Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1259

บทที่ 1259 ผู้ล่วงลับ พี่ชาย? 2

เจ้าหอยยักษ์ตื่นตระหนก แม้แต่บนล่างก็แยกแยะไม่ออกแล้ว สุ่มเลือกมาทิศหนึ่งแล้วรีบมุดไป แต่มุดมาพักใหญ่แล้วก็ยังไม่เห็นผิวดิน…

ยามที่มันอ้าฝาออกอีกครั้ง แทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว เบื้องหน้าปรากฏรากไม้อวบใหญ่หลายเส้น รากไม้นั้นยุ่งเหยิงพัวพันเกี่ยวกระหวัดกันจนคล้ายกำแพงผืนหนึ่งขวางทางของมันไว้

ทำยังไงดี?

ทางไหนคือด้านบนล่ะ?

มันก้มหน้ามองลู่อู๋น้อยที่อยู่ในเปลือก หางทั้งเก้าของลู่อู๋น้อยแทบจะแดงฉานแล้ว!

มันกำลังมองรากไม้เหล่านั้นอยู่ พลันร้องโวยวายออกมา มันร้องเร็วเกินไป เจ้าหอยยักษ์จึงฟังไม่รู้เรื่อง

ลู่อู๋น้อยร้อนใจแล้ว มุดออกไปทันที โจมตีรากไม้ท่อนหนึ่ง ใช้กรงเล็บข่วนผิวรากไม้ มีอากาศบริสุทธิ์ทะลักออกมาจากด้านใน

เจ้าหอยยักษ์ปรีดานัก รีบพุ่งไปเช่นกัน ใช้ฝาตัดรากไม้หลายเส้น ให้อากาศในรากไม้ถ่ายเทเข้าไปในเปลือกหอยของตน จากนั้นก็มุดขึ้นสู่ด้านบนอย่างรวดเร็ว ภายใต้การชี้นำของลู่อู่น้อย…

….

ยามที่กู้ซีจิ่วตื่นขึ้นมาก็พบว่าตนถูกมุงดูอยู่!

รอบข้างมีคนมุงอยู่หลายสิบคน คนเหล่านี้สูงต่ำอ้วนผอม ชายหญิง อ่อนชราล้วนมีหมด มองเธอเสมือนมองกล่องสามมิติ[1] อยู่ ทุกคนมีสีหน้าประหลาดใจ

ส่วนตัวเธอนอนอยู่ในเปลือกหอย เพรียกวายุกับลู่อู๋น้อยตั้งขบวนอยู่นอกเปลือกหอย จ้องคนเหล่านี้อย่างระแวดระวัง ไม่ปล่อยให้คนเหล่านี้เข้าใกล้สักครึ่งก้าวเลย ดูเหมือนที่นี่จะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง บ้านเรือนในหมู่บ้านสร้างจากเปลือกไม้สีเงินยวงแวววาวชนิดหนึ่ง กระจัดกระจายอยู่รอบๆ เสมือนชนเผ่าดึกดำบรรพ์ที่รํ่าลือกัน

แต่มนุษย์หลายสิบคนนี้กลับไม่ได้ห่มเปลือกไม้อะไรพวกนั้นเหมือนมนุษย์ยุคดึกดำบรรพ์ พวกเขาสวมเสื้อคลุมสีเงินแบบพิเศษชนิดหนึ่ง คล้ายจะทอขึ้นจากเส้นใยธรรมชาติอะไรสักอย่าง ส่องประกายแวววาวเช่นเดียวกัน

กู้ซีจิ่วงุนงงอยู่ครู่หนึ่ง เธอกินเนื้อดื่มสุราอยู่บนยอดเขาที่หกชัดๆ ดูเหมือนจะเมาแล้วอาเจียนไปก่อนรอบหนึ่ง จากนั้นก็เหมือนจะผล็อยหลับไป เหตุใดพอตื่นขึ้นขึ้นมาถึงมาโผล่ที่ชนเผ่าดึกดำบรรพ์อันแปลกประหลาดเช่นนี้ได้เล่า?

ที่นี่คือที่ไหนกัน?

“นางฟื้นแล้ว!”

“นางเป็นภูตหอยหรือ?”

“นางงดงามเหลือเกิน…”

ฝูงชนเริ่มพากันพูดคุย กู้ซีจิ่วลูบหัวแล้วลุกขึ้นนั่ง

เยี่ยมมาก ถ้อยคำที่คนพวกนี้คุยกันเธอฟังออกทั้งหมด ไม่ใช่การพูดคุยด้วยการกู่ร้องอะไรพวกนั้น แบบนี้ก็สื่อสารกันได้ง่ายหน่อย…

“ทุกท่าน ที่นี่คือที่ใดหรือ?” เธอเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่า น่าจะเป็นเพราะดื่มสุรามากไป คอจึงแหบแห้งอยู่บ้าง

“เจ้าบอกมาก่อนว่าเจ้าเป็นใคร?! ทำไมถึงโผล่ออกมาจากใต้ดิน!”

“ใช่ เจ้าเป็นภูตมาจากที่ใด? เหตุใดจึงกล้ามากำเริบเสิบสานที่นี่!”

“งดงามเช่นนี้ คงมิใช่ว่าเป็นภูตจิ้งจอกอันใดจากภายนอกกระมัง?”

สายตาที่คนเหล่านี้มองเธอไม่ค่อยเป็นมิตรนัก ถืออาวุธไว้ในมือราวกับพร้อมจะพุ่งเข้ามาสับเธอให้แหลกเป็นไส้ซาลาเปาได้ตลอดเวลา พากัน วิพากษ์วิจารณ์

กู้ซีจิ่วมุ่นคิ้วนิดๆ เธอมองไปทางเจ้าหอยยักษ์

เจ้าหอยยักษ์กระดากเล็กน้อย รีบเล่าเหตุการณ์หลังจากเธอหลับไปให้ฟัง แน่นอนว่าเรื่องที่มันเกือบจะเขมือบเธอเข้าไปแล้ว มันไม่กล้าเอ่ยถึงเลย

สีหน้ากู้ซีจิ่วทะมึน เธอเมามายไปเพียงหนเดียว ไม่น่าเชื่อเลยว่าเจ้าหอยยักษ์จะก่อเรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้ขึ้น

พอเธอได้สติแล้ว ตัวคนก็สงบลงอย่างรวดเร็ว เธอลุกขึ้นมา เหินออกมาจากเปลือกหอย “ข้าเป็นคน ไม่ใช่ภูต เป็นสัตว์เลี้ยงของบ้านข้าที่มุดลงดินเพื่อหลบฝน จากนั้นก็หลงเข้ามาในอาณาเขตของพวกท่าน…สรุปแล้วที่นี่คือที่ไหน?”

เธอเงยหน้ามองท้องฟ้า ผลคือมองไม่เห็นอะไรเลย เนื่องจากถูกกิ่งก้านสาขาของต้นไม้ใหญ่บดบังไว้

ในชีวิตนี้กู้ซีจิ่วไม่เคยเห็นต้นไม้ที่สูงใหญ่มโหฬารขนาดนี้มาก่อนเลย

กลางหมู่บ้านนี้มีต้นไม้ใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง คนหนึ่งร้อยคนจับมือกัน ก็ยังโอบไม่รอบ ต้นไม้สูงนับร้อยจั้ง มองแทบไม่เห็นยอดเลย กิ่งก้านสาขาขนาดมหึมาปกคลุมทั้งหมู่บ้านไว้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version