Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 290

บทที่ 290

กฎบ้าน? กฎเมือง?

ตี้ฝูอียิ้มบางๆ “เจ้าต้องการขอความเมตตาให้นางหรือ?”

คำพูดเรียบง่ายที่เขาเอ่ยออกมาทำให้รู้สึกเสียวสันหลังอย่างไม่ทราบสาเหตุ

กู้เซี่ยเทียนกัดฟันโขกศีรษะ “ผู้’เฒ่ามิได้จะขอความเมตตาให้นาง นางด่าทอน้องสาวตัวเอง ไม่คำนึงถึงสายโลหิตเดียวกันเลยแม้แต่น้อย ผู้เฒ่าอยากสั่งสอนนางด้วยตัวเอง…”

“ตามสบาย” ตี้ฝูอีกล่าวสองคำ

กู้เซี่ยเทียนหันไปกล่าวขออภัยจักรพรรดิซวน แล้วกระโดดลงจากแท่นมาเบื้องหน้ากู้เทียนอี ไม่รอให้นางกล่าวอันใด ก็ตบปากนาง จนเกิดเสียงเพี๊ยะเป็นอันดับแรก “เจ้ามันสารเลว ซีจิ่วเป็นน้องสาวเจ้า เจ้าไม่คำนึงถึงสัมพันธ์พี่น้องสักนิด ด่าทอนางถึงเพียงนี้ ตนเองด่าทอยังไม่พอ ยังจะลากผู้อื่นมาด่าด้วย!”

เขาเป็นแม่ทัพบัญชาการ อีกทั้งใส่เรี่ยวแรงเข้าไปจริงๆ เมื่อตบปากเสร็จ ใบหน้าสะสวยของกู้เทียนอีจึงดูไม่ได้เลย ทั้งบวมทั้งแดง โลหิตไหลรินจากมุมปาก

นี่ยังไม่นับว่าจบ เมื่อกู้เซี่ยเทียนตบปากเสร็จก็เตะซ้ำอีก เตะนางกระเด็นออกไป กระดูกซี่โครงหักท่อนหนึ่ง

ครั้งนี้นางลุกไม่ขึ้นแล้วจริงๆ หมอบอยู่บนพื้นร้องไห้สะอึกสะอื้น กล่าวซ้ำๆ ว่าตนทราบความผิดแล้ว…

กู้เซี่ยเทียนกล่าวอย่างเดือดดาล “ทราบความผิดแล้วยังไม่ขอขมาน้องสาวเจ้าอีกหรือ?”

กู้เทียนอีเสียขวัญจริงๆ นางปากไม่มีหูรูดมาโดยตลอด เพียงแต่ไม่คิดว่าความปากไม่มีหูรูดครั้งนี้จะต้องจ่ายด้วยราคามหาศาลเช่นนี้!

นางเองก็ทราบว่าที่บิดาลงโทษด้วยตัวเองเพราะหวังดีต่อนางจริงๆ และมอบโอกาสให้นางได้หาหางคลี่คลาย จึงรีบกระเสือกกระสน คลานไปโขกศีรษะติดๆ กันหลายครั้งให้กู้ซีจิ่วที่อยู่บนแท่น กล่าว ว่า “ข้าผิดไปแล้ว ขอให้น้องสาวเห็นแก่ความเป็นพี่น้อง ยกโทษครั้งนี้ให้ข้าด้วยเถิด”

และถ้อยคำอื่นๆ อีกมากมาย

นางโขกศีรษะอย่างสุดชีวิต โขกจนศีรษะแตก

กู้ซีจิ่วเหลือบมองนางอย่างเฉยชา ไม่กล่าวอันโด

เธอไม่ใช่แม่พระ ไม่สนใจคำขอขมาลาโทษ ‘น้องสาว’ ทั้งหมดของกู้เทียนอี

ปีนั้นกู้ซีจิ่วคนเก่าโดนกู้เทียนอีผู้นี้กลั่นแกล้งไม่น้อย ถูกนางเรียกไปทุบตีด่าทอ

ถีบกู้ซีจิ่วตัวน้อยตกน้ำในวันที่หนาวเหน็บยิ่ง ใส่ร้ายซีจิ่วน้อยต่อหน้าบิดา ใส่ฟืนเติมไฟในหมู่พี่น้อง ทำให้เหล่าพี่น้องห่างเหินกับซีจิ่วน้อย มือยู่หนหนึ่งถึงขั้นหลอกนางออกไปและเกือบจะขายให้หอ นางโลมแล้ว!

คนเช่นนี้มิใช่แค่คนสารเลวชั่วร้าย แต่เป็นคนระยำอัปรีย์อย่างยิ่ง

ทุกครั้งยามพบเห็นการเหยียบย่ำผู้อื่นนางจะโดดไปอยู่ด้านหน้าสุด แล้วเหยียบยํ่าอีกฝ่ายอย่างเต็มที่แม้จะไม่มีความแค้นต่อกันก็ตาม พฤติกรรมบางอย่างของนางดูเหมือนจะเป็นแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทว่ากลับเป็นการสังหารคนโดยที่มีดไม่เปื้อนเลือด สังหารผู้อื่นด้วยวาจา น่ารังเกียจเป็นที่สุด

กู้ซีจิ่วแค่ไม่อยากให้มีดตัวเองต้องสกปรกเลยไม่สังหารนางแต่แรก แล้วยามนี้จะยินดีช่วยนางได้อย่างไร?

หากเธอไม่พูดเสียอย่าง เช่นนั้นกู้เทียนอีจะต้องได้รับโทษขั้นร้ายแรงที่สุด มีชีวิตอยู่ไม่สู้ตาย…

สำหรับกู้เซี่ยเทียนแล้ว กู้เทียนอีผู้นี้มิใช่บุตรสาวที่น่าเอ็นดูอีกต่อไป แต่ถึงอย่างไรก็เลี้ยงดูอุ้มชูอยู่ข้างกายมานานปี อีกทั้งทนไม่ได้ที่นางต้องรับโทษทัณฑ์เช่นนั้น เขาอดจะมองไปที่กู้ซีจิ่วไม่ได้ “ซีจิ่ว…”

กู้ซีจิ่วมองกลับมาอย่างเฉยชา สายตานั้นเย็นชาเฉียบคมดุจใบมีด ทำให้หัวใจของกู้เซี่ยเทียนเหน็บหนาวอย่างฉับพลัน ประโยคหลังที่อยากจะกล่าวก็กล่าวไม่ออกแล้ว…

ตี้ฝูอีอ้าปากหาว “แม่ทัพกู้ เจ้าชำระกฎบ้านเรียบร้อยหรือยัง?”

กู้เซี่ยเทียนชะงัก สุดท้ายก็กล่าวอย่างไม่มั่นใจ “นี่…นี่เป็นเรื่องในครอบครัวของผู้เฒ่า…”

นํ้าเสียงตี้ฝูอีเย็นชา “หากกู้ซีจิ่วเป็นเพียงบุตรสาวของเจ้า ไม่ว่านางจะถูกบุตรสาวคนอื่นๆ ของเจ้าด่าทออย่างไรก็ล้วนเป็นเรื่องในครอบครัวเจ้า ข้าก็คร้านจะถาม แต่ยามนี้คุณหนูหกเป็นศิษย์ของเทพศักดิ์สิทธิ์ นางถูกบุตรสาวเจ้าดูหมิ่นคิดร้ายเยี่ยงนี้ เจ้ายังคิดว่าเป็นเรื่องในครอบครัวเจ้าอยู่หรือ?”

กู้เซี่ยเทียนหน้าซีดขาว ไม่สามารถตอบคำถามเขาได้ “นี่…”

ตี้ฝูอีคร้านจะมองเขาอีก จึงกล่าวกับจักรพรรดิซวนโดยตรง “ฝ่าบาท แม่ทัพกู้ชำระกฎบ้านเสร็จสิ้น ยามนี้ควรชำระกฎเมืองแล้วใช่หรือไม่?”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version