Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1260

บทที่ 1260 ผู้ล่วงลับ พี่ชาย? 3

ใบไม้บนต้นไม้ใหญ่ลักษณะคล้ายกับพัดใบปาล์ม ตัวใบเป็นสีเงินยวง ส่องประกายออกมาเป็นครั้งคราว แสงที่ส่องออกมาเป็นสีรุ้ง สถานที่แห่งนี้ดูเหมือนเมืองลับแลอยู่บ้าง…

กู้ซีจิ่วกวาดตามองผู้คนที่อยู่รอบข้างอย่างรวดเร็ว ใจเต้นแวบหนึ่ง คนเหล่านี้ล้วนเป็นยอดฝีมือทั้งสิ้น!

ทุกคนเป็นยอดฝีมือที่มีพลังวิญญาณอย่างน้อยขั้นเจ็ดขึ้นไป ยังมีอีกสิบกว่าคนที่เป็นขั้นแปดแล้ว แต่ละคนเต็มไปด้วยกำลังวังชา

ต้องทราบก่อนว่าในทวีปนี้ยอดฝีมือที่บรรลุขั้นหกขึ้นไปพบเห็นได้น้อยยิ่ง แต่ที่นี่กลับมีอยู่มากมายถึงเพียงนี้!

สรุปแล้วที่นี่เป็นสถานที่เช่นใดกันแน่?

เธอเอ่ยถามอีกรอบหนึ่ง

ผลคือคนเหล่านั้นมองหน้ากันอย่างเลิกลั่กครู่หนึ่ง หนึ่งในนั้นกระแอมแล้วกล่าวว่า “ถ้าพวกเรารู้ว่าที่นี่คือที่ไหนก็ดีน่ะสิ! ถูกขังไว้นานมากแล้ว…”

กู้ซีจิ่วฉงน “…เช่นนั้นพวกท่านมาที่นี่ได้อย่างไร?”

“พวกเขาล้วนเคยอ้างตัวว่าเป็นสานุศิษย์สวรรค์แล้วไม่ผ่านการทดสอบ จากนั้นจึงถูกโยนเข้ามาที่นี่ แม่นางหรือเจ้าก็เป็นผู้ฝ่าด่านสานุศิษย์สวรรค์ด้วย?”

จู่ๆ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากด้านหลังฝูงชน เสียงนั้นแจ่มชัดดึงดูด เป็นเสียงของบุรุษหนุ่มคนหนึ่ง เมื่อกล่าวจบ ฝูงชนที่ล้อมกู้ซีจิ่วไว้ก็แหวกตัวออกเป็นทางสายหนึ่ง รถเข็นเล็กๆ คันหนึ่งถูกผลักเข้ามา ชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่บนรถเข็น วินาทีที่กู้ซีจิ่วมองเห็นเขานัยน์ตาก็หดตัวลงเล็กน้อย

คนผู้นั้นก็สวมเสื้อคลุมสีเงินยวงแบบนั้นเหมือนกัน เกศาดำดั่งย้อมหมึก จอนผมคมกริบ เครื่องหน้างามสง่าลํ้าเลิศ ตรงหว่างคิ้วยังมีไฝรูปหัวใจเม็ดหนึ่งอยู่ด้วย บุคลิกท่วงท่าค่อนข้างคล้ายกับหมอเทวดาโอวหยางหมิงรื่อในเรื่อง ‘เซียนนารีมังกรหิมะ’ ผู้นั้นยิ่งนัก

สิ่งเหล่านี้มิใช่เรื่องสำคัญที่สุด ที่สำคัญที่สุดคือดวงหน้าของคนผู้นี้เธอมองแล้วคุ้นตาอยู่บ้าง ดูเหมือนจะคล้ายคลึงกับตนอยู่บ้าง…

ชายหนุ่มคนนั้นถูกคนสองคนเข็นเข้ามา คล้ายว่าจะเดินเหินไม่สะดวก

“กู้เทียนนั่ว…” กู้ซีจิ่วลองเรียกดู

สีหน้าของชายหนุ่มคนนั้นไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง สายตาร่อนลงบนร่างกู้ซีจิ่ว “นี่คือนามของแม่นางหรือ?”

กู้ซีจิ่วนิ่งงัน

ท่าทีของชายหนุ่มคนนั้นมิคล้ายการเสแสร้ง กู้ซีจิ่วสูดหายใจเบาๆ เฮือกหนึ่ง “ไม่ นี่ไม่ใช่นามของข้า นี่เป็นนามญาติคนหนึ่งของข้า รูปโฉมของคุณชายค่อนข้างคล้ายคลึงกับญาติคนนั้นของข้ามาก…นามของข้าคือกู้ซีจิ่ว…”

ชายหนุ่มคนนั้นยิ้มน้อยๆ แวบหนึ่ง “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ แม่นางกู้ยังไม่ได้ตอบคำถามของข้าเลย”

“ข้าเข้ามาป่าทมิฬมาเพียงลำพัง เดิมทีคิดจะไปเก็บสมุนไพรบนยอดเขาที่เจ็ดแล้วกลับไป ไม่นึกเลยว่าจะเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยขึ้น ถูกสัตว์เลี้ยงของบ้านข้าพามาถึงที่นี่ได้” กู้ซีจิ่วอธิบายที่มาที่ไปของตนคร่าวๆ อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามชายหนุ่มคนนั้นอีกครั้ง “คุณชายบอกว่าพวกเขาล้วนเป็นสานุศิษย์สวรรค์งั้นหรือ?”

ชายหนุ่มคนนั้นถอนหายใจเบาๆ “พวกเขาล้วนเคยอ้างตัวว่าเป็นสานุศิษย์สวรรค์แต่ไม่ผ่านการทดสอบของท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ถูกโยนเข้าป่าทมิฬ…”

กู้ซีจิ่วสนทนากับชายหนุ่มผู้นี้ไม่กี่ประโยค ในที่สุดก็ทราบมูลเหตุโดยรวมแล้ว

ในเมื่อคนเหล่านี้ที่อยู่ที่นี่ล้วนเคยอ้างตัวว่าเป็นสานุศิษย์สวรรค์ อย่างไรเสียระดับบำเพ็ญย่อมไม่ธรรมดา หลังจากถูกทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายโยนเข้ามาในป่าทมิฬ ย่อมต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดสารพัด จากนั้นจะบาดเจ็บจนสลบไป พอฟื้นขึ้นมาอีกครั้งก็มาโผล่ที่นี่แล้ว…

และดูเหมือนที่นี่จะเป็นค่ายกลตามธรรมชาติชนิดหนึ่ง เข้าได้แต่ออกไม่ได้ คนเหล่านี้ถูกขังไว้ที่นี่หลายปีแล้วจึงค่อยๆ ก่อตั้งหมู่บ้านแห่งนี้ขึ้น

คนเหล่านี้ล้วนถูกโยนลงมาใต้ต้นไม้ใหญ่ของที่นี่ทั้งสิ้น มีเพียงกู้ซีจิ่วที่นอนอยู่ในหอยแล้วมุดขึ้นมาจากพื้น ดังนั้นจึงดึงดูดให้คนเหล่านี้มาล้อมวงมุงดู…

….

“นายท่าน สายสืบส่งข่าวมาแล้วขอรับ บอกว่าแม่นางกู้เข้าไปในป่าทมิฬ”

หนนี้สายลับทั้งหมดในอาณาจักรเฟยซิงแทบจะออกปฏิบัติการทั้งหมด ตามสืบหาเบาะแสร่องรอยกันอยู่สองวันเต็มๆ ในที่สุดก็ส่งข่าวเช่นนี้กลับมา

———————————————————————

[1] กล่องสามมิติ เป็นอุปกรณ์ฉายภาพเคลื่อนไหวในสมัยโบราณ เป็นกล่องสี่เหลี่ยมที่มีคนหมุนคันโยกให้ภาพในกล่องหมุนแล้วให้ผู้ชมทาบดวงตามองผ่านเลนส์กลม จะเห็นภาพในกล่องเคลื่อนไหวได้เสมือนจริง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version