Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 330

บทที่ 330

ข้ารู้สึกว่าเขาควรจะมาหาท่านบ้าง

“ไม่รู้ว่าอวิ๋นซิงหลัวผู้นี้จะมีคุณสมบัติพอให้ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเปิดแท่นเบิกสวรรค์เพื่อนางหรือไม่?”

“น่าจะมีคุณสมบัติกระมัง? ถึงอย่างไรนางก็ไม่ธรรมดามาตั้งเล็ก ทั้งยังมีซื่อเสียงด้านความอัจฉริยะ…”

“ผู้ที่กล้าอ้างตัวว่าเป็นสานุศิษย์สวรรค์เบื้องบน ใครบ้างล่ะที่ไม่ใช่อัจฉริยะสติปัญญาฉลาดลํ้าเลิศ?”

บางคนเยาะหยัน “ส่วนใหญ่ มิใช่ถูกพิสูจน์ว่าเป็นตัวปลอมหรอกหรือ?”

“นี่ก็ถูก”

ทูกคนถกเถียงซุบซิบกันอยู่ตรงนั้น

“แปลกนัก ถึงแม้การทดสอบนี้จะยุ่งยากซับซ้อน แต่ก็สามารถเสร็จสิ้นภายในหนึ่งวัน แล้วทำไมทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายถึงรั้งอยู่ที่นั้นนานขนาดนี้?” บางคนกังขา

ซานซิงยิ้มมิเชิงยิ้ม “ได้ยินว่าแม่นางอวิ๋นซิงหลัวผู้นั้นหลังจากเปิดเผยว่าตัวเองเป็นศิษย์ของสวรรค์เบื้องบนก็หายตัวไป ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายต้องไปตามหาด้วยตัวเอง…”

ทุกคนตกตะลึง

มีบางคนถึงขั้นกุมขมับ “เหมือนกับคุณหนูกู้ของอาณาจักรเราเลย หายตัวไปก่อนทำการทดสอบเหมือนกัน…”

ทุกคนพูดคุยกันอย่างคึกคัก

ในระหว่างนี้กู้ซีจิ่วที่ไม่มีความผิดใดก็โดนลากเข้าไปเอี่ยวด้วยสามสี่ครั้ง ทุกคนนำไปเปรียบเทียบกับอวิ๋นซิงหลัวผู้นั้น แน่นอนว่าผลลัพธ์ของการเปรียบเทียบคือคุณสมบัติของกู้ซีจิ่วเทียบอวิ๋นซิง หลัวไม่ได้เลยสักด้าน

อัตลักษณ์ต่างๆ ของอวิ๋นซิงหลัวตั้งแต่ถือกำเนิดจนถึงปัจจุบันค่อนข้างคล้ายคลึงกับฮวาอู๋เหยียนเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว แถมนางยังแตกฉานศาสตร์วิชาบางอย่างได้โดยไม่มีอาจารย์ชี้แนะ ดังนั้นมีความเป็นไปได้เต็มร้อยว่านางจะเป็นผู้ที่สวรรค์ประทานความสามารถให้ตัวจริง…

กู้ซีจิ่วยุ่งง่วนอยู่ตลอด ฟังบทสนทนาของพวกเขาโดยไม่พูดแทรก ตั้งแต่แยกกันที่แท่นเบิกสวรรค์เธอก็ไม่เคยพบทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายอีกเลย เขาก็ไม่ได้มาหาเธอเช่นกัน

‘เจ้านาย คนพวกนี้ตาไม่มีแวว ท่านเหนือกว่าอวิ๋นซิงหลัวผู้นั้นมาก!’ หยกนภาขุ่นเคือง

กู้ซีจิ่วเพียงยิ้มแต่ไม่กล่าวอะไร

‘เจ้านาย หลายเดือนมานี้ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายไม่เคยมาหาท่านเลยจริงๆ หรือ?’

กู้ซีจิ่วเหล่มองมัน ‘คำถามนี้เจ้าถามไปสองหนแล้ว!’

‘ข้าแค่แคลงใจนิดหน่อยเท่านั้น ข้านึกว่าเขามาหาท่านหลายครั้ง’

ถึงอย่างไรก่อนการทดสอบคนผู้นี้ก็ทำตัวเหมือนแผ่นยาหนังสุนัขที่สลัดไม่หลุด ไม่ว่าเจ้านายของมันจะหนีไปที่ใดก็จะเห็นเขาโผล่ออกมาเสมอ ทำให้หยกอย่างมันแทบจะเกิดเงามืดในใจ

ยามนี้จู่ๆ ก็วางมือไปเสียดื้อๆ ไม่โผล่มาเลยเกือบครึ่งปี ทำให้หยกนภารู้สึกไม่คุ้นชิน จึงบ่นพึมพำต่อ ‘ข้ารู้สึกว่าเขาควรจะมาหาท่านบ้าง’

กู้ซีจิ่วตอบย่างไม่อินังขังขอบ ‘มาหาข้าทำไม? ข้าทดสอบเสร็จสิ้นแล้ว!’

หยกนภาพึมพำ ‘…ก็ถูก’

มันพลันรู้สึกยินดีในคราวเคราะห์ของผู้อื่น ‘ตอนนี้เปลี่ยนให้อวิ๋นซิงหลัวผู้นั้นได้ลิ้มรสวิธีไล่ล่าคนอันน่าหวาดผวาของเขาบ้าง ข้าเดาว่านางก็หนีไปเองเหมือนกัน มิฉะนั้นจะหายไปอย่างประจวบ เหมาะเช่นนี้ได้อย่างไร?’

กู้ซีจิ่วไม่ตอบอะไร

จินตนาการของหยกนภาลํ้าเลิศนัก ‘ข้าเดาว่านางต้องไม่เชี่ยวชาญการหลบหนีแบบท่านแน่ๆ ต้องถูกจับกลับมาอย่างรวดเร็วแน่นอน ไม่เหมือนกับท่าน จับไว้ก็สามารถหนีออกมาได้อยู่ดี ทำให้เขาโมโหจนต้องเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน’

‘ข้าจะถือว่าเจ้าชมข้าแล้วกัน’

‘ย่อมเป็นการชมท่าน! นางเทียบแม้แต่ปลายนิ้วของท่านไม่ได้ด้วยซ้ำ! เหอะ!’ หยกนภายิ่งทะนง ‘เจ้านายของข้าคือผู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุด!’

กู้ซีจิ่วยิ้ม ‘สายตาเสี่ยวชางช่างมีแววนัก! น่าเสียดายที่ห่เจ้าดื่มสุราไม่ได้ มิเช่นนั้นกลับไปแล้วข้าจะคารวะเจ้าสักจอก’

หยกนภาชะงักไปครู่หนึ่ง น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นกลัดกลุ้มอีกครั้ง ‘ถึงจะเป็นเช่นนั้น เจ้านาย เหตุใดข้ารู้สึกไม่ค่อยสบายกันนะ?’

คู’ซีจิ่วถามอย่างเป็นกังวล ‘เจ้าหลับไปเกือบครึ่งปีแล้ว ตอนนี้ยังรู้สึกไม่สบายอยู่หรือ? ไม่สบายตรงไหน? อยากพักผ่อนต่ออีกหน่อยไหม?’

หยกนภานิ่งงัน มันไม่ได้รู้สึกไม่สบายแบบนั้น

‘เจ้านาย กว่าห้าเดือนนี้เขาไม่เคยมาหาท่านสักครั้งเลยหรือ? บางทีเขาอาจจะแอบมาพบท่านโดยที่ท่านไม่รู้ตัวแล้ว…’

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version