้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version