บทที่ 288
ไม่จำเป็นต้องไปขอคำยืนยันจากเทพศักดิ์สิทธิ์
ตี้ฝูอีเป็นผู้เลิศลํ้าที่สุดในบรรดาสานุศิษย์สวรรค์เบื้องบนทั้งห้าคน และเป็นคนเจ้าแผนการที่สุด ฮวาอู๋เหยียนคิดว่าเขาน่าจะมีวิธิ
สีหน้าตี้ฝูอีเฉยเมย “ผู้ที่ทราบรูปลักษณ์ของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์บนโลกนี้มือยู่ไม่มาก นางเป็นเพียงคุณหนูในห้องหอผู้หนึ่ง หากมิได้พบกับเขาในความฝันจริงๆ จะสามารถกล่าวเหมือนตาเห็นเช่นนี้ได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้นวรยุทธ์บางส่วนของนางเป็นวรยุทธ์ของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์จริง สิ่งเหล่านี้เพียงพอจะพิสูจน์ได้แล้วว่านางมิได้โป้ปด! ไม่จำเป็นต้องไปขอคำยืนยันจากเทพศักดิ์สิทธิ์หรอก”
“แต่ว่า…” ฮวาอู๋เหยียนขมวดคิ้วยังอยากพูดต่อ
ทว่าตี้ฝูอียกมือขึ้น “ไม่ต้องพูดแล้ว จะไปขอคำยืนยันจากท่านเทพศักดิ์สิทธิ์มิใช่สิ่งที่สามารถกระทำได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ ยามนี้มา พูดคุยกันก่อนดีกว่าจะจัดการแม่นางกู้ผู้นี้อย่างไร”
ดวงตาฮวาอู๋เหยียนสาดแสงแวบหนึ่ง “ยังต้องจัดการอยู่หรือ?”
ใบหนาตี้ฝูอีจริงจัง สีหนาซื่อตรงเที่ยงธรรม “แน่นอน! ต่อให้เป็นศิษย์ของเทพศักดิ์สิทธิ์ หากกระทำความผิดร้ายแรงเพียงนี้ก็สมควรได้รับโทษทัณฑ์!”
ฝูงชนตะลึงงัน
พลิกไปพลิกมาบ่อยเช่นนี้ ทำให้หัวใจดวงน้อยๆ ของพวกเขารับไม่ไหวแล้ว!
โดยเฉพาะเหลิ่งเซียงอวี้ หัวใจเดี๋ยวพุ่งเดี๋ยวดิ่ง เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง เดี๋ยวสุขเดี๋ยวทุกข์ นางรู้สึกเหมือนหัวใจตนจะวายแล้ว!
กู้เซี่ยเทียนก็รู้สึกว่าหัวใจที่แข็งแกร่งของตนก็ท่าไม่ค่อยดี!
เขาอดเอ่ยปากไม่ได้ “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย เรื่องนี้เดิมทีซีจิ่วมิได้เจตนา อีกอย่างมีความเป็นไปได้สูงที่นางจะเป็นลูกศิษย์ของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ ท่านมิเห็นแก่หน้าพระก็เห็นแก่หน้าเจ้าเถิด จะลงโทษต่อได้อย่างไร?”
“จักรพรรดิทำผิดโทษเท่าสามัญชน” ตี้ฝูอีกล่าวลอยๆ ประโยค เดียวก็สามารถอุดปากกู้เซี่ยเทียนได้
ตี้ฝูอีมองไปที่จักรพรรดิซวน “ฝ่าบาท พระองค์คิดเห็นประการใด?”
จักรพรรดิซวนใคร่ครวญอยู่พักใหญ่ ในที่สุดก็ออกความเห็น “แม่นางกู้มิได้เจตนาจริงๆ แต่เรื่องที่อ้างตนว่าเป็นศิษย์สวรรค์เบื้องบนก็มิใช่เรื่องเล็ก ไม่อาจปล่อยไปเฉยๆ ได้ เอาเช่นนี้แล้วกัน โทษทัณฑ์ก็ยังต้องรับอยู่ แต่โทษไม่ควรหนักหนาเท่าคนทั่วไปที่อ้างตนว่าเป็นศิษย์สวรรค์ฟ้องบน ต้องลงโทษสถานเบาถึงจะทำให้ปวงชนเลื่อมใส มิฉะนั้นจะบอกกล่าวแก่ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์อย่างไร?”
บนทวีปแห่งนี้ ขนาดเด็กรับใช้ภายใต้การปกครองของเทพศักดิ์สิทธิ์ก็ยังได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่อลังการ ถึงแม้กู้ซีจิ่วจะไม่ใช่ลูกศิษย์ของเขาอย่างเป็นทางการ แต่เขากลับทุ่มเทจิตใจสั่งสอนชี้แนะ ฐานะเช่นนี้ก็ไม่ด้อยกว่าสานุศิษย์ของสวรรค์เบื้องบนสักเท่าไหร่ หากรับโทษทัณฑ์แบบเดียวกับผู้แอบอ้างทั่วไป ก็เท่ากับไม่เห็นเทพศักดิ์สิทธิ์อยู่ในสายตา ดังนั้นเมื่อจักรพรรดิซวนกล่าวเช่นนี้จึงไม่มีผู้ใดคัดค้าน
ด้วยเหตุนี้ฝูงชนจึงทยอยยื้อแย่งกันกล่าวคล้อยตามจักรพรรดิซวน ท้ายที่สุดแล้ว ตี้ฝูอีที่มีอำนาจจัดการเรื่องนี้อย่างสมบูรณ์ก็ตัดสินชี้ขาด มีผลตัดสินดังนี้
โทษฐานแอบอ้างว่าเป็นศิษย์สวรรค์เบื้องบนของกู้ซีจิ่วไม่สามารถลบล้างอย่างสมบูรณ์ได้ ยังต้องเอาไปปล่อยไว้ในป่าทมิฬ แต่ไม่ต้องปล่อยไว้ในส่วนลึกที่สุด ให้ปล่อยไว้ใต้ด้ยอดเขาที่สามเท่านั้น แน่นอนว่าวรยุทธ์ในกายกู้ซีจิ่วก็รักษาเอาไว้ได้ครบถ้วน เธอถึงขั้นมีเวลาเตรียมความพร้อมครึ่งปีแล้วค่อยไป…
เมื่อผลตัดสินออกมาเป็นเช่นนี้ ฝูงชนย่อมไม่มีผู้ใดคัดค้าน ต่างพยักหน้าเห็นด้วย
กู้ซีจิ่วก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
คำตัดสินเช่นนี้เป็นประโยชน์กับเธออย่างมหาศาล ยามนี้เธอมีพลังวิญญาณเล็กน้อยแล้ว เธอต้องคว้าโอกาสครึ่งปีนี้ฝึกฝนให้ดี เมื่อถึงเวลาย่อมสามารถเลื่อนระดับขั้นไปอีกขั้นได้ หากถูกนำไปปล่อยไว้ในป่าทมิฬก็ไม่ต้องหวาดหวั่นแล้ว อัตราการหนีรอดของเธอจะเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม!
เมื่อครู่เธอยืนอยู่ด้านข้างตลอด คอยฟังอยู่เงียบๆ พอฟังถึงตอนสุดท้ายเธออยากจะเขียนบทความสรรเสริญตี้ฝูอีเสียจริง!
เงื่อนไขที่คนผู้นี้เคยรับปากหลงซือเย่เอาไว้เขาล้วนปฏิบัติตามอย่างซื่อสัตย์ถึงเพียงนี้ ถึงขั้นยอมสละฉายาเที่ยงธรรมไม่เห็นแก่ผู้ใด…
ดูท่าสุราไหนั้นของหลงซือเย่จะไม่เสียเปล่า!
เธอกวาดสายตามองรอบๆ เกิดคำถามข้อหนึ่งขึ้นในใจ