ตอนที่ 161
นิทานปั้นน้ำเป็นตัวครั้งใหญ่แล้ว
จักรพรรดิซวนนิ่งงัน มองกู้ซีจิ่วด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา “เสี่ยวซีจิ่ว เจ้าได้รับความสามารถจากสวรรค์ได้อย่างไร? มา เล่าให้เราฟังอย่างชัดเจนหน่อย”
ท่าทีของจักรพรรดิเฒ่าช่างพิกลนัก! ท่าทางของคนพวกนี้ก็พิกลเช่นกัน! หรือว่าความสามารถได้รับจากสวรรค์นี้ก็มีอะไรให้กล่าวถึงเช่นกัน?
กู้ซีจิ่วตระหนักถึงจุดนี้อย่างรวดเร็ว เธอรีบถามหยกนภาทันที
หยกนภานํ้าเสียงกลัดกลุ้ม ‘ในโลกนี้มีคนที่ได้รับความสามารถจากสวรรค์อยู่ไม่น้อย อย่างเช่นทูตสวรรค์ซ้ายขวา อย่างเช่นสามเจ้าสำนักหลัก ร่ำลือกันว่าพวกเขาล้วนได้รับความสามารถจากสวรรค์ แต่ละคนถึงฝึกฝนวิชาได้ด้วยตนเอง ก่อตั้งสำนักขึ้น กลายเป็นบรรพจารย์แห่งยุค หากท่านยืนยันว่าได้รับความสามารถที่สวรรค์ประทานให้เช่นกัน ต้องพิสูจน์ว่าท่านเป็นคนที่สวรรค์เบื้องบนส่งมา ในอนาคตจะเทียบเทียมกับสามเจ้าสำนักหลัก และทูตสวรรค์ทั้งสองได้! นี่ท่านปั้นนํ้าเป็นตัวครั้งใหญ่ แล้ว!’
กู้ซีจิ่วปวดหัวขึ้นมาทันที ‘เช่นนั้นสามเจ้าสำนักหลัก ทูตสวรรค์ซ้ายขวาอะไรนั้นได้รับความสามารถจากสวรรค์ได้ยังไง?’
ยามนี้นางได้แต่วาดกระบวยตามน้ำเต้า[1]แล้ว
เสียงของหยกนภากลัดกลุ้มยิ่งกว่าเดิม ‘เรื่องพวกนี้เป็นความลับสุดยอด หยกวิเศษเช่นข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน’
ขนาดหยกนภายังไม่รู้เรื่องเลย เช่นนั้นฝูงชนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ยิ่งไม่รู้ไปใหญ่ งั้นเธอก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้วสินะ?!
เธอครุ่นคิดไตร่ตรองอยู่ตรงนั้น จักรพรรดิซวนนักว่าเธอกำลังชั่งใจ อยู่ว่าจะพูดหรือไม่พูดดีจึงไม่เร่งรัดเพียงกล่าวประโยคหนึ่ง “ซีจิ่ว ได้รับความสามารถจากสวรรค์เป็นเรื่องดี ต่อให้เจ้าพูดออกมา ก็ไม่ถูกสวรรค์ลงทัณฑ์หรอก”
กู้ซีจิ่วเอียงคอมองเขา “ฝ่าบาท เรื่องความสามารถที่สวรรค์ประทานให้เป็นความลับสุดยอด ซีจิ่วสามารถบอกได้แค่ว่าได้รับความสามารถที่สวรรค์ประทานให้จากในฝัน และรับปากคนในฝันผู้นั้นไว้แล้วว่าจะไม่พูดออกมาเพคะ”
จักรพรรดิซวนตะลึงงัน
ฝูงชนก็ตะลึงงันเช่นกัน
นัยน์ตาของจักรพรรดิซวนที่มองกู้ซีจิ่วอยู่โชนแสงขึ้นมาเล็กน้อย ไม่ได้กล่าววาจาใด
จู่ๆ องค์ชายหรงฉู่ที่นั่งอยู่ด้านล่างพลันเอ่ยขึ้น “เสด็จพ่อ นี่เป็นเรื่องใหญ่ เห็นทีว่าคงต้องเชิญท่านทูตสวรรค์’ฝ่ายซ้ายมาพิสูจน์เรื่องนี้แล้วพะย่ะค่ะ”
จักรพรรดิซวนขมวดคิ้ว “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายดั่งมังกรเห็นหัว ไม่เห็นหาง ยังไม่แน่ว่าเขาจะอยู่ในจวน”
“เสด็จพ่อ ตามที่ลูกทราบมา เมื่อคืนท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายกลับมาถึงอารามคํ้านภาแล้วพะย่ะค่ะ ในระหว่างนี้ มิสู้ให้คนไปเชิญเขามาก่อน”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ จักรพรรดิซวนก็ไม่สามารถปฏิเสธได้อีก เลยพยักหน้าเล็กน้อย มองไปทางกู้ซีจิ่ว “ซีจิ่ว เรีองนี้พัวพันใหญ่โต ในเมื่อเจ้ากล่าวว่าความสามารถของเจ้าเป็นสวรรค์ประทานให้ เช่นนั้นก็ได้แต่เชิญท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายมาพิสูจน์แล้วล่ะ”
แล้วหันไปสั่งองครักษ์คนสนิทที่อยู่ด้านหลัง “ไปเชิญท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย เชิญให้เขามาพิสูจน์เรื่องนี้”
กู้ซีจิ่วบื้อใบ้ไปแล้ว
‘จะทำยังไงดี? เรื่องนี้ต้องพิสูจน์ด้วยหรือ?’ กู้ซีจิ่วกัดฟันกรอดพลางถามหยกนภา
แม้แต่หยกนภาก็คล้ายจะปวดฟันไปด้วย ‘ต้องพิสูจน์แน่อยู่แล้ว! เรื่องความสามารถที่สวรรค์ประทานให้มิใช่ว่าผู้ใดจะพูดก็ได้ หากผู้คนล้วนกล่าวว่าตนได้รับความสามารถจากสวรรค์ เช่นนั้นโลกใบนี้ไม่สับสนวุ่นวายไปหมดหรือ? ดังนั้นคนที่อ้างตัวว่าได้รับความสามารถที่สวรรค์ประทานให้จะต้องได้รับการพิสูจน์จากคนผู้หนึ่ง…’
‘คนผู้นี้ก็คือทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายอะไรนั้น?’
‘ใช่ เขาคือผู้พิสูจน์เพียงหนึ่งเดียว’
‘เขาสามารถพิสูจน์ได้จริงๆ หรือ?’
‘จริง! เมื่อไม่กี่ปีก่อนก็มียอดอัจฉริยะอ้างตัวว่าได้รับความสามารถที่สวรรค์ประทานให้ จึงถูกทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตรวจสอบอย่างรวดเร็ว พิสูจน์ได้ว่าเขาเป็นของปลอม หลังจากนั้น…’
‘หลังจากนั้นเป็นยังไง?’ ในใจของกู้ซีจิ่วรู้สึกไม่ค่อยดีขึ้นมา
‘ไม่เป็นยังไง คนผู้นั้นถูกทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายทำลายวรยุทธ์ทั้งหมดทิ้ง แล้วโยนเข้าป่าทมิฬใช้ชีวิตตามยถากรรม’
กู้ซีจิ่วนิ่งงัน
‘ร่างนี้ของข้าเดิมทีก็เป็นสวะไร้พลังอยู่แล้ว ไม่มีพลังวิญญาณใดๆ ต่อให้ถูกจับได้ว่าเป็นของปลอม ก็ไม่มีวรยุทธ์อะไรให้ทำลายทิ้ง ไม่กลัวหรอก!’
‘หากว่าเขาทำลายพลังยุทธ์คนและในขณะเดียวกันก็ทำให้คนกลายเป็นอัมพาตไปด้วยล่ะ? คนเหล่านั้นแม้กระทั่งเส้นเอ็นและชีพจรทั่วร่างล้วนถูกสะบั้นขาดหมด’ หยกนภาพูดจาทำลายขวัญเธออย่างไม่เกรงใจ