Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 216

บทที่ 216

หญ้าวิเศษต้นนั้นก็แค่ขยะชิ้นหนึ่ง

ราวกับทราบความสงสัยในใจกู้ซีจิ่ว โม่อวี่เยึยนจึงยิ้มพลางกล่าว “หนังสือเหล่านี้ท่านเจ้าวังทำเครื่องหมายไว้หมดแล้ว ไม่ว่าผู้ใดเปิดอ่านก็จะเหลือร่องรอยทิ้งไว้ ตบตาท่านเจ้าวังไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ”

เขาจะทำเครื่องหมายอะไรไว้ได้? หรือว่าเขาสามารถค้นหาลายนิ้วมือของคนอ่านได้โดยไม่ต้องใช้แว่นขยาย?

กู้ซีจิ่วมองผ่านๆ อยู่หน้าชั้นหนังสือครู่หนึ่ง แล้วหยิบหนังสือลงมา จากชั้นหนึ่งเล่ม เปิดดูเล็กน้อย

โม่อวี่เยียนชะงักไปนิดหน่อย คล้ายอยากจะห้ามปรามแต่ก็ไม่ได้พูดออกมา

ท่านเจ้าวังสั่งให้จับตามองคนผู้นี้ ทั้งยังบอกว่าสามารถเดินเล่นในวังคํ้านภาได้ตามสบาย เช่นนั้นท่านเศรษฐีน้อยกู้ผู้นี้จะอ่านหนังสือ ก็ไม่น่ามีปัญหากระมัง?

หนังสือเล่มนั้นที่กู้ซีจิ่วหยิบลงมาเกี่ยวข้องกับวิชาหลอมกลั่นโอสถ เธออ่านไปไม่กี่หน้าก็วางลง

ตำราหลอมโอสถเล่มนี้ค่อนข้างง่าย ตำราหลายเล่มที่หยกนภามอบให้เธอยังเหนือชั้นกว่ามาก

เธอวางหนังสือกลับคืนชั้น แล้วทยอยหยิบหนังสือที่ชื่อค่อนข้างน่าสนใจมาอ่านหลายเล่ม แต่ทุกเล่มพลิกอ่านไปไม่กี่หน้าก็วางลง เห็นได้ชัดว่าไม่ถูกใจ

โม่อวี่เยียนที่อยู่ด้านข้างมองอย่างตกตะลึง!

เศรษฐีอ้วนกลมผู้นี้สิ้นเปลืองทรัพยากรไปเปล่าเสียจริง! หนังสือหายากถึงเพียงนี้ เขากลับเหลือบอ่านอย่างผ่านๆ แค่ไม่กี่ครั้ง…

‘หนังสือสะสมของเขาก็ไม่เห็นจะดีสักเท่าไหร่!’ กู้ซีจิ่วส่งเสียงคุยกับหยกนภา น้ำเสียงออกจะผิดหวัง

‘หนังสือสะสมของเขานับว่าเยี่ยมยอดแล้ว ครบครันกว่าวังหลวงเสียอีก แต่ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นสิ่งที่จัดเตรียมไว้ให้เหล่าข้ารับใช้ ย่อมไม่ลํ้าเลิศเท่าไหร่อยู่แล้ว หนังสือสะสมของที่นี่ยังห่างชั้นกับข้าอีก ไกล’ หยกนภาทะนงตน

‘แปลว่าจริงๆ แล้วหนังสือหายากของเขาไม่ได้วางไว้ที่นี่สินะ’ กู้ซีจิ่วหมดความสนใจ

‘แต่อย่างไรหนังสือสะสมเหล่านี้ของเขาก็เยี่ยมยอดมากแล้ว หากนำออกไปสักเล่มก็ขายได้หลายหมื่นตำลึง’

