Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 33

บทที่ 33

แค่อยากมาเยี่ยมชมให้ทั่ว

ห้องบนชั้นสามมีขนาดใหญ่กว่าห้องที่ชั้นสองถึงสองเท่า มีทั้งหมดสี่ห้อง บานหน้าต่างนั้นเป็นหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานไข่มุกแต่ละเม็ดที่แขวนไว้ด้านบนมีขนาดใหญ่เท่าไข่นกพิราบ แกว่งไกวเล็กน้อย ดุจทางช้างเผือกที่กำลังเคลื่อนตัว

หลังหน้าต่างของทั้งสี่ห้องนั้นมืดมิด แสดงให้เห็นว่าไม่มีคนอยู่ในห้อง

องค์ชายแปดมีฐานะสูงส่งปานนี้ยังถูกจัดให้อยู่เพียงชั้นสอง แล้วทั้งสี่ห้องบนชั้นสามนั้นเตรียมไว้ให้คนจากแดนศักดิ์สิทธิ์ใดกัน?

ขณะที่กู้ซีจิ่วกำลังคาดเดาอยู่ในใจ องค์ชายหรงเช่อที่อยู่ด้านหลังก็ส่งเสียงขึ้นมา ดูเหมือนว่าเขาจะเดาออกว่าเธอสงสัยอะไรอยู่ “ห้องที่ชั้นสองเหล่านี้เตรียมไว้ให้เชื้อพระวงศ์และบุตรหลานขุนนางใหญ่ ส่วนชั้นสามเตรียม

ไว้ให้ฝ่าบาทและผู้อาวุโสจากสามสำนักหลักขึ้นไป”

หัวใจของกู้ซีจิ่วเต้นระรัว เธอเคยได้ยินเรื่องของสามสำนักหลักนี้ ในทวีปนี้นอกเหนือจากพลังยุทธ์แล้ว สิ่งที่นับถือกันมิใช่แค่จักรพรรดิที่เป็นผู้ปกครองสูงสุด อย่างน้อยฐานะประมุขของสามสำนักหลักก็เทียบเคียงกับจักรพรรดิได้ สามสำนักหลักได้แก่ สำนักถามสวรรค์ สำนักเก้าดารา สำนักหยินหยาง

ทั้งสามสำนักนี้กระจายตัวอยู่ในสามอาณาจักร สานุศิษย์ที่อยู่ภายใต้สำนักเหล่านี้มีจำนวนเป็นหมื่น ถึงแม้ว่าแต่ละสำนักจะมีจุดมุ่งเน้นในการฝึกตนแตกต่างกัน ทว่าวิชายุทธ์ของทุกสำนักล้วนทำให้ฟ้าดินผวา เทพมารสะอื้น

ที่ทวีปนี้วิชายุทธ์ชั้นสูงสามารถฝึกฝนได้ที่สามสำนักนี้เท่านั้นในสามอาณาจักรไม่ว่าจะเป็นชนชั้นสูงหรือคนธรรมดาสามัญ ล้วนอยากกราบเป็นศิษย์ของสามสำนักหลักเพื่อความรุ่งโรจน์

ถึงแม้สามสำนักหลักจะเปิดรับศิษย์ใหม่ทุกปี แต่เกณฑ์การคัดเลือกศิษย์นั้นเข้มงวดเป็นอย่างยิ่ง ถ้าไม่ใช่อัจฉริยะที่มีรากฐานวิญญาณระดับสูงก็ไม่รับ ทั้งยังต้องผ่านการทดสอบอีกนานัปการ

ทุกปีผู้ที่ผ่านการคัดออกจนกราบเป็นศิษย์ของสามสำนักหลักได้ มีประมาณสิบกว่าคนเท่านั้น

เพียงศิษย์ผู้สืบทอดสักคนของสามสำนักหลักมาเยือน ก็ได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่แล้ว หากเป็นประมุขสำนักจะไม่ยิ่งกว่านั้นอีกหรือ?

ไม่ว่าพวกเขาจะเดินทางไปที่อาณาจักรใดก็ล้วนได้รับการปฏิบัติอย่างดีจากองค์จักรพรรดิผู้ปกครองอาณาจักร

ประมุขของสามสำนักหลักผ่านการบ่มเพาะจนเป็นเหมือนเทพเซียน จึงไม่มาเยือนง่ายๆ ตามปกติแล้วเมื่อมีเรื่องสำคัญใดๆ ก็ตามพวกเขาจะส่งหัวหน้าศิษย์ผู้สืบทอดมา โดยลูกศิษย์เหล่านี้ล้วนมีฐานะเป็นผู้อาวุโสในสำนัก ทั้งยังมีป้ายคำสั่งประมุขสำนักไว้ในครอบครอง ซึ่งมีอำนาจเสมือนประมุขสำนักมาเอง ทุกอาณาจักรจึงให้การต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่เป็นพิเศษ

ทุกอาณาจักรได้จัดเตรียมที่พัก และเหลาสุราไว้ให้พวกเขาโดยเฉพาะ ต่อให้เป็นโรงประมูลก็มีที่เฉพาะสำหรับพวกเขา

กู้ซีจิ่วเงยหน้ามองที่ชั้นสามแล้วลอบถอนหายใจออกมา ด้วยฐานะของเธอในตอนนี้ มีคุณสมบัติแค่พอจะนั่งที่ชั้นล่างได้ แต่ก็ยังห่างไกลกับชั้นสองและชั้นสามนัก ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว…

เห็นทีว่าประมุขสำนักของที่นี่จะเทียบเท่ากับสมเด็จพระสังฆราชของต่างประเทศในยุคของเธอ ดูแล้วน่าจะมีศักดิ์เสมอกับจักรพรรดิ ทว่ามีอำนาจบารมี มากกว่าจักรพรรดิมากนัก

“น้องชาย เจ้ามาที่นี่คิดจะซื้อสิ่งใดหรือ?” องค์ชายหรงเช่อกำลังชงชาด้วยตัวเองอยู่ตรงนั้น ท่าทางของเขาผ่อนคลายและเป็นธรรมชาติ ทุกอากัปกริยางดงามอ่อนช้อย เหมือนลูกหลานชนชั้นสูงในราชวงศ์

กู้ซีจิ่วเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง แม้เธอจะเข้าใจเรื่องซับซ้อนนี้เพียงตื้นเขิน แต่ก็พอดูออกว่าองค์ชายหรงเช่อเป็นผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์การชงชาคนหนึ่ง ผู้ที่อยู่เบื้องหน้านี้เกรงว่าจะมีความรู้ที่รอบรู้กว่าหลงซีแฟนเก่าของเธอมากนัก…

แววตาของเธอมืดมนลง คนแบบนั้นไม่คู่ควรให้เธอจดจำ!

ความรู้สึกหงุดหงิดที่ยากจะอธิบายเอ่อล้นอยู่ภายในใจ เธอแสร้งหาว “ผู้น้อยแค่อยากมาเยี่ยมชมให้ทั่วเพื่อเปิดหูเปิดตา”

ยามนี้งานประมูลที่ชั้นล่างเริ่มขึ้นแล้ว กู้ซีจิ่วพิงหน้าต่าง มองดูก็ได้แต่แอบทอดถอนใจอยู่ในใจ สิ่งของที่นำมาประมูลที่นี่มีแต่สินค้าชั้นยอดจริงๆ การประมูลจะเริ่มจากสินค้าราคาต่ำไล่ไปหาสินค้าราคาแพง ทว่าเธอต้องพบกับความผิดหวัง เพราะเงินที่เธอพกติดตัวมาแม้แต่ของที่ราคาถูกที่สุดก็ซื้อไม่ได้!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version