Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1302

บทที่ 1302 พาข้าไปหานาง 1

อาการบาดเจ็บของคนผู้นี้ดูวิกฤตอย่างยิ่ง ทรวงอกยุบลงไป น่าจะมีกระดูกหักหลายท่อน ตรงหน้าท้องก็มีโลหิตสดๆ ไหลริน น่าจะมีบาดแผลเช่นกัน

หลัวจั่นอวี่ตรวจสอบอาการบาดเจ็บบนร่างเขาเล็กน้อย พลันเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ!

สายตาที่มองเขาค่อนข้างตกตะลึงอยู่บ้าง อุทานเสียงตํ่า “ประหลาดนัก!”

“หัวหน้า อะไรประหลาดรึ?” มีคนเอ่ยถาม

“เขาถูกตัวอะไรทำร้ายหรือ? ดูสาหัสมากเลยนะ เป็นสัตว์ขั้นห้า หรือว่าขั้นหก?”

หลัวจั่นอวี่กล่าวเสียงขรึม “เป็นสัตว์ร้ายขั้นเจ็ด! แถมยังมิใช่สัตว์ร้ายขั้นเจ็ดเพียงตัวเดียวด้วย!”

ฝูงชนตะลึงพรึงเพริด

ไม่ใช่กระมัง?!

“หัวหน้า ท่านไม่ได้ดูผิดใช่ไหม? แต่ว่าเขามีพลังวิญญาณขั้นหก…”

พวกสัตว์บ่มเพาะได้ยาก แต่เมื่อพวกมันฝึกฝนแล้ว สัตว์ที่มีพลังวิญญาณขั้นหกสามารถสำแดงกระบวนท่าที่เทียบได้กับระดับพลังวิญญาณขั้นเจ็ดของมนุษย์ ผนวกกับพละกำลังมหาศาลของพวกมัน ยอดฝีมือพลังวิญญาณขั้นเจ็ดสู้ตัวต่อตัวกับสัตว์ร้ายขั้นหกก็กินแรงมากแล้ว แต่คนที่อยู่เบื้องหน้านี้เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่ามีพลังวิญญาณขั้นหก เป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะสู้กับสัตว์ร้ายขั้นเจ็ดด้วยตัวคนเดียว?

ซํ้ายังต่อสู้ลำพังกับสัตว์ร้ายมิใช่เพียงตัวเดียวด้วย!

“หัวหน้า เขาถูกสัตว์ใดทำร้ายหรือ?” มีคนถามอีก

บนภูเขาด้านหลังของพวกเขามีสัตว์ร้ายขั้นหกขั้นเจ็ดมากที่สุด อีกทั้งพวกเขาต่อกรกับพวกสัตว์ร้ายอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นจึงมีประสบการณ์ยิ่งนัก

หลัวจั่นอวี่เอ่ยเสียงขรึม “เป็นหมีครามปีกเดี่ยว! ดูจากบาดแผลบนร่างเขาและขนหมีที่ติดอยู่ เขาน่าจะสู้กับหมีครามสี่ตัวมา”

ฝูงชนเงียบงัน พวกเขายังเชื่อถือในสายตาของหลัวจั่นอวี่ยิ่งนัก

บ้าไปแล้ว!

คนที่เข้ามาในระยะนี้เหตุใดจึงผิดมนุษย์มนาขึ้นเรื่อยๆ เล่า?

คนผู้นี้บาดเจ็บสาหัส ลมหายใจอ่อนระโหย เมื่อหลัวจั่นอวี่กดหน้าอกเขา ก็ทราบว่าซี่โครงเขาหักไปสี่ท่อน ท่อนหนึ่งในนั้นแทงเข้าที่ทรวงอกด้วย โดนหัวใจเล็กน้อย สภาพเช่นนี้ไม่อาจขยับเขยื้อนเคลื่อนย้ายได้ ถ้าขยับแม้แต่น้อยอาจทำให้ซี่โครงท่อนที่หักแทงสู่หัวใจได้ เช่นนั้นคนผู้นี้จะต้องไม่รอดแน่!

