Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 229

บทที่ 229

เล่นงานข้าให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน!

กู้ซีจิ่วขมวดคิ้วนิดๆ กำลังคิดจะเอ่ยอะไรบางอย่าง ทว่าหลงซือเย่กลับจับข้อมือเธอไว้แน่น แอบส่งเสียงให้ว่า ‘ห้ามยอมรับว่าหลบหนีด้วยตัวเอง หาไม่แล้วไม่ว่าจะเป็นสานุศิษย์ของสวรรค์เบื้องบน หรือไม่ ก็ต้องรับโทษทัณฑ์ร้ายแรง มีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกตัดเส้นเอ็นทั้งหมดจนกลายเป็นคนพิการ!’

ร้ายแรงขนาดนี้เชียว?!

ยามที่คนชั่วผู้นี้จับเธอกลับไปไม่ได้พูดถึงเลย!

หรือว่ารอให้ไปถึงแท่นเบิกสวรรค์ก่อน แล้วค่อยมอบความโหดร้ายให้เธอ?

ผู้เข้าทดสอบที่หลบหนีต้องได้รับโทษ เช่นนั้นผู้ที่ลักพาตัวผู้เข้าทดสอบล่ะ?

จะต้องรับโทษด้วยไหม?

คำถามนี้แวบเข้ามาในหัวกู้ซีจิ่ว ถึงอย่างไรหลงซือเย่กับเธอก็ทำงานด้วยกันมาหลายปี เขาจึงเข้าใจ นิสัยของเธอเป็นอย่างดี ยามนี้แค่มองแวบหนึ่งก็คาดเดาความคิดเธอได้ ในใจพลันอุ่นวาบ ส่งเสียงหาแบบลับๆ อีกครั้ง ‘ไม่ต้องห่วง เขาไม่ทำอะไรข้าหรอก อย่างมากข้าก็แค่ชดใช้ด้วยสมุนไพรเล็กน้อย’

ตี้ฝูอีเคาะโต๊ะเบาๆ มองหลงซือเย่ด้วยท่าทางยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “เจ้าสำนักหลง ถึงแม้ท่านจะมีฐานะน่าเลื่อมใส ทว่าเมื่ออยู่ในทวีปนี้ก็ต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของทวีปนี้ ท่านลักพาตัวผู้ทดสอบ ความสามารถสวรรค์ประทาน ถือว่าฝ่าฝืนกฎ ควรได้รับโทษอย่างไรท่านคงคิดเอาไว้แล้วกระมัง?”

สีหน้าหลงซือเย่เย็นชาเล็กน้อย “ไม่ต้องให้ท่านเตือนหรอก รอหลังจากจบเรื่องนี้แล้ว ข้าจะไปรับโทษที่แดนเทพศักดิ์สิทธิ์ด้วยตนเอง! ส่วนท่านบุกรุกเขาถามสวรรค์ของข้าโดยพลการ นับว่า ฝ่าฝืนกฏสำนักถามสวรรค์ของข้า!”

“หือ? เช่นนั้นฝ่าฝืนกฎแล้วจะเป็นอย่างไร?”

“โทษสถานหนักถึงตาย โทษสถานเบาทำลายวรยุทธ์ทั้งร่าง!” น้ำเสียงหลงซือเย่เยียบเย็นยิ่ง

ตี้ฝูอีเลิกแขนเสื้อขึ้น “อืม ก็ได้ เล่นงานข้าให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”

หลงซือเย่โดนย้อนจนสะอึก เหยียดยิ้มเยาะ “เจ้าวังตี้ต้องการลงมือในสำนักถามสวรรค์จริงๆ หรือ? เช่นนั้นขอข้าเตือนไว้ก่อน ผู้ที่บุกรุกสำนักถามสวรรค์ทั้งหมด สำนักถามสวรรค์ไม่จำเป็นต้อง ประลองเดี่ยวตามกฎหมายของทวีปซิงเยวี่ย สามารถใช้กองกำลังป้องกันจัดการผู้บุกรุกได้ เจ้าวังตี้คิดจริงๆ หรือว่าตัวคนเดียวจะรอดพ้นกองทัพศิษย์ทั้งหมดของสำนักถามสวรรค์?”

ตี้ฝูอีถอนหายใจ “อืม อาจจะไม่รอด ข้านึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าสำนักหลงผู้สง่าผ่าเผยคิดจะใช้วิธีหมาหมู่…”

ใบหน้าหล่อเหลาของหลงซือเย่เขียวคลํ้าจางๆ

เขาไม่เคยคิดจะใช้กลยุทธ์ต่อสู้แบบหมาหมู่มาก่อน ทว่าเพื่อกู้ซีจิ่วแล้ว เขาก็ได้แต่ลองเดิมพันดู!

เขาปลดปล่อยไอพลังสีเขียวอ่อนจากปลายนิ้ว กล่าวอย่างเฉยชาว่า “ขอเพียงข้าส่งสัญญาณนี้ออกไป ค่ายกลพิทักษ์หุบเขาจะทำงานทันที! เจ้าวังตี้อยากลองดูหรือไม่?”

นัยน์ตาตี้ฝูอีส่องประกายแวบหนึ่ง ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน “อันที่จริง…ข้า อยากลองดูยิ่งนัก…”

หลงซือเย่ตะลึงงัน

ขณะที่เขาตัดสินใจจะส่งพลังเรียกรวมพล ตี้ฝูอีกลับนั่งลงไปอีกครั้ง “แต่ถ้าข้าลงมือจริงๆ โลหิตต้องนองดุจสายนํ้าเป็นแน่ ถึงอย่างไร ข้ากับเจ้าสำนักหลงก็ค่อนข้างสนิทชิดเชื้อกัน จึงหักใจกระทำไม่ลงอยู่บ้าง…ศึกนี้ข้าไม่อยากสู้ เจ้าสำนักหลงพอจะมีวิธีแก้ไขอย่างสันติหรือไม่?”

หลงซือเย่ลอบถอนหายใจโล่งอก ศึกนี้เขาก็ไม่อยากสู้เช่นกัน

ว่ากันตามจริงแล้ว ถึงแม้เขากับทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้จะเคยร่วมมือกันกำจัดศัตรู แต่จนถึงตอนนี้เขาก็ยังหยั่งพลังที่แท้จริงของเจ้าวังตี้ไม่ออก

การต่อสู้ของเจ้าวังผู้นี้คล้ายจะพบอ่อนปะทะอ่อน พบแข็งปะทะแข็ง [1]

ยามที่เขาต่อสู้กับผู้อื่น จะดูราวกับเหนือกว่าอีกฝ่ายเพียงเล็กน้อย ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ระดับที่คนเดียวก็สามารถต่อสู้ได้สบายๆ ฟ้าถล่มดินทลาย สุริยันจันทราไร้แสง สุดท้ายเขาย่อมจัดการศัตรูจนย่อยยับได้ ทำให้คนไม่กล้ายั่วโทสะเขาอีกต่อไป…

คนเช่นนี้คบเป็นสหายจะดียิ่งนัก หากเป็นศัตรูจะน่าอนาถยิ่ง เพราะอาจถูกเขาเล่นงานจนตาย…

“ข้าไม่เอาเรื่องข้อหาบุกรุกของท่านก็ได้ แต่มีเงื่อนไขข้อหนึ่ง” ในที่สุดหลงซือเย่ก็เป็นฝ่ายได้เปรียบ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version