‘เสี่ยวชาง เคราะห์ดีที่ข้าทราบว่าเบี้ยหวัดหนึ่งเดือนของแม่ทัพกู้คือ ห้าร้อยตำลึง ไม่เช่นนั้นมาเห็นสิ่งของราคานับหมื่นนับแสนเช่นนี้บ่อยๆ ข้าคงคิดว่าเงินทองของทวีปนี้มากมายเสียจนชั่งกิโลขายได้’ กู้ซีจิ่วถอนหายใจ

‘หึ ตอนนี้รู้คุณค่าของข้าแล้วกระมัง? ข้าวของที่สะสมอยู่ในร่างกายของข้า คว้าสุ่มๆ ออกมาอย่างหนึ่งก็เพียงพอให้ท่านจ่ายหลายหมื่นตำลึงแล้ว เมื่อก่อนให้ท่านประมูลข้าก็ยังประมูลอย่างอิดๆ ออดๆ เช่นนั้นเลย’ หยกนภาทำโอหัง

กู้ซีจิ่วตบมันเบาๆ พลางพูดเอาอกเอาใจ ‘เป็นข้าตาไร้แววเอง เจ้าลํ้าค่าที่สุดจริงๆ! ลํ้าค่ากว่าหญ้าวิเศษเสียอีก’

‘หึ เมื่อเทียบกับข้าแล้ว หญ้าวิเศษต้นนั้นก็เป็นแค่ขยะชิ้นหนึ่ง!’

‘ใช่จริงๆ เจ้าเยี่ยมยอดที่สุด! เจ้ารอบรู้ทุกสรรพสิ่ง’ กู้ซีจิ่วเยินยอมัน

‘แน่นอนอยู่แล้ว บนโลกนี้ไม่มีเรื่องใดที่ข้าไม่รู้!’

‘ถ้าอย่างนั้นเกิดอะไรขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ ที่ข้าสลบอยู่? เจ้าต้องรู้แน่นอน!’ กู้ซีจิ่วถามออกมาทันที

‘รู้แน่นอน…’ หยกนภาอึกอัก

เจ้านายไม่เคยถามอะไรมันเลยหลังจากตื่นขึ้นมา มันยังนึกว่านาง ไม่เก็บมาใส่ใจเสียอีก นึกไม่ถึงว่าจะโพล่งถามกะทันหัน หากมันพูดออกไปแล้วเกรงว่า…

‘อืม เช่นนั้นเจ้าลองพูดมาสิ เกิดอะไรขึ้น?’

‘คือ…’

‘เสี่ยวชาง เจ้าเป็นหยกวิเศษ เป็นตัวตนระดับเทพ การโป้ปดไม่คู่ควรกับตัวตนระดับเทพของเจ้า’

หยกนภาสับสนว้าวุ่นอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ตัดสินใจพูดความจริง ‘เขาลูบคลำท่าน…’

กู้ซีจิ่ว ‘…ลูบตรงไหน?’

‘แขน อก ยังมี…จุดที่ท่านดึงมือเขาไปสัมผัสครั้งนั้น’

กู้ซีจิ่วตกตะลึง เริ่มแรกใบหน้าเธอแดงก่ำ แล้วค่อยเขียวคลํ้าทันที!

ไอ้โรคจิตคนนั้น!

“คุณชายกู้ ท่านเป็นอะไรเจ้าคะ?” โม่อวี่เยียนถามด้วยความแปลกใจ คุณชายผู้นี้ยินเหม่อลอยอยู่ตรงนั้น ใบหน้าอ้วนๆ ตอนแรกแดงก่ำ ตอนหลังเขียวคล้ำ…

“ไม่เป็นไร” กู้ซีจิ่วตอบเพียงสามคำ มีวูบหนึ่งอยากจะเผาที่นี่ให้วอดเสีย!

โชคดีที่เธอข่มกลั้นเอาไว้ได้ ตอนนี้เธอต้องหาวิธีหนีอย่างเร่งด่วน อย่างอื่นล้วนเป็นเรื่องรอง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version