Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 289

บทที่ 289

นิ้วมือภายในแขนเสื้อของเธอกำแน่น!

น่าแปลก ด้วยความหมกหมุ่นที่หลงซือเย่มีต่อเธอ งานทดสอบครั้งนี้เขาไม่น่าพลาดถึงจะถูกสิ ต่อให้ไม่ได้เป็นผู้ช่วยทดสอบแล้ว อย่างน้อยก็น่าจะโผล่หน้ามามิใช่หรือ?

หรือติดพันธุระอื่นอยู่?

หรือเขาซุ่มมองเหตุการณ์นี้จากสถานที่อื่น?

นี้วมือภายในแขนเสื้อของเธอกำแน่น!

ตอนนั้นหลงซือเย่เป็นครูฝึกในค่ายฝึกนักฆ่า สติปัญญารวมถึงการวางแผนของเขาย่อมเยี่ยมยอดมาก อีกทั้งรู้นิสัยเธอเป็นอย่างดี รู้จักเธอเหมือนที่รู้จักแขนซ้ายขวาของเขาเอง ซ้ำยังต่อสู้อยู่ในโลกนี้อย่างยากลำบากมาเนิ่นนานหลายปี ผนวกกับเป็นเจ้าสำนักถาามสวรรค์ กลยุทธ์ของเขาย่อมเหนือกว่าเมื่อก่อนหลายขั้น

ตอนนี้โดยทั่วไปคือเธอกับเขาแตกหักกันแล้ว หากเขายังมุ่งร้ายกับเธอต่อไป เกรงว่าจะจัดการยากอยู่บ้าง…

ขณะที่เธอใจลอยอยู่ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงดังโหวกเหวกจากด้านล่างจึงก้มมอง ด้านล่างมีคนตั้งแถวคุกเข่าอยู่…

แถวี้มีสิบกว่าคน กู้เทียนอีก็ปรากฏอยู่ในนั้นด้วย!

ยังมีอีกหลายคนที่กู้ซีจิ่วเคยพบเห็น เป็น ‘จอมยุทธ์หญิง’ หลายคน ที่ด่าทอเธอบนโต๊ะอาหารอย่างสนุกสนานยิ่งนักเมื่อเช้านี้นั้นเอง

เห็นได้ชัดว่าพวกนางถูกสกัดจุดไว้ คุกเข่าอยู่ตรงนั้นลุกไม่ขึ้น สีหน้าตื่นตระหนก มีสาวน้อยชุดเขียวหน้าตางดงามแปดคนยืนอยู่ด้านหลังพวกเขา

กู้ซีจิ่วใจเต้นเล็กน้อย เธอรู้จักสาวน้อยหน้าแฉล้มแปดนางนี้ พวกนางเป็นสาวใช้ในวังคํ้านภา!

หนึ่งในนั้นยังคุ้นเคยกับเธอด้วย เป็นโม่อวี่เยียนที่เคยถูกเธอเล่นงาน…

โม่อวี่เยียนกำลังรายงานต่อตี้ฝูอีที่อยู่บนแท่น “เรียนท่านทูตสวรรค์ จับผู้ที่เป็นหัวโจกจงใจก่อความวุ่นวายนินทาว่าร้ายแม่นางกู้ได้แล้วเจ้าค่ะ ทั้งหมดอยู่ที่นี่แล้ว ไม่ขาดไปสักคน”

ตี้ฝูอีเหลือบมองแวบหนึ่ง หันไปถามจักรพรรดิซวน “ฝ่าบาท เจตนาว่าร้ายด่าทอลูกศิษย์ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ต้องได้รับโทษทัณฑ์เช่นใด?”

สีหน้าจักรพรรดิซวนทะมึน สั่งการผู้พิพากษาศาลต้าหลี่ที่อยู่ข้างกายว่า “นำตัวพวกเขาทั้งหมดไป ทำลายวรยุทธ์ ตัดลิ้นทิ้ง แล้วเนรเทศไปที่ราบเหมันต์ซะ”

ที่ราบเหมันต์เป็นที่ราบนํ้าแข็งร้างผู้คน คนที่ถูกส่งไปสถานที่แห่งนั้นไม่มีทางรอดชีวิตกลับมาได้!

สิบกว่าคนนั้นสีหน้าแปรเปลี่ยนไปเป็นอันมาก ตะโกนขอความเป็นธรรมอย่างสุดชีวิต กล่าวว่าตนไม่ได้ด่า เป็นการจับผิดตัว บางคนถึงขั้นบนบานสานกล่าว สาบานว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์ โขกศีรษะไป ทางตี้ฝูอีอย่างสุดชีวิต ขอให้เขามอบความยุติธรรมให้แก่ตน

ในที่สุดตี้ฝูอีก็มองพวกเขาอีกแวบหนึ่ง สายตานี้ดุจธารนํ้าแข็ง ทำให้คนทั้งหมดหุบปากลง

เขาแย้มยิ้ม รอยยิ้มนี้อ่อนโยนยิ่งนัก “ข้าจะให้โอกาสพวกเจ้าเพียงครั้งเดียว ฟังข้าให้ดี! ชี้ตัวผู้ที่บงการอยู่เบื้องหลังพวกเจ้ามา แล้วข้าจะตัดสินให้ตัดลิ้นเท่านั้น ยกเลิกโทษทัณฑ์อื่น ถ้าพูดจาไร้สาระอีก ข้าจะเพิ่มโทษเป็นเท่าตัว!”

สิบกว่าคนนั้นตะลึงงัน

ไม่มีใครกล้าซักถามว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายพูดจริงหรือไม่ ดังนั้น ถึงแม้หัวใจของทั้งสิบกว่าคนนั้นจะไม่ยิ้นยอม แต่ก็ยังชี้นิ้วไปที่คนผู้หนึ่งอย่างเด็ดเดี่ยวพร้อมเพรียง “เป็นนาง!”

คนที่เพวกเขาชี้คือกู้เทียนอี

กู้เทียนอีหน้าซีดเผือด เดิมทีนางคิดจะเอ่ยแก้ตัวข้างๆ คูๆ แต่กลิ่นอายของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายที่อยู่ด้านบนผู้นั้นดุร้ายยิ่ง นางจึงไม่กล้าเอ่ยถ้อยคำโป้ปดทั้งหมดออกมา ตัวสั่นเทิ้มขดเป็นก้อน ส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากบิดาตน

อันที่จริง เมื่อครู่ตอนที่กู้เทียนอีเป็นต้นเสียงด่าทอ กู้เซี่ยเทียนก็ได้ยิน เพียงแต่ตอนนั้นเขาอยู่บนแท่นฝั่งนี้กับองค์จกรพรรดิ ไม่สามารถวิ่งไปสั่งสอนคนได้ แต่ในใจก็คิดไว้แล้วว่ากลับบ้านไปจะสั่งสอนคนสารเลวผู้นี้อย่างหนักด้วยกฎบ้าน

ยามนี้พอเห็นนางขอความช่วยเหลือด้วยท่าทีที่น่าสงสารเช่นนั้น ก็ทั้งเดือดดาลทั้งทนไม่ได้ ใคร่ครวญอยู่ครู่หมนึ่ง แล้วจึงคุกเข่าให้ตี้ฝูอี “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version