บทที่ 206
จับเจ้าได้แล้ว!
แทบไม่ต้องเสียเวลาคิดเลย กู้ซีจิ่วคิดจะใช้วิชาเคลื่อนย้ายในพริบตาทันที แต่คิดไม่ถึงว่าเธอเพิ่งจะร่ายได้ครึ่งเดียว มือข้างหนึ่งก็วางลงบนบ่า เสียงเฉื่อยชาดังขึ้นมาจากด้านหลังเธอ “จับเจ้าได้แล้ว!”
เสียงนั้นกระจ่างใสไพเราะมีเสน่ห์ดึงดูด ทว่าร่างกายกู้ซีจิ่วกลับแข็งทื่อทันที!
เธอค่อยๆ หันหลังไป มองเห็นคนผู้หนึ่งยืนอยู่ด้านหลังตน สวมอาภรณ์สีม่วงพลิ้วไสว เรือนผมยาวสยายปรกไหล่ แถบแพรนัยน์ตาจิ้งจอกกลางหน้าผากเปล่งประกายเล็กน้อย
มือของเขายังคงวางอยู่บนบ่าเธอ ออกแรงไม่มาก แต่กลับทำให้เธอใช้วิชาเคลื่อนย้ายในพริบตาไม่ได้
หรือว่าเขาก็ใช้วิชาเคลื่อนย้ายได้เหมือนกัน?
ถึงโผล่ออกมากะทันหันเช่นนี้ได้!
กู้ซีจิ่วกำมือที่อยู่ภายในแขนเสื้อแน่น!
กลิ่นอายในร่างเปลี่ยนไปแล้ว ยันต์บอกตำแหน่งก็ลบออกแล้ว แถมเธอยังแต่งตัวแบบนี้ด้วย ที่แท้แล้วทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้อาศัยสิ่งใดถึงหาเธอพบ?!
“น่าเกลียดนัก! เจ้าชักจะไม่เข้าท่าขึ้นทุกทีแล้วจริงๆ” ตี้ฝูอีมองใบหน้าอ้วนกลมของเธอแล้วเอ่ยขึ้น ทั้งยังจ้องมองหนวดสองหย่อมอย่างอดไม่ได้ ลำแสงสีขาววาบออกมาจากปลายนิ้ว ปกคลุมใบหน้ากู้ซีจิ่ว…
ผ่านไปครู่หนึ่ง แสงสีขาวสลายไป กู้ซีจิ่วยังเป็นเศรษฐีน้อยอ้วนกลมอวบอิ่มอยู่เหมือนเก่า มีเพียงหนวดสองหย่อมที่หายไป
ตี้ฝูอีตกตะลึง เขาข้องใจจริงๆ จึงใช้นิ้วมือลูบไล้ใบหน้าเธอ “นี่เจ้า ใช้สิ่งใดแปลงโฉมกัน?”
ลำแสงสีขาวที่เขาเพิ่งเรียกออกมาคือลำแสงชำระล้างอุปกรณ์แปลงโฉมทุกชนิด ทั้งยังไม่เคยขัดข้องมาก่อน นึกไม่ถึงว่าครานี้จะมาขัดข้องที่นาง!
กู้ซีจิ่วหน้าตาหาเรื่องทันที กล่าวอย่างหยาบโลนว่า “ตัวข้าเป็นเช่นนี้ตั้งแต่เกิด! เจ้าเป็นใครกัน? วิ่งเข้ามาในรถข้าทำไม? ไส…”
วาจาดุดันสองคำหลังยังไม่ทันได้กล่าวออกมา ก็ถูกนิ้วหนึ่งของเขา กดริมฝีปากเอาไว้…
กู้ซีจิ่วตัวแข็งทื่ออีกครา!
เธอยกมือขึ้นคิดจะปัดนิ้วอีกฝ่ายออก นึกไม่ถึงว่าเพิ่งขยับมือ ก็ถูกอีกฝ่ายสกัดจุดแล้ว เธอยืนแข็งทื่ออยู่ตรงนั้นราวกับไม้ท่อนหนึ่ง
นิ้วของเขายังคงค้างอยู่บนริมฝีปากเธอ แฝงด้วยกลิ่นหอมจางๆ กลิ่นหอมนั้นมีฤทธิ์ล่อลวงใจคน ประหนึ่งสามารถสูดดมเข้าไปถึงหัวใจ แล้วทำให้หัวใจสั่นไหว
โชคดีที่ยามเขาควบคุมตัวเธอ นิ้วมือก็ผละออกจากริมฝีปาก มิฉะนั้นกู้ซีจิ่วคงควบคุมปากไม่ให้กัดเขาไม่ได้!
นิ้วมือของเขาเริ่มถูใบหน้าเธอเบาๆ
อุปกรณ์แปลงโฉมบนหน้ากู้ซีจิ่วเป็นแบบเดียวกับผิวหนัง มีความรู้สึก สามารถหน้าแดงได้ เสมือนเป็นผิวหนังจริงๆ
ท้องนิ้วของเขาลูบไล้บนใบหน้าเธอ แฝงความอ่อนโยนอย่างเลือนรางจนเกินจะบรรยาย
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่กู้ซีจิ่วถูกคนลูบไล้เช่นนี้ รู้สึกเพียงว่าขนทั่วร่างลุกชันขึ้นมา!
“เอามือท่านออกไป!” กู้ซีจิ่วกัดฟันกระซิบ ใช้นํ้าเสียงดั้งเดิม ไม่ใช้นํ้าเสียงบุรุษหยาบโลน
ตี้ฝูอีหลุบตามองเธอ “โอ้ ยอมใช้เสียงเดิมแล้วหรือ?”
เมื่อรู้ว่าเขาจำตนได้ กู้ซีจิ่วก็ไม่จำเป็นต้องปกปิดแล้ว เธอจ้องมองเขาพลางกล่าวอย่างเย็นชา “นี้ยังไม่ทันถึงหนึ่งวัน ท่านก็ผลีผลามใช้พลังวิญญาณไล่ล่าข้าแล้ว ไม่กลัวพิษจะทำให้สืบสกุลไม่ได้หรือ?”
เขาคิดว่าเธอแค่หลอกเขาหรือ?
กู่ของเธอมีฤทธิ์เช่นนั้นจริงๆ
ตี้ฝูอีแย้มยิ้ม ยกมือลูบศีรษะเธอ “ไม่กลัว! เด็กน้อย หากข้าสืบสกุลไม่ได้ คนที่โชคร้ายก็คือเจ้า แน่นอนว่าเงื่อนไขแรกคือเจ้าต้องรอดชีวิตออกมาจากป่าทมิฬเสียก่อน”
เขาโอบเอวเธอเข้ามา “ตอนนี้กลับไปกับข้าก่อนเกิด”
โอบเธอไว้แล้วก้าวกระโดดออกมาจากรถม้าคันนั้น สารถีหม่าผู้นั้นจึงเห็นฉากที่น่าจดจำไปตลอดชีวิตอีกครา อ้อมแขนของท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายหนึ่งเดียวในใต้หล้าผู้นั้นโอบกอดเจ้าเศรษฐีตัวกลมเดินออกมา…
ไม่เพียงแต่สารถีเท่านั้นที่ตกตะลึง แม้แต่บริวารเหล่านั้นของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็ตะลึงงันเช่นกัน