คนที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้เมื่อถูกช่วยจนมาถึงที่นี่ จะต้องเป็นผู้กล้าที่แท้จริงคนหนึ่ง ดังนั้นหลัวจั่นอวี่จึงยินดีจะช่วยรักษาให้เขาอย่างยิ่ง

อย่างไรเสียทุกคนก็เป็นบุรุษกันทั้งสิ้น เขาเลยไม่ถือสาที่จะทำการรักษาเขาที่นี่ ด้วยเหตุนี้หลัวจั่นอวี่จึงคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้น ยื่นมือไปแกะสาบเสื้อของคนผู้นั้น…

เพียงแต่ยังไม่ทันได้แกะสาบเสื้อออก จู่ๆ ข้อมือของหลัวจั่นอวี่ก็ถูกมือโชกเลือดข้างหนึ่งจับไว้!

หลัวจั่นอวี่สะดุ้งโหยง เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็สบเข้ากับดวงตาลึกล้ำ ดั่งกระแสนํ้าวนคู่หนึ่ง

คนผู้นั้นฟื้นแล้ว!

มือของคนผู้นั้นงดงามนัก ถึงแม้จะชุ่มไปด้วยโลหิต ก็ไม่ส่งผลต่อความงามของมัน หลัวจั่นอวี่ยังไม่เคยเห็นมือที่งดงามถึงเพียงนี้ในร่างของชายฉกรรจ์มาก่อนเลย หากมิใช่ว่าคนผู้นี้มีลักษณะของบุรุษเพศที่เห็นได้ชัดเจน หลัวจั่นอวี่เกือบจะสงสัยแล้วว่าคนผู้นี้คือสตรีที่ปลอมตัวเป็นบุรุษ

คนผู้นี้เป็นยอดฝีมือท่านหนึ่งแน่นอน เมื่อจับข้อมือคนก็จับตรงจุดชีพจรไว้ เห็นกันอยู่ชัดๆ เรี่ยวแรงไม่มาก แต่หลัวจั่นอวี่ยังคงรู้สึกว่าข้อมือชาหนึบเล็กน้อย

“เจ้าได้รับบาดเจ็บ ข้าจะรักษาให้เจ้า” หลัวจั่นอวี่เอ่ย

“ไม่ต้อง!” คนผู้นั้นปล่อยมือเขาแล้วหลับตาลงนิดๆ หอบหายใจอยู่ครู่หนึ่ง ยกมือหยิบถุงเก็บของใบหนึ่งออกมาจากแขนเสื้ออย่างยากลำบาก ล้วงเอายาลูกกลอนเขียวกระจ่างแวววาวเม็ดหนึ่งออกมาจากด้านในแล้วกลืนลงไป…

คนผู้นี้เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าบาดเจ็บสาหัส เคลื่อนไหวก็ยากลำบากยิ่งนัก ทว่าอากัปกริยากลับให้ความรู้สึกงดงามปานสายธารไหลริน

นัยน์ตาของหลัวจั่นอวี่หดตัวเล็กน้อย ยาลูกกลอนในมือคนผู้นั้นเป็นโอสถระดับแปดในตำนาน!

ที่แท้เขาเป็นใครกันแน่?

เหตุใดจึงมีโอสถชนิดนี้?

โอสถของคนผู้นี้เห็นได้ชัดว่าเป็นโอสถลํ้าค่า เขากินโอสถนี้ลงไปไม่นานนัก สีหน้าที่เดิมทีซีดเผือดดุจหิมะก็ดูดีขึ้นมาเล็กน้อย โลหิตตรงช่องท้องก็ไหลช้าลงแล้ว…

จากนั้นก็ยกมือขึ้นลูบบาดแผลตรงทรวงอกตน มีลำแสงสีขาวจางๆ วาบออกมา หน้าอกที่ยุบลงไปก็ค่อยๆ นูนขึ้นมา…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version