บทที่ 217
ในภาพนี้คือรูปสลักหยกชิ้นนั้นในอิริยาบถต่างๆ!
ปัญหาคือต่อให้เธอหนีออกไปได้ง่ายๆ จะหลบหลีกการไล่ล่าของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้ได้อย่างไรต่างหากคือประเด็นสำคัญ
คนผู้นั้นราวกับเป็นเห่าฟ้ากลับชาติมาเกิด ไม่ว่าเธอจะหนีไปไหน ล้วนถูกเขาจับกุมตัวได้อย่างง่ายดายยิ่ง…
‘เสี่ยวชาง ที่แท้เขาอาศัยสิ่งใดถึงตามหาข้าพบ? หรือว่าบนร่างข้า ยังมียันต์บอกตำแหน่งของเขาอยู่?’
‘เจ้านาย ข้าสังเกตเห็นว่าบนมือเขามีแหวนสีนีลเพิ่มมาวงหนึ่ง เหมือนถักขึ้นมาจากเส้นผม เส้นผมนั้นคือผมของท่าน…’
กู้ซีจิ่วตะลึงงัน เธอเองก็เป็นคนฉลาด ‘หรือว่าเขาวางกู่เกศาดำไว้บนร่างข้า?
‘เกรงว่าจะเป็นเช่นนี้’
กู้ซีจิ่วขมวดคิ้วเล็กน้อย กู่เกศาดำเป็นวิชากู่ชนิดหนึ่งซึ่งสลับซับซ้อนมาก จะใช้เส้นผมของคนที่ถูกตามล่ามาหลอมเป็นแหวนกู่ ขอเพียงยังมีเส้นผมของคนที่ถูกตามล่าอยู่ คนที่ถือครองแหวนกู่ก็สามารถรู้สึกถึงได้
กู้ซีจิ่วกำมือแน่น ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้มีเวลาว่างมากแค่ไหนกันแน่?
นึกไม่ถึงว่าจะทุ่มเทความพยามกับคนไม่สำคัญอย่างเธอถึงเพียงนี้!
เขายังกล่าวอีกว่าแหวนวงนั้นคือของที่หมั้นหมายกับเธอ หลอกลวงทั้งเพ!
กู้ซีจิ่วลูบไล้เส้นผมของตน หยกนภาสั่นสะท้าน ‘เจ้านาย ท่านคงไม่คิดจะโกนผมทิ้งใช่ไหม?! ต่อให้โกนทิ้งไปแล้วแต่รากผมก็ยังอยู่ ยังคงหลบซ่อนจากการไล่ล่าของเขาไม่พ้นเหมือนเดิม’
กู้ซีจิ่วแย้มยิ้ม ปลายนิ้วเคาะเบาๆ พลางมองหยกนภา ‘ไม่จำเป็นต้องโกนทิ้ง ข้ามีวิธีรับมือกับกู่เกศาดำนี้!’
จะดีชั่วอย่างไรเธอก็เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิชากู่ ขจัดกู่เกศาดำแค่นี้ไม่คณนามือเธอหรอก
ยามนั้นเธอมองเล่ห์กลของแหวนไม่ออก เป็นเพราะแหวนวงนั้นดูเหมือนหยกนิล มิใช่เส้นผม…
คนผู้นี้สามารถเปลี่ยนแหวนที่ทำจากเส้นผมให้กลายเป็นเนื้อหยกได้ ฝีมือเยี่ยมยอดนัก!
ในใจของเธอมีแผนการอยู่แล้ว แค่ไม่กระโตกกระตากออกมา
เมื่อบังเอิญเงยหน้าขึ้น ก็พลันเห็นว่าเบื้องหน้ามีบันไดเวียนอยู่ ตัวบันไดเหมือนสร้างมาจากหยกขาว ใสแวววาวส่องประกายระยับ
บันไดนี้เชื่อมไปยังชั้นสอง สร้างไว้สูงถึงเพียงนี้ บนชั้นสองจะมีอะไรอยู่?
ในใจเธอมีความสนใจใคร่รู้ผุดขึ้นมา จึงมองขึ้นไปด้านบน ประตูของชั้นสองแง้มไว้ครึ่งหนึ่ง น่าจะอนุญาตให้คนขึ้นไปได้กระมัง?
กู้ซีจิ่วขึ้นบันไดไป มุ่งตรงสู่ชั้นสอง
ทว่ายามโม่อวี่เยียนมองเห็นบันไดเวียนนั้น สีหน้ากลับแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย! ตามปกติแล้วบันไดนี้จะไม่ปรากฏออกมาเด็ดขาด! แล้ววันนี้เป็นอะไรไป?
นางพยายามมองไปยังชั้นสองสุดกำลัง ครั้นเห็นประตูที่แง้มออกครึ่งหนึ่ง ใจก็เต้นกระตุก!
ขั้นสองเป็นเขตหวงห้าม ผู้ใดก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป อีกทั้งไม่เคยมีประตู!
จู่ๆ ก็โผล่ออกมาในยามนี้ แปลว่าอนุญาตให้คุณชายกู้ผู้นี้เข้าไปใช่หรือไม่?
ชั้นสองมีอะไรอยู่? จะมีอันตรายอะไรไหม?
โม่อวี่เยียนใจเต้นโครมคราม อยากเอ่ยเตือนกู้ซีจิ่วสักประโยค แต่เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้เลยอดกลั้นไว้
การกระทำของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายยากจะคาดเดาได้ บางทีเขาอาจเปิดที่นี่ไว้ รอให้คุณชายกู้ผู้นี้เข้าไป…
กู้ซีจิ่วก้าวเข้าประตูไป ยามได้เห็นการตกแต่งภายในชัดเจน หัวใจพลันเต้นตึกตักขึ้นมา!
ชั้นสองไม่ใหญ่นัก ด้านในไม่มีสิ่งของอื่นใด มีเพียงภาพวาดเต็มฝาผนัง ในภาพทั้งหมดคือคนคนเดียวกัน
รูปสลักหยก!
ในภาพนี้คือรูปสลักหยกชิ้นนั้นในอิริยาบทต่างๆ!
นั่งสมาธิ ยืน นั่ง นั่งเอกเขนก ฝึกวิชา จิบชา และนอนพัก…ท่าทางแตกต่างกันออกไป ดูสมจริงอย่างยิ่ง
คนคนเดียวกัน เสื้อคลุมตัวเดียวกัน มีเพียงภาพเดียวเท่านั้นที่มีใบหน้า ส่วนอีกหลายแผ่นที่เหลือล้วนสวมหน้ากากแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าเขียวแสยะเขี้ยว ใบหน้าแข็งทื่อดุจคนตาย หรือ ใบหน้ายิ้มแย้มเบิกบาน…
และภาพที่เปิดเผยใบหน้าแท้จริงก็คือภาพนั่งสมาธิโคจรพลัง เป็นแบบเดียวกับที่กู้ซีจิ่วพบเห็นในถ้ำบนภูเขา แม้แต่ทรงผมกิริยา ท่าทางก็เหมือนกันหมด
กู้ซีจิ่วตะลึงงัน
นี่คืออะไรกัน?
‘เสี่ยวชาง รู้จักคนผู้นี้หรือไม่?’ กู้ซีจิ่วชี้ภาพเหมือนเหล่านั้น รู้สึกเพียงว่าหัวใจเต้นโครมคราม