Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 253

บทที่ 253

เส้นประสาทตึงเครียดตามสัญชาตญาณ!

เธอมองดวงจันทร์กระจ่างเหนือศีรษะ มองกองไฟที่อยู่ใกล้ๆ แล้วมองอาชาเวหาที่ดำผุดดำว่ายอยู่ในแม่น้ำใหญ่เบื้องหน้าอย่างเบิกบาน จากนั้นก็มองทูตสวรรค์ที่นั่งสมาธิอยู่ด้านข้าง มึนงงอยู่บ้าง “ที่นี่ที่ไหน?”

ตี้ฝูอีลืมตาขึ้น เพ่งพิศนางตั้งแต่หัวจรดเท้าแวบหนึ่ง นํ้าเสียงค่อนข้างยากจะคาดเดา “เจ้าสร่างแล้วรึ?”

กู้ซีจิ่วชะงัก เหตุการณ์ยามดื่มสุราแวบผ่านเข้ามาในสมองอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าเธอดื่มๆ อยู่ก็รู้สึกเวียนศีรษะขึ้นมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายหลังเธอจำได้นิดหน่อยเท่านั้น…

จำได้ว่าหล่นจากอาชาเวหากลางอากาศ จำได้ว่าหล่นลงไปในน้ำ แล้วจมอยู่ครู่หนึ่ง จำได้ว่า…จำได้ว่าเขาถอดเสื้อผ้าเธอ!

สีหน้ากู้ซีจิ่วแปรเปลี่ยนทันที รีบสำรวจร่างกายตนเอง พบว่ายังสวมชุดเดิมอยู่และยังคงเปียกชื้นอยู่บ้าง สวมติดกายแล้วหนาวเย็นยิ่ง โชคดีที่เสื้อผ้ายังคงผูกแน่นสนิท เธอจึงไม่โป้เปลือยโดยไม่ตั้งใจ

เมื่อมองตี้ฝูอีอีกครา เขาเปลี่ยนชุดแล้ว อาภรณ์สีม่วงตัวเดิมกลายเป็นเสื้อคลุมสีขาวนวลจันทร์ดูสง่าสำราญยิ่งนัก

กู้ซีจิ่วใจเต้นแวบหนึ่ง ยามสวมเสื้อคลุมเช่นนี้แล้วนั่งสมาธิ คนผู้นี้ เหมือนรูปสลักหยกชิ้นนั้นมาก!

ดูเคร่งขรึมเย็นชา เข้าถึงยาก

แต่เมื่อเขาลืมตาพูดจา ก็กลับคืนสู่สภาพทรงเสน่ห์หน้าเนื้อใจเสือเหมือนเดิม ทำให้เส้นประสาทกู้ซีจิ่วตึงเครียดตามสัญชาตญาณ!

เธอมองดูเขา แล้วก็มองดูตนเอง “เสื้อผ้าของข้า…เปียกได้ยังไง?”

“ถามได้ดี!” ตีฝูอียิ้ม

รอยยิ้มนั้นดูอย่างไรก็เย็นยะเยือก “เจ้าจำอะไรไม่ได้เลยหรือ?”

กู้ซีจิ่วนวดคลึงหน้าผากที่ยังปวดหนึบอยู่ แล้วส่ายหน้านิดๆ “ข้าจำได้ว่าข้าตกลงมาจากอาชาเวหา แปลกนัก มีท่านอยู่ด้วย แล้วข้าตกลงมาได้อย่างไร?”

นางเชื่อถือเขาจริงๆ ด้วย!

ตี้ฝูอีทั้งฉุนทั้งขัน เหลือบมองนางแวบหนึ่ง อธิบายแก่นางสั้นๆ ว่า “เจ้าดื่มมากไปจนเมาอาละวาด ลวนลามข้าอย่างเอาเป็นเอาตาย คึกจนอาเจียนใส่ร่างอาชาเวหา อาชาเวหาไม่พอใจจึงสลัดเจ้าตกลงไป…”

กู้ซีจิ่วตะลึง เธอเมาแล้วก้าวร้าวถึงเพียงนี้เลยหรือ?

เธอนวดคลึงหว่างคิ้ว “แต่ข้าจำได้ว่าท่านใช้ลำแสงสีขาวพันข้าไว้

“ข้าเกรงว่าเจ้าจะกลายเป็นเนื้อบด จึงดึงเจ้าขึ้นมา”

“เช่นนั้นข้าตกลงไปอีกได้อย่างไร?” กู้ซีจิ่วรู้สึกว่าเหตุการณ์ตอนตนตกลงไปเป็นครั้งที่สองค่อนข้างอันตราย แต่เธอก็นึกไม่ออกแล้ว

“เจ้าคิดไม่ตกแล้วโดดลงไปเอง” ตี้ฝูอีโกหกโดยไม่กะพริบตา “เคราะห์ดีที่เรี่ยผิวนํ้าแล้ว ข้าไม่ต้องตกเจ้าขึ้นมาอีก”

กู้ซีจิ่ว นิ่งงัน เธอครุ่นคิดดูอีกที นึกเหตุการณ์ตอนนั้นไม่ออกจริงๆ จึงเลิกคิดเสียเลย

“ข้าจำได้ว่า…ท่าน…” จู่ๆ กู้ซีจิ่วก็ชะงัก

“หือ จำได้ว่าข้าอะไร?”

“ท่าน…ท่านลวนลามข้า…” เธอฝังใจกับสิ่งนี้อย่างลึกลํ้า เธอยังจำได้ด้วยว่าเขาใช้มือสัมผัสอะไรทำนองนั้น

“ข้าลวนลามเจ้า?” ตี้ฝูอีเลิกคิ้ว “เจ้าคิดว่าตนงามมากสินะ! ผมสักเส้นของเจ้ายังงดงามสู้ข้าไม่ได้เลย เจ้าคิดว่าข้าจะมีอารมณ์เช่นนั้นหรือ?”

กู้ซีจิ่วนิ่งเงียบ จอมมารผู้นี้ปากร้ายเกินธรรมดาจริงๆ!

เธอกัดฟัน “เช่นนั้นท่านถอดเสื้อผ้าข้าทำไม?”

“เจ้าไม่เพียงอาเจียนใส่ร่างอาชาเวหาเท่านั้น ยังทำร่างกายตัวเองเลอะเทอะไม่น้อย ข้าหวังดีเลยทำความสะอาดให้เจ้า”

“แต่…แต่ท่านสะบัดแขนเสื้อคราเดียวก็จบเรื่องแล้วชัดๆ…” เธอจำได้ว่าตอนโดดลงทะเลสาบชื่นสุคนธ์หนก่อน ชุดเธอก็เปียกชื้นเช่นกัน แต่เขาสะบัดแขนเสื้อคราเดียวก็ทำให้เธอแห้งสนิทเหมือน ก่อนหน้านี้แล้ว

ทำไมหนนี้ต้องเสียเวลาใช้มือล้างด้วยเล่า?

ตี้ฝูอีมองเธอ “ตอนแช่อยู่ในน้ำเมื่อครู่รู้สึกอย่างไร?”

“ไม่ดียิ่งนัก!” กู้ซีจิ่วตอบเป็นจริงเป็นจัง